กระบวนการ Brexit เพื่อเดินหน้าให้สหราชอาณาจักรลาออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ดูเหมือนจะถึงทางตัน หลังสภาผู้แทนราษฎรอาจมีมติคว่ำร่าง Brexit ของ นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ที่เตรียมนำไปใช้เจรจาต่อรองในที่ประชุมอียู เป็นครั้งที่ 4 แม้ว่าในบรรดาทางเลือกนั้นจะมีการเจรจาขอเป็นสหภาพศุลกากรถาวรกับอียู การสร้างตลาดร่วม 2.0 หรือแผนเสนอการลงประชามติใหม่ครั้งที่ 2 ก็ตาม
โดยอียูเคยมีมติยืดระยะเวลาเส้นตายให้กับสหราชอาณาจักรมาแล้วครั้งหนึ่ง จากกำหนดการเดิมคือ วันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นวันที่ 12 เมษายนนี้ ซึ่งหมายความว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักรมีเวลาเหลืออีก 10 วัน ก่อนที่จะถึงเส้นตายรอบใหม่ว่าจะ เดินหน้ากระบวนการนี้อย่างไร โดยเธอได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดเท่าที่รัฐบาลของเธอจะทำได้
นายกฯ เมย์มีกำหนดการเข้าร่วมประชุมกับอียูในวันที่ 10 เมษายนนี้ ซึ่งหากในช่วงเวลานั้น รัฐบาลสหราชอาณาจักรยังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับร่างข้อเสนอ Brexit นั่นอาจทำให้กระบวนการนี้ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2016 จบลงด้วยการปราศจากข้อตกลงหรือโนดีล ซึ่งจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรและประเทศสมาชิกอียูชาติอื่นๆ ต้องยุติลงในทันที และต้องเริ่มต้นความสัมพันธ์ รวมถึงข้อตกลงทางการค้าต่างๆ ใหม่ทั้งหมด
ทางด้าน กาย เวอร์ฮอฟสตาดต์ ประธานคณะกรรมการรัฐสภายุโรปกรณี Brexit ระบุว่า การจบลงแบบโนดีลใกล้เข้ามาทุกขณะ และเป็นสิ่งที่อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยจะส่งผลกระทบต่อสังคม การเมือง และเศรษฐกิจยุโรปเป็นวงกว้าง
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: