×

คลื่น EV จีน กำลังซัดรถยนต์ญี่ปุ่นให้หายไปจากไทย! เมื่ออีก 3 ปี รถยนต์ไฟฟ้าบนท้องถนนจะทะยานเป็น 100 ล้านคัน

11.07.2023
  • LOADING...

กระแส EV จีนในไทยสุดฟีเวอร์ อาจกำลังเขย่าเจ้าตลาดญี่ปุ่น หลังจากช่วง 3 ปีค่ายยักษ์ใหญ่จากจีนอย่าง BYD-GWM เข้ามาลงทุนในไทยสูงถึง 1.44 พันล้านดอลลาร์ แม้แต่สยามกลการ ผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ก็ยังมีแผนจะทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเจาะกลุ่มไฮเอนด์ ขณะที่งานวิจัย Bloomberg ประเมินตลาด EV ไทย เติบโตรวดเร็ว และปี 2569 หรืออีก 3 ปี ยอดขายรถยนต์สันดาปทั่วโลกจะหดตัวสูงสุด 39% บนท้องถนนผู้คนจะเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าพุ่งทะยานถึง 100 ล้านคัน

 

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยอย่างรวดเร็วและถือเป็นอัตราก้าวกระโดด นับตั้งแต่ปี 2563 ค่ายรถยนต์จากจีนนำซัพพลายเออร์เข้ามาลงทุนในประเทศรวมมูลค่าการลงทุน 1.44 พันล้านดอลลาร์ 

 

เริ่มจาก Great Wall Motor (GWM) ที่เข้ามาตั้งโรงงานและทำตลาดในประเทศไทย เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำภูมิภาคสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริด เริ่มผลิต Ora Good Cat EV ที่ถือว่าเป็นรุ่นยอดนิยม และยังนำบริษัทในเครืออย่าง MIND Electronics, HYCET และ Nobo Auto ที่ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบส่งกำลัง และเบาะนั่ง เข้ามาด้วย เนื่องจากนโยบายรัฐบาลมีมาตรการส่งเสริมและกระตุ้นการลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง: 


 

จากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น ในฐานะเจ้าตลาดรถยนต์ซึ่งไทยถือเป็นตลาดสำคัญ กำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ เนื่องจากแนวทางการพัฒนารถยนต์ EV ที่ล่าช้า และไม่มีนโยบายผลักดันมากนัก 

 

แม้แต่สยามกลการ (Siam Motors) ผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทย ผู้ริเริ่มสร้างโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ Nissan ขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทย และมีสายสัมพันธ์อันยาวนานกับบริษัทญี่ปุ่น ก็กำลังแสวงหาโอกาสและพันธมิตรใหม่ๆ ที่นอกเหนือจากรถยนต์สันดาป 

 

โดย เซบาสเตียน ดูปุย รองประธานสยามกลการ ออกมาเผยว่า เนื่องจากตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงกำลังหารือและมองหาโอกาสใหม่กับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV จากจีนหลายราย เพื่อเจาะกลุ่มไฮเอนด์ 

 

ทุนจีนเบียดแซงญี่ปุ่น

 

ขณะนี้การลงทุนจากจีนจึงแซงหน้าญี่ปุ่นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วในฐานะนักลงทุนต่างชาติอันดับหนึ่ง โดยหลักๆ ได้แรงหนุนจากการลงทุนค่ายยักษ์ใหญ่ BYD ทั้งโรงงานแห่งใหม่และท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลไทยในการดึงดูดผู้ผลิต EV  จีน ให้มาลงทุนต่อเนื่อง

 

โดยพบว่า จากจำนวนรถยนต์ใหม่เกือบ 850,000 คันที่จดทะเบียนในไทยเมื่อปี 2565 มีเพียงประมาณ 1% เท่านั้นที่เป็นรถ EV 

 

แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายนของปี 2566 สัดส่วนของรถยนต์ EV เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 6% จากยอดขายหลักที่มาจาก BYD ตามมาด้วย SAIC, Hozon และ Tesla ของ อีลอน มัสก์ จากสหรัฐอเมริกา ตอกย้ำจากข้อมูลการจดทะเบียนเดือนมกราคม-เมษายนพบการจำหน่ายรถ EV ทั้งหมด 18,481 คันในไทย ซึ่งในจำนวนนี้มากกว่า 7,300 คันเป็นของแบรนด์ BYD

 

หันมาที่เจ้าตลาดดั้งเดิมจากญี่ปุ่นอย่าง Toyota ที่ร่วมกับพันธมิตรอย่าง Isuzu และ Honda แม้ยังครองสัดส่วนเกือบ 70% ของยอดขายรถยนต์และรถบรรทุกทั้งหมดในไทยเมื่อปีที่แล้ว แต่ปีนี้ Toyota มีรถยนต์ EV ที่จดทะเบียนใหม่เพียงแค่ 11 คันเท่านั้น

 

ฮาจิเมะ ยามาโมโตะ หัวหน้าแผนกที่ปรึกษาของสถาบันวิจัยโนมูระในประเทศไทย ระบุว่า แบรนด์รถยนต์จีนมีศักยภาพเหนือญี่ปุ่นที่เจาะได้เพียงกลุ่มพรีเมียม อนาคตคาดว่าจะแย่งส่วนแบ่ง 15% ได้ในทศวรรษหน้าอย่างรวดเร็ว ด้วยการส่งมอบรถ EV ในราคาที่ย่อมเยา

 

คาดอีก 3 ปี ยอดขายรถยนต์สันดาปหดตัวสูงสุด 39%

 

แอลเลน ทอม อับราฮัม ผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก BloombergNEF (BNEF) เปิดเผยรายงานแนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ปี 2566 ว่า ผู้บริโภคตลาดอาเซียนเปลี่ยนมาใช้รถ EV อย่างก้าวกระโดด โดยสะท้อนจากงานวิจัยของหน่วยงานวิจัยข้อมูลโภคภัณฑ์และการพัฒนาสู่ความยั่งยืนที่ระบุว่า ขณะนี้ไทยและสิงคโปร์ได้ก้าวเป็นผู้นำ EV ที่สุดในอาเซียน มากไปกว่านั้นตลาดอาเซียนมีอัตราการเติบโต EV สูงถึง 220% 

 

โดยประเทศที่เป็นเจ้าตลาดรถ EV คือจีน ในตลาดรถยนต์นั่ง โดยไทยเป็นประเทศที่เติบโตอย่างรวดเร็วจากแรงกระตุ้นจากนโยบายส่งเสริมจากภาครัฐ ทำให้มีค่ายรถจีนเข้ามาให้เลือกหลากหลาย และผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายขึ้น  

 

อย่างไรก็ตาม รถยนต์ EV ในไทยและทั่วโลก อาจจะยังไม่สามารถเข้ามาแทนที่รถยนต์เครื่องสันดาปได้ทั้งหมด โดยช่วงที่ผ่านมายอดขาย EV อยู่ในช่วงขาลง บวกกับสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาที่อุตสาหกรรมยานยนต์ขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์  

 

แต่ท้ายที่สุดคาดการณ์ว่า ปี 2569 ผู้คนจะหันมาใช้รถยนต์ EV และยอดขายรถยนต์สันดาปจะหดตัวลงสูงสุดถึง 39% 

 

อเล็กซานดรา โอโดโนเเวน หัวหน้าฝ่ายวิจัยรถยนต์ไฟฟ้า BloombergNEF (BNEF) ระบุว่า ปี 2569 ผู้บริโภคจะหันไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างพุ่งทะยาน และจะมีรถยนต์ไฟฟ้า 100 ล้านคันบนท้องถนน โดยมาจากกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ อย่างเช่น ไทย อินเดีย และอินโดนีเซีย

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising