วันนี้ (13 สิงหาคม) กลุ่มนักกิจกรรมทางการเมืองที่ใช้ชื่อว่า โมกหลวงริมน้ำ จัดกิจกรรมชุมนุมในรูปแบบคาร์ม็อบ ชื่อ ‘เราจะไปไล่หนูท่อ หมอเก๊ พ่อค้ากัญชาเถื่อน แล้วไปดัดสันหลังเพื่อนรว๊ากส์ ที่หักเหลี่ยมกันหน้าด้านๆ’ โดยเริ่มตั้งขบวนรถเวลา 14.00 น. ที่สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต มีจุดหมายคือพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทย
โดยผู้จัดระบุจุดประสงค์ว่า เพื่อทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ขับไล่ และส่งเสียงสะท้อนความไม่พอใจไปยังกลุ่มจัดตั้งรัฐบาลล่าสุดซึ่งนำโดยพรรคเพื่อไทย
ด้าน เก็ท-โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง สมาชิกกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ระบุว่า วันนี้ต้องการสื่อสารให้พรรคการเมืองทำตามเสียงประชาชนอย่างแท้จริง สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่รัฐธรรมนูญเขียนว่าให้สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้นั้น แต่ความเป็นจริงแล้ว สว. ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ฉะนั้นไม่ควรโหวตสวนประชามติประชาชน
ซึ่งตอนนี้กลายเป็นว่ากระแสการเมืองและสังคมเปลี่ยนไปมาก ผู้มีอำนาจในพรรคการเมืองที่เคยสัญญากับประชาชนว่าจะไม่จับมือกับพวกฝั่งตรงข้ามก็ไปจับมือ และจะมาบอกว่าเป็นแค่เทคนิคการหาเสียง ทำให้เสียความรู้สึกมาก เพราะเป็นการขายนโยบายโกหกประชาชน
โสภณกล่าวต่อว่า พรรคการเมืองที่เคยสร้างความเสียหายกับประชาชนอย่างพรรคภูมิใจไทยก็ทำให้ประชาชนเจ็บช้ำมามาก แต่พรรคเพื่อไทยจะมาจับมือร่วมจัดตั้งรัฐบาลนั้น ถือว่าคุณไม่เห็นหัวของประชาชนหรืออย่างไร และที่ผ่านมาในสภาคุณเองก็เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
สำหรับการทำกิจกรรมในวันนี้ มวลชนจะเคลื่อนขบวนไปที่พรรคภูมิใจไทยเป็นอันดับแรก เพื่อไปแสดงความไม่ไว้วางใจอนุทินที่เคยสร้างความเสียหายในช่วงการแพร่ระบาดโรคโควิด และไม่มีความรู้ด้านการแพทย์ ส่วนการทำกิจกรรมที่หน้าพรรคเพื่อไทย ก็เพราะพรรคเพื่อไทยเคยขายนโยบายไว้อย่างสวยหรูกับประชาชน แต่มาผิดคำพูดกับประชาชน
เมื่อถามว่าจะมีการยกระดับการชุมนุมหรือไม่ โสภณกล่าวว่า คำว่ายกระดับตอนนี้ถูกใช้กันอย่างมาก ฉะนั้นเราจะใช้องค์ความรู้สื่อสารออกไปให้สังคมเข้าใจเรื่องการจัดชุมนุม สิ่งนี้มีความสำคัญกว่าการยกระดับ
เมื่อถามว่าการนัดชุมนุมทำกิจกรรมที่ผ่านมามีความคืบหน้าไปอย่างไรบ้าง โสภณกล่าวว่า ตอนนี้ทุกอย่างค่อยๆ เปลี่ยนแปลง แม้ความคืบหน้าอาจจะยังไม่เห็นได้ชัด แต่ที่ผ่านมาก็คิดว่าพรรคเพื่อไทยก็ยังฟังเสียงประชาชนอยู่บ้าง เห็นได้จากการจะจับมือร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองไหนก็มีการหยั่งเชิงเสียงของประชาชน