×

ฉลาดซื้อ เผยผลตรวจชานมไข่มุก 25 แบรนด์ พบเม็ดไข่มุกมีสารกันบูด 100% บางยี่ห้อมีน้ำตาลมากสุด 18 ช้อนชา

11.07.2019
  • LOADING...
ชานมไข่มุก

ฉลาดซื้อ เผยผลตรวจวิเคราะห์สารกันบูด น้ำตาล และโลหะหนักในชานมไข่มุก 25 ยี่ห้อ พบตัวอย่างเม็ดไข่มุกมีสารกันบูด 100% แต่ไม่เกินมาตรฐาน มีเพียง 2 ยี่ห้อที่น้ำตาลน้อยกว่าปริมาณที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ บางยี่ห้อสูงถึง 18 ช้อนชา

 

วันนี้ (11 ก.ค.) ศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค โดยโครงการเฝ้าระวังสินค้าและบริการเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ สุ่มเก็บตัวอย่างชานมไข่มุกในเดือนพฤษภาคม 2562 จำนวน 25 ยี่ห้อ ขนาดแก้วปกติ แบบไม่ใส่น้ำแข็ง ที่มีราคาตั้งแต่แก้วละ 23-140 บาท ส่งตรวจวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการ ได้แก่ ปริมาณพลังงาน น้ำตาล และไขมัน รวมถึงทดสอบหาโลหะหนักประเภทตะกั่ว และสารกันบูดในเม็ดไข่มุก

 

ชานมไข่มุก

 

โดยจากผลทดสอบปรากฏว่า 

 

ยี่ห้อที่มีปริมาณน้ำตาลต่อแก้วน้อยที่สุดคือ 

  • ยี่ห้อ KOI Thé โดยมีปริมาณน้ำตาลเท่ากับ 16 กรัม (4 ช้อนชา) 

 

ยี่ห้อที่มีปริมาณน้ำตาลต่อแก้วมากที่สุดคือ 

  • ยี่ห้อ CoCo Fresh Tea & Juice มีปริมาณน้ำตาล 74 กรัม (18.5 ช้อนชา)

 

ส่วนผลการทดสอบสารกันบูดประเภทกรดเบนโซอิก (Benzoic Acid) และกรดซอร์บิก (Sorbic Acid) ในเม็ดไข่มุก พบว่า 

 

ยี่ห้อที่มีปริมาณสารกันบูดน้อยที่สุดคือ 

  • ยี่ห้อ The Alley มีปริมาณกรดซอร์บิกเท่ากับ 58.39 มิลลิกรัม/กิโลกรัม 

 

ยี่ห้อที่พบปริมาณสารกันบูดรวมมากที่สุดคือ 

  • ยี่ห้อ BRIX Dessert Bar พบปริมาณกรดเบนโซอิกและกรดซอร์บิกรวมกัน เท่ากับ 551.09 มิลลิกรัม/กิโลกรัม แต่ไม่เกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด 

 

โดย สารี อ๋องสมหวัง บรรณาธิการบริหารนิตยสาร ฉลาดซื้อ กล่าวว่า จากผลการทดสอบต้องการให้ผู้บริโภคได้ทราบว่า ชานมไข่มุกบางยี่ห้อมีน้ำตาลมากเกือบ 19 ช้อนชา หากลองนึกภาพตามว่าน้ำตาลปริมาณ 19 ช้อนชานั้นมากมายขนาดไหน ก็จะทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการบริโภคได้มากขึ้น และทุกยี่ห้อมีสารกันบูด แต่ไม่มียี่ห้อไหนที่ให้ข้อมูลแก่ผู้บริโภคเลย

 

บรรณาธิการบริหารนิตยสาร ฉลาดซื้อ กล่าวเสริมว่า อยากฝากข้อเสนอไปถึงผู้ประกอบการให้ปรับลดขนาดปริมาณต่อแก้ว (Serving Size) ลงให้เหมาะสม เพื่อควบคุมไม่ให้ผู้บริโภคได้รับปริมาณพลังงานและน้ำตาลต่อแก้วสูงจนเกินไป เพราะเมื่อผู้บริโภคซื้อชานมไข่มุก ก็อาจบริโภคจนหมดแก้วเพราะความเสียดาย ทำให้พลังงานและน้ำตาลที่ได้รับในหนึ่งมื้อนั้นมากจนเกินความจำเป็น

 

“ในชานมไข่มุกนั้นมีสารกันบูด จึงขอให้ผู้ประกอบการระบุในฉลากให้ถูกต้อง ตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาด้วย และ อย. ควรเร่งผลักดันให้เกิดฉลากสัญญาณไฟจราจร เพื่อทำให้เกิดการปรับปรุงคุณภาพอาหารให้เป็นมิตรกับผู้บริโภคเพิ่มขึ้น” สารีกล่าว

 

ทางด้าน ทันตแพทย์หญิงมัณฑนา ฉวรรณกุล รองผู้จัดการโครงการฯ เครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน กล่าวว่า ด้านปริมาณน้ำตาล องค์การอนามัยโลกแนะนำว่า ไม่ควรบริโภคน้ำตาลเกินวันละ 6 ช้อนชา (24 กรัม) โดยผลทดสอบชานมไข่มุก ยี่ห้อที่มีน้ำตาลน้อยสุดคือ 16 กรัม (4 ช้อนชา) และมากสุดคือ 74 กรัม (18.5 ช้อนชา) ซึ่งเกินกว่าปริมาณที่ควรได้รับถึง 3 เท่า และแม้เครื่องดื่มจะมีน้ำตาลน้อยกว่า 24 กรัม แต่ก็พบว่าใน 1 แก้วมีปริมาณน้ำตาลต่อวันไปแล้ว 2 ใน 3 ซึ่งคาดได้ว่าปริมาณการบริโภคจะเกินข้อแนะนำ

 

“เครื่องดื่มเหล่านี้เป็นเครื่องดื่มที่ควรงดการดื่ม เพราะเป็นแหล่งอุดมน้ำตาล ซึ่งปริมาณน้ำตาลที่สูงหากได้รับในคราวเดียว จะรบกวนระบบการ Metabolite ซึ่งจะทำให้เกิดเป็นกลุ่มโรคเรื้อรังไม่ติดต่อ ซึ่งมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต (NCDs) ได้” ทันตแพทย์หญิงมัณฑนากล่าว

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising