×

กูรูชี้ยกเลิก Test & Go อาจคุ้มค่ากว่าในทางเศรษฐศาสตร์หลังโอไมครอนเริ่มเสี่ยงสูง แนะรัฐรักษาระดับการบริโภคในประเทศประคองการฟื้นตัวในปีหน้า

20.12.2021
  • LOADING...
Test & Go

นริศ สถาผลเดชา หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีทีบี (ttb analytics) กล่าวว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่เริ่มรุนแรงขึ้นในโลก โดยเฉพาะในแถบยุโรปและสหรัฐฯ ทำให้เป็นเรื่องที่เข้าใจได้หากภาครัฐของไทยจะพิจารณายกเลิกการเดินทางในประเทศแบบ Test & Go แล้วกลับไปใช้วิธีการกักตัวแบบ State Quarantine แทน เนื่องจากปัจจุบัน 49% ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมาจากยุโรปและ 16% มาจากสหรัฐฯ ซึ่งมีความเสี่ยงสูง

 

“ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยเฉลี่ย 1 หมื่นคนต่อวัน ซึ่ง 65% มาจากประเทศที่มีความเสี่ยงสูง หากเกิดการระบาดใหญ่อาจไม่คุ้มกัน เราคงไม่อยากเห็นการระบาดที่นำไปสู่การล็อกดาวน์อีกรอบ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการบริโภคภายในประเทศและการส่งออกซึ่งเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเวลานี้” นริศกล่าว

 

หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีทีบีกล่าวว่า การยกเลิกการเดินทางในประเทศแบบ Test & Go จะส่งผลกระทบให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวในปีนี้และปีหน้าลดลงอย่างแน่นอน อย่างก็ไรดี หากชั่งน้ำหนักกับความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดที่จะนำไปสู่การล็อกดาวน์รอบใหม่ก็ยังเป็นสิ่งที่ควรทำและอาจมีความคุ้มค่ามากกว่าในทางเศรษฐศาสตร์ 

 

“ttb analytics คงจะมีการประเมินตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้และปีหน้าใหม่ ก่อนหน้านี้เราคาดว่าปีนี้น่าจะอยู่ที่ 3 แสนคน ส่วนปีหน้าจะอยู่ที่ 7.5 ล้านคน ถ้ามีการยกเลิก Test & Go ตัวเลขน่าจะลดลงจากนี้” นริศกล่าว

 

นริศกล่าวอีกว่า สิ่งที่รัฐบาลควรให้ความสำคัญในเวลานี้คือการป้องกันอย่าให้เกิดเหตุการณ์ที่นำไปสู่การล็อกดาวน์ เพื่อรักษาระดับการบริโภคในประเทศเอาไว้ เนื่องจากแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจไทยเวลานี้อาศัยการบริโภคในประเทศและการส่งออกเป็นหลัก ขณะที่การท่องเที่ยวแม้ว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาแต่ก็ยังเป็นสัดส่วนที่น้อยอยู่เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด

 

“ถ้าสมมติว่าเศรษฐกิจไทยช่วงก่อนโควิดอยู่ที่ 100 จะเห็นว่าเศรษฐกิจไทยในปีก่อนติดลบไป 6 ขณะที่ปีนี้คาดว่าจะโตได้ 1 เท่า กับปัจจุบันเราอยู่ที่ 95 เต็ม 100 ยังเหลืออีก 5 เพื่อจะกลับไปสู่จุดเดิม ซึ่งปีหน้า ttb analytics คาดว่าเราจะโตได้ 3.9 โดยเครื่องยนต์หลักคือการบริโภคในประเทศและการส่งออก เราต้องระวังไม่ให้อะไรมากระทบสองตัวนี้ให้ได้ก่อน ส่วนการท่องเที่ยวแม้ปีหน้าเรามองว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นเป็น 7.5 ล้านคน แต่นั่นก็ยังคิดเป็นแค่ 20% ของระดับ 40 ล้านคนช่วงก่อนโควิด เมื่อมองภาพกว้างแบบนี้จะทำให้เราจัดลำดับความสำคัญได้” นริศกล่าว

 

ด้าน เกวลิน หวังพิชญสุข รองกรรมการผู้จัดการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า หากภาครัฐยกเลิกการเดินทางในประเทศแบบ Test & Go แล้วกลับไปใช้วิธีการกักตัวแบบ State Quarantine จะส่งผลให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กำลังฟื้นตัวเกิดการสะดุด โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนธันวาคมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.5-2 แสนคนต่อเดือน และในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3 แสนคนต่อเดือน อาจจะออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ 

 

“ผลกระทบจะขึ้นอยู่กับความเข้มงวดของมาตรการ ซึ่งในกรณีเลวร้ายที่เรามองไว้คือนักท่องเที่ยวต้องกักตัวทั้งจากฝั่งไทยและขากลับไปประเทศต้นทาง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในปีหน้าจะลดเหลือ 2 ล้านคน ขณะที่การใช้จ่ายในประเทศและการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยเองก็น่าจะได้รับผลกระทบจากการระบาดบางส่วน ทำให้ GDP อาจขยายตัวได้เพียง 2.8%” เกวลินกล่าว

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising