×

อรุณเบิกฟ้า ทอดน่องท่องเกาะรัตนโกสินทร์ [Advertorial]

02.09.2018
  • LOADING...

สำหรับวันเสาร์อาทิตย์ของชาวกรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่ถ้าไม่หมดเวลาไปกับการบิดขี้เกียจกลิ้งขลุกอยู่บนเตียง ก็เหมาะจะเป็นวันที่ตื่นสาย ทำกิจวัตรส่วนตัวถึงคล้อยบ่ายแล้วค่อยเริ่มต้นวัน กินข้าว ดูหนัง นั่งชิลวนอยู่อย่างนั้น จนบางครั้งก็เบื่อไม่รู้จะทำอะไร เพราะรู้สึกว่าไม่มีที่จะให้ไป แต่ถ้าลองนึกดีๆ อาการไม่รู้จะไปไหนส่วนใหญ่เพราะมีเวลาจำกัดแค่ช่วงบ่ายถึงค่ำเท่านั้น

 

เพื่อทำวันหยุดเสาร์อาทิตย์ให้มีชีวิตชีวา THE STANDARD เลยขอชวนชาวกรุงให้แข็งใจตื่นขึ้นอีกนิด ล้างหน้าให้สดชื่น หยิบรองเท้าวิ่งคู่เก่ง แล้วมาใช้ชีวิตรอบเกาะรัตนโกสินทร์ในช่วงเช้า ลบภาพร้านนั่งชิลแถวโป๊ะท่าเตียน ล้างภาพความครึกครื้นของถนนพระอาทิตย์ มาสูดอากาศสดชื่นเย็นนิ่งที่เราไม่เคยสัมผัส จากที่ที่เคยไปจนชิน แค่เปลี่ยนเวลาก็ทำให้เรามองมันต่างไปจากเดิม และให้พิเศษขึ้นอีกนิดลองหยิบกล้อง Mirrorless ขนาดเล็กพกสะดวกอย่าง Canon EOS M50 ไปด้วย ถ้าเพื่อนสนิทหรือแฟนตื่นไปเที่ยวด้วยกันไม่ไหว ถ้าพร้อมรับอากาศเย็นตอนเช้าเรามาเริ่มย่ำเท้าไปกัน

 

สวนสราญรมย์

ไหนๆ ก็ลงทุนตื่นเช้าก็ทำให้เป็นเช้าที่พิเศษสุดๆ ด้วยการออกมาวิ่งกัน เปลี่ยนจากการวิ่งลู่ในฟิตเนสหลังเลิกงานมาวิ่งที่สวนบ้าง ก็ทำให้การออกกำลังกายสนุกไปอีกแบบ โดยเฉพาะสวนสราญรมย์ซึ่งเป็นสวนสาธารณะในเกาะรัตนโกสินทร์ที่ขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป สำหรับใครที่เป็นมือใหม่หัดวิ่งหรืออยากเริ่มจากเดินก็ขอให้มาที่สวนนี้ เพราะ 1 รอบการเดินไม่ได้เหนื่อยจนทำให้เราท้อ แถมระหว่างทางยังร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาชนิด และหากสังเกตดีๆ จะเห็นกระรอกวิ่งไล่กันโดยที่ในชีวิตปกติเราไม่มีโอกาสได้เห็น

 

 

หรือถ้าวิ่งจนเหงื่อชุ่มหลัง ในสวนสราญรมย์ยังมีศาลาพักที่ออกแบบอย่างสวยงาม ทั้งศาลาเรือนกระจก ศาลากระโจมแตร ศาลาแปดเหลี่ยมให้นั่งหย่อนใจ ที่มีศาลาสวยแบบนี้เพราะเดิมทีสวนสราญรมย์เคยเป็นเขตพระราชฐานที่ออกแบบให้เป็นสวนพฤกษศาสตร์แบบเดียวกับต่างประเทศ แต่ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะที่คนส่วนใหญ่สามารถมาเดินเล่นออกกำลังกายได้ตั้งแต่ 05.00-21.00 น.

 

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์

 

 

หลังจากสดชื่นจากการวิ่ง ข้ามถนนจากสวนสราญรมย์มาฝั่งตรงข้ามเราก็จะเห็นวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ อย่าเพิ่งเบื่อที่พามาวัดตั้งแต่เช้า เพราะเชื่อไหมว่าวัดโพธิ์ที่เราขับรถผ่านกันเป็นประจำนั้นมีอะไรให้ตื่นตาตื่นใจข้างในอีกมาก ยิ่งการมาตั้งแต่เช้าทำให้เราเห็นวัดโพธิ์ในมุมที่เงียบสงบต่างไปจากช่วงบ่ายที่คลาคล่ำด้วยนักท่องเที่ยวอย่างที่เราเคยเห็นกัน

 

เดินเข้ามาเราจะเห็นเจดีย์ตั้งเรียงราย เจดีย์ทั้งหมดเป็นศิลปะแบบย่อมุมไม้สิบสอง คือแทนที่มุมจะเป็นเหลี่ยมฉากตรงๆ ทั้ง 4 มุมก็ขยักเข้าไปอีกมุมละ 3 ตัว เจดีย์ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ โดยเฉพาะด้านในกำแพงแก้วคือพระมหาเจดีย์สี่รัชกาล ทั้งพระมหาเจดีย์ศรีสรรเพชดาญาณ ประจำรัชกาลที่ 1 ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีเขียว พระมหาเจดีย์ดิลกธรรมกรกนิทาน ประจำรัชกาลที่ 2 ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีขาว พระมหาเจดีย์มุนีบัตบริขาร ประจำรัชกาลที่ 3 ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีเหลือง และพระมหาเจดีย์ทรงพระศรีสุริโยทัย ประจำรัชกาลที่ 4 ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินเข้ม เมื่อพินิจรายละเอียด เราจะเห็นวิธีการประดับกระเบื้องเคลือบที่ยึดกับตัวเจดีย์ทีละชิ้น เจดีย์ยิ่งสวยงามละเอียดลออมากขึ้นไปอีก

 

ถ้าเดินเพลินจนสายหน่อยนักท่องเที่ยวเริ่มหนาตา อาจจะทำให้ถ่ายรูปไม่สะดวก แต่สำหรับกล้อง Canon EOS M50 ที่ขนาดเล็ก ยกขึ้นมาถ่ายได้ง่าย เจอจังหวะไหนที่ไม่มีนักท่องเที่ยวก็ยกขึ้นมาถ่ายได้ทันที หรือถ้ามีคนเดินเข้าเฟรมบ้าง กล้องก็ไม่ได้ดูเป็นการคุกคามแต่อย่างใดด้วยขนาดที่กำลังพอดี

 

 

Ha Tien Cafe

เดินเลียบวัดโพธิ์มาเรื่อยๆ เราก็จะพบกับท่าเตียนที่ทุกวันนี้มีร้านอาหารและคาเฟ่น่ารักเพิ่งเปิดบริการมากมาย โดยเฉพาะคาเฟ่สุดฮิตที่เพิ่งเปิดบริการอย่าง Ha Tien Cafe ที่แฝงตัวอยู่ในตึกทรงโบราณในซอยประตูนกยูง โดยชื่อ Ha Tien (ฮาเตียน) มาจากชื่อของเมืองท่าตอนใต้ของประเทศเวียดนาม ซึ่งช่วงต้นของกรุงรัตนโกสินทร์แถบท่าเตียนนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเวียดนามที่อพยพหนีภัยสงครามและเรียกบริเวณนี้ว่าฮาเตียนจนเพี้ยนมาเป็นท่าเตียนอย่างที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน

 

ภายใน Ha Tien Cafe ตกแต่งด้วยแอนทีกเฟอร์นิเจอร์และกรอบรูปโบราณที่แขวนอยู่บนผนังไม้ดั้งเดิมของตึก ทำให้รู้สึกอดไม่ได้ที่จะหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาถ่าย แถม Intelligence Mode ของ Canon EOS M50 ก็ยังสะดวกสุดๆ ด้วยการปรับแสงอัตโนมัติที่แม้ว่าจะถ่ายรูปไม่เก่งอย่างไร กล้องก็ปรับให้ได้ภาพที่สวยด้วยแค่กดชัตเตอร์เดียวเท่านั้น ทั้งการถ่ายตัวอาคารหรืออาหารก็ตาม

 

พูดถึงอาหารนอกจากกาแฟซิกเนเจอร์อย่างกาแฟมะตูมหรือยูสุเอสเพรสโซแล้ว สิ่งที่อยากแนะนำเป็นพิเศษคือบรรดาเค้กต่างๆ ที่เป็นมิตรต่อเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมมากๆ เพราะถูกตกแต่งอย่างสวยงาม แถมรสชาติพิเศษอย่างเค้กแครอตที่ฟังดูธรรมดา แต่เมื่อโปะด้วยครีมชีสฟรอสต์แล้วราดด้วยน้ำผึ้งมะนาว ทำให้เค้กแครอตที่ไม่ได้หวานจัดยิ่งมีมิติมากขึ้น ได้กินอะไรอร่อยๆ ตอนเช้าแถมได้มีรูปสวยๆ ลงในโซเชียลเน็ตเวิร์กก็ยิ่งคุ้มสำหรับการตื่นเช้าจริงๆ

 

เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันอังคารถึงวันอาทิตย์ ตั้งแต่ 09.00-20.00 น. ปิดวันจันทร์

Facebook: www.facebook.com/hatiencafebkk

 

 

Vimalin

ดื่มกาแฟกินเค้กอย่างเดียวตอนเช้าอาจไม่อยู่ท้อง เราขอให้เดินย้อนกลับมาทางสวนสราญรมย์จนถึงศาลาเฉลิมกรุง เลียบฝั่งตรงข้ามดิโอลด์ สยามจนถึงสี่แยกจะเจอคาเฟ่อีกแห่งที่ขายทั้งกาแฟและอาหารโฮมเมดง่ายๆ แต่อยู่ท้องชื่อ Vimalin คาเฟ่ 2 ชั้นขนาดกะทัดรัดที่จัดสรรพื้นที่ได้เกิดประโยชน์สูงสุด เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะพบภาพวาดขนาดใหญ่ราวกับเป็นอาร์ตแกลเลอรี ตรงข้ามเป็นเคาน์เตอร์สั่งอาหารที่เราสามารถเลือกสั่งเซตอาหารเช้าพร้อมกาแฟร้อน หรือข้าวหน้าคาคุนิสามชั้นตุ๋นกับไข่ออนเซน ก่อนจะพาตัวเองขึ้นไปชั้นบนที่ทาผนังด้วยสีฟ้าประกอบกรอบรูปวินเทจที่แสนจะถ่ายรูปขึ้น หรือหากอยากปล่อยใจก็สามารถเลือกนั่งริมหน้าต่างกระจก มองลงไปเห็นสี่แยกพาหุรัดที่มีรถสัญจรไปมาตลอดเวลาก็ได้

 

เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันจันทร์ถึงวันเสาร์ 07.15-18.00 น. วันอาทิตย์ 09.00-18.00 น. หยุดทุกวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน

Facebook: www.facebook.com/Vimalin-1630054667267659  

 

 

พาหุรัด

ตรงข้ามร้าน Vimalin คือย่านขายส่งผ้าที่เรารู้จักกันดีในชื่อพาหุรัด หลายคนไม่เคยลองเดินเที่ยวเพราะคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องซื้อผ้าหรือไม่ก็ไปสำเพ็งสนุกกว่าเป็นไหนๆ แต่วันนี้ได้ตื่นเช้าทั้งที อยากให้ลองเปิดใจแบบไม่ต้องซื้อผ้า แต่ลองคว้ากล้องถ่ายรูปตัวเล็ก สมมติตัวเองเป็นนักท่องเที่ยว เปิดสายตาใหม่ไปเดินย่าน Little India ของกรุงเทพฯ กัน

 

จริงอยู่ว่าพาหุรัดสินค้าหลักๆ คือผ้าพับหลากสีที่เป็นม้วนๆ แต่องค์ประกอบย่านนี้ที่มากกว่านั้นคือ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าชาวต่างชาติที่โพกหัวห่มส่าหรีมาขายผ้ากันอย่างสนุกสนาน เดินเข้าไปลึกอีกนิดเราจะได้กลิ่นกำยานจากร้านขายเครื่องบูชา และถ้ายิ่งลัดเลาะลึกขึ้นจะเจอร้านขายชุดส่าหรี เครื่องแต่งตัวแขกที่ถ่ายรูปขึ้นกล้องราวกับวาร์ปมาต่างประเทศ

 

ไม่ต้องกังวลว่าถ้าจะมาถ่ายรูปสตรีทแถวนี้จะลำบาก เพราะกล้องถ่ายรูปที่พกมาอย่าง Canon EOS M50 เล็กระดับที่ยกขึ้นถ่ายได้ง่าย ถือกระชับแบบไม่ต้องกลัวตก ระยะซอยที่ไม่กว้างแต่กล้องตัวนี้ก็เก็บได้หมด แถมบางครั้งเผลอยกขึ้นกดแบบไม่ต้องสนใจองค์ประกอบภาพมากนัก เราก็อาจได้รูปสนุกๆ ที่มู้ดต่างไปจากเดิม

 

 

เรารู้ว่าการตื่นเช้าในวันหยุดไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่ขอให้แข็งใจดูสักครั้ง นอกจากสนุก ได้เห็นอะไรใหม่ๆ อาจพบว่าการตื่นเช้ายังเหลือเวลาทั้งวันให้ทำอะไรอีกตั้งเยอะ แถมยังได้รูปถ่ายแบบที่ไม่เคยได้ จะออกลุยคนเดียวพร้อมกล้องคู่ใจหรือชวนเพื่อนสนิทไปมองเห็นอะไรใหม่ๆ ก็ไม่ผิดกติกา

 

เริ่มวันหยุดนี้เลยดีไหม

 

* รูปถ่ายทั้งหมดถ่ายจากกล้อง Canon EOS M50 โดยไม่ได้รับการตกแต่งใดๆ

 

ภาพ: อธิษฐาน กาญจนะพงศ์

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising