×

ครม. อนุมัติ คงเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2566 ไว้ที่ 1-3% ด้านกระทรวงการคลังมั่นใจ! Headline Inflation กลับเข้ากรอบปีหน้า

27.12.2022
  • LOADING...

ครม. อนุมัติเป้าหมายของนโยบายการเงินประจำปี 2566 โดยคงเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อทั่วไป หรือ Headline Inflation ระยะกลาง และปี 2566 ไว้ที่ 1-3% ด้านกระทรวงการคลังมั่นใจเงินเฟ้อกลับเข้ากรอบปีหน้า แม้เงินเฟ้อทั้งปีนี้อาจพุ่งแตะ 6.2%

 

วันนี้ (27 ธันวาคม) อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเป้าหมายของนโยบายการเงินประจำปี 2566 ซึ่งเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติในมาตรา 28/8 แห่งพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2485 ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 โดยกำหนดให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป หรือ Headline Inflation ในช่วง 1-3% เป็นเป้าหมายของนโยบายการเงินด้านเสถียรภาพราคาสำหรับระยะปานกลาง และเป็นเป้าหมายของนโยบายการเงินสำหรับปี 2566  

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า เป้าหมายที่ 1-3% ยังมีความเหมาะสม เนื่องจาก 1. เป็นการแสดงถึงความตั้งใจที่จะรักษาเสถียรภาพราคา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อสาธารณชน และช่วยยึดเหนี่ยวอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางให้อยู่ในกรอบเป้าหมาย 2. ในช่วงเวลาที่อัตราเงินเฟ้อมีความผันผวนและไม่แน่นอนสูง การปรับเป้าหมายนโยบายอาจสร้างความสับสนต่อสาธารณชนเกี่ยวกับแนวนโยบายในระยะข้างหน้า และ 3. การกำหนดเป้าหมายแบบช่วง 1-3% นี้มีความยืดหยุ่นเพียงพอรองรับความผันผวนของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในระยะปานกลาง รวมถึงช่วยเอื้อให้การดำเนินนโยบายการเงินเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาในระยะปานกลาง สามารถดำเนินการควบคู่ไปกับการดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และการรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน

 

มั่นใจเงินเฟ้อปีหน้ากลับเข้ากรอบ

ในการแถลงข่าว อาคมยังยืนยันคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของกระทรวงคลังอีกครั้งว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยปี 2566 น่าจะอยู่ที่ 2.9% ซึ่งนับว่าอยู่ในกรอบ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2565 นี้อาจพุ่งแตะ 6.5% ก็ตาม

 

โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยังให้คำมั่นว่า กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะร่วมมือในการดำเนินนโยบายการคลัง และนโยบายการเงินให้มีความสอดประสานและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้สามารถบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว และทำให้เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวอย่างมั่นคงและยั่งยืน 

 

โดย กนง. จะเป็นผู้ติดตามแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อดังกล่าว รวมถึงประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่มีต่อพลวัตเงินเฟ้อไทยในระยะต่อไปอย่างใกล้ชิด

 

ทั้งนี้ หากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนที่ผ่านมา หรือประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนข้างหน้า เคลื่อนไหวออกนอกกรอบเป้าหมาย กนง. จะมีจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยจะชี้แจงถึง 

 

  1. สาเหตุของการเคลื่อนไหวออกนอกกรอบเป้าหมายดังกล่าว
  2. แนวทางการดำเนินนโยบายการเงินในช่วงที่ผ่านมาและในระยะต่อไป เพื่อนำอัตราเงินเฟ้อทั่วไปกลับเข้าสู่เป้าหมายในระยะเวลาที่เหมาะสม และ 
  3. ระยะเวลาที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะกลับเข้าสู่เป้าหมาย 

 

นอกจากนี้ กนง. จะมีจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังทุก 6 เดือน หากอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยตามแนวทางข้างต้นยังคงอยู่นอกกรอบเป้าหมาย และจะรายงานความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาเป็นระยะตามสมควร 

 

โดยในกรณีที่มีเหตุอันสมควรหรือจำเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ กนง. อาจตกลงร่วมกันเพื่อแก้ไขเป้าหมายของนโยบายการเงินได้ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising