สถานีโทรทัศน์ CNN เผยรายงานกึ่งวิเคราะห์ที่รวบรวมความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ ที่มีต่อกรณีการตัดสินใจประกาศลาออกจากตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน หลังเผชิญมรสุมภาวะข่าวอื้อฉาวมากมาย จนหลายฝ่ายอดตั้งคำถามถึงภาวะผู้นำและจรรยาบรรณด้านวิชาชีพไม่ได้
รายงานระบุว่า การลาออกจะทำให้เกิดภาวะหยุดชะงักที่ทำให้อังกฤษไม่สามารถดำเนินการตัดสินใจใดๆ ได้ จนกว่าจะได้รัฐบาลชุดใหม่
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของอังกฤษในเวลานี้ไม่ได้อยู่ในสถานะที่สามารถรอได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่เงินเฟ้อของอังกฤษพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบหลายสิบปี และอยู่ในระดับที่สูงที่สุดในบรรดากลุ่มประเทศ G7 ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าอัตราเงินเฟ้ออังกฤษจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นมากกว่า 11% ในปลายปีนี้ แม้ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งแล้วก็ตาม
เงินเฟ้อพุ่งสูงยังส่งผลต่อค่าครองชีพของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อราคาอาหารและพลังงานแพงขึ้น ซึ่งกลุ่มคนยากจนหรือผู้มีรายได้น้อย จำเป็นต้องได้รับมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐแบบฉับพลันทันที
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของอังกฤษยังมีแนวโน้มทางลบ เพราะภาวะ Brexit ที่ส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนแรงงาน ต้นทุนภาคธุรกิจที่สูงขึ้น และภาวะค่าเงินปอนด์ที่อ่อนค่า กระทบต่อการนำเข้า
มูลนิธิ Resolution Foundation กล่าวว่า ครัวเรือนในอังกฤษเวลานี้ต้องเผชิญกับมาตรฐานการครองชีพที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ค่าจ้างทั่วไปในวันนี้ยังคงอยู่ในระดับเดิมก่อนวิกฤตการเงินปี 2008
วันเดียวกัน ทางเว็บไซต์สถานีโทรทัศน์ BBC ของอังกฤษรายงานว่า บรรดานักวิเคราะห์ นักเศรษฐศาสตร์ นักธุรกิจ และผู้เชี่ยวชาญในภาคธุรกิจ ต่างออกโรงเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษมุ่งเน้นการรักษาเสถียรภาพความมั่นคงของประเทศ หลังนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ประกาศลาออก เปิดทางให้มีการคัดเลือกสรรหาผู้นำประเทศคนใหม่
บรรดาผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ภาวะสุญญากาศทางการเมืองจำเป็นต้องได้รับการเติมเต็มให้เร็วที่สุด เพื่อปกป้องมาตรฐานความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงช่วยให้สถานการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศขับเคลื่อนไปได้ เพราะสิ่งที่ภาคธุรกิจเกลียดมากที่สุดคือความไม่แน่นอนและการขาดเสถียรภาพ
นายกรัฐมนตรี จอห์นสัน ระบุชัดว่า ตนเองจะดำรงตำแหน่งรักษาการณ์นายกรัฐมนตรีไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วง ทว่านักธุรกิจชั้นนำในอังกฤษบางส่วน รวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกลับเห็นว่า นายกรัฐมนตรีจอห์นสันควรไปจากตำแหน่งอย่างเด็ดขาดและรวดเร็วที่สุด เพื่อให้รัฐบาลอังกฤษชุดใหม่ดำเนินการจัดการกับปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะภาวะเงินเฟ้อที่พุ่ง ทำให้ค่าครองชีพในอังกฤษแพงขึ้นที่สุดในรอบ 40 ปี
Kwasi Kwarteng รัฐมนตรีเศรษฐกิจอังกฤษทวีตข้อความระบุว่า อังกฤษเวลานี้ต้องการผู้นำคนใหม่ให้เร็วที่สุดเท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวยได้ และผู้นำคนใหม่นี้ต้องเป็นคนที่สามารถรื้อฟื้นความเชื่อมั่น เยียวยาบาดแผล มุ่งพัฒนาประเทศ และกำหนดแนวทางเศรษฐกิจใหม่ที่สมเหตุสมผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือครอบครัวในอังกฤษ
ด้าน Tony Danker ผู้อำนวยการทั่วไปของกลุ่มล็อบบี้ธุรกิจ CBI กล่าวว่า สิ่งที่ต้องการในขณะนี้ก็คือแนวทางเพื่อปกป้องมาตรฐานค่าครองชีพของผู้คน ผ่านการดำเนินการเกี่ยวกับความเชื่อมั่นทางธุรกิจ การลงทุน และการเติบโต
ขณะที่ Kitty Ussher หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Institute of Directors กลุ่มนายจ้างของสหราชอาณาจักร กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลอังกฤษชุดใหม่ต้องเร่งลงมือทำนอกจากการรักษาเสถียรภาพ ก็คือการฟื้นความเชื่อมั่นให้ภาคธุรกิจอยากที่จะกลับมาลงทุนในอังกฤษอีกครั้ง
อ้างอิง:
- https://edition.cnn.com/2022/07/07/economy/boris-johnson-resignation-economy/index.html
- https://www.bbc.com/news/business-62075835
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
