ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนเข้ามาลงทุนในไทยต่อเนื่อง คาดปีนี้มูลค่าสะพัดไม่ต่ำกว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ โดยกรมการขนส่งทางบกเผย ครึ่งแรกของปี 2566 (เดือนมกราคม-มิถุนายน) ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในไทยทะลุ 31,738 คัน โดยมากกว่าถึง 3 เท่าของจำนวนทั้งหมดในปี 2565 และแบรนด์น้องใหม่อย่าง NETA V สามารถก้าวขึ้นครองแชมป์แซง BYD ได้เป็นครั้งแรกในปีนี้ ด้วยยอดจดทะเบียนรวม 2,023 คัน ภายในเดือนเดียว
รายงานข่าวจากสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าปีนี้จะมีมูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 1.44 พันล้านดอลลาร์ จากนโยบายการส่งเสริมการลงทุนที่ได้ออกมาตรการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามนโยบาย 30/30 ในปี 2573 และจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 30% ของการผลิตรถยนต์ในประเทศ ทำให้การเข้ามาของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนขณะนี้ช่วยเพิ่มความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคอาเซียน และในปี 2567 จะมีทั้งการลงทุนจากรายใหม่อย่าง GAC และ Chery ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนที่กำลังมีแผนการเปิดตัวแบรนด์และจำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
รายงานจากกรมขนส่งทางบกระบุว่า ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยครึ่งแรกของปี 2566 (เดือนมกราคม-มิถุนายน) รวม 31,738 คัน คิดเป็นมากกว่าถึง 3 เท่าของจำนวนทั้งหมดในปี 2565 โดยแบรนด์ที่มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าสูงที่สุดในประเทศไทยประจำเดือนมิถุนายน 2566 ได้แก่ NETA V สามารถก้าวขึ้นครองแชมป์ได้เป็นครั้งแรกในปีนี้ ด้วยยอดจดทะเบียนรวม 2,023 คัน ภายในเดือนเดียว ถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยมีการจดทะเบียนมาของรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนน้องใหม่นี้ จากยอดรวมทั้งหมด 7,637 คัน สูงที่สุดในปีนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ไขคำตอบ ทำไม ‘Wuling’ Air EV แบรนด์รถจากจีนจึงเลือกผลิตในอินโดนีเซีย และเข้ามาทำตลาดในไทย
- คลื่น EV จีน กำลังซัดรถยนต์ญี่ปุ่นให้หายไปจากไทย! เมื่ออีก 3 ปี รถยนต์ไฟฟ้าบนท้องถนนไทยจะทะยานเป็น 100 ล้านคัน
- ‘SVOLT’ ยักษ์แบตเตอรี่จีน ทุ่ม 1,250 ล้านบาท ปักหมุดไทยฐานผลิตแบตเตอรี่ EV แห่งแรกอาเซียน! ป้อน GWM และ NETA เริ่มสายพานผลิตปี 67
สำหรับยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า (จดป้ายขาวครั้งแรก) เดือนมิถุนายน 2566 ใน 10 อันดับสูงสุด มีดังนี้
- NETA V จำนวน 2,023 คัน
- BYD ATTO 3 จำนวน 1,857 คัน
- ORA Good Cat จำนวน 959 คัน
- Tesla Model Y จำนวน 814 คัน
- Tesla Model 3 จำนวน 411 คัน
- MG EP จำนวน 348 คัน
- MG4 Electric จำนวน 298 คัน
- MG ES จำนวน 155 คัน
- Volvo XC40 EV จำนวน 121 คัน
- MG ZS EV จำนวน 107 คัน
ทำไมน้องใหม่ NETA V ขึ้นอันดับ 1
ความน่าสนใจของ NETA V นั้นนอกจากแนวคิด ‘Touchable Smart EV’ แล้ว ยังโดดเด่นด้วยความเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเริ่มต้นด้วยพิกัด B-Segment ที่เปิดราคาจำหน่ายเพียง 549,000 บาท และ 1 ชาร์จ ขับได้ระยะทางสูงสุด 384 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC และยังเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถชาร์จกระแสตรง DC Quick Charge จาก 30-80% ในระยะเวลาประมาณ 30 นาที ที่สำคัญคือตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
NETA V ถือเป็นแบรนด์ที่ราคาต่ำที่สุดในท้องตลาดขณะนี้ อีกทั้ง NETA มีรถพร้อมส่งมอบในหลายโชว์รูม ไม่ต้องรอยาวนานหลายเดือนเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
โดย NETA V มีให้เลือก 5 สี ประกอบด้วยสีเขียว Cyan, สีขาว White Storm, สีชมพู Sakura Pink, สีเทา Midnight Grey และสีฟ้า Sky Blue
ทั้งนี้ นอกจาก NETA มีแผนการผลิตที่ประเทศไทยแล้ว ยังมีแผนที่จะขยายสายผลิตภัณฑ์ไปยังรถยนต์รุ่นอื่นๆ โดยมีทั้ง NETA S รถสปอร์ตซีดานไฟฟ้าที่มีประตูหน้าแบบกรรไกร ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าที่วางจำหน่ายแล้วในจีน และกำลังเข้าสู่ตลาดยุโรป
NETA S มีคุณสมบัติไฮเทคมากมาย รวมถึงไดรฟ์อัตโนมัติระดับ 3 และ Smart Cockpit พร้อมจอแสดงผลสี่จอ
โดยขณะนี้ NETA Thailand กำลังทดสอบตลาดด้วย NETA S ซึ่งจะช่วยให้บริษัทแข่งขันในตลาดกลุ่มที่สูงกว่า NETA V มากยิ่งขึ้น
อ้างอิง: