×

ธปท. มองเศรษฐกิจไทยปีหน้าโต 3.8% แต่ยังเสี่ยงโตได้ต่ำกว่า 3% หากปัจจัยลบรุมเร้า

02.11.2022
  • LOADING...

แบงก์ชาติประเมินเศรษฐกิจไทยปีหน้าโต 3.8% ฟื้นต่อเนื่อง จากแรงส่งด้านการท่องเที่ยว-การบริโภคภาคเอกชน แต่ยังมีความเสี่ยงที่อาจโตได้ต่ำกว่า 3% หากปัจจัยลบรุมเร้า

 

เมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ ‘โจทย์ท้าทายเศรษฐกิจไทย 2023’ ในงานสัมมนา ‘The Great Remake’ โดยระบุว่า เศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะต้องเผชิญกับความท้าทายที่มากขึ้น ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง ความผันผวนของตลาดการเงินจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และจีน-ไต้หวัน 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


“ประมาณการเศรษฐกิจโลกในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเปลี่ยนไปเร็วมาก โดยล่าสุด IMF ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ปีหน้าลงเป็น 2.7% ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ และอียู อาจขยายตัวได้เพียง 1.0 และ 0.5% และมีโอกาสที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย” เมธีกล่าว

 

รองผู้ว่าการ ธปท. ระบุอีกว่า ตลาดการเงินโลกในปีหน้าจะยังคงมีความผันผวนจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อค่าเงินและภาระหนี้ของหลายประเทศ ขณะที่ปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะนำไปสู่วิกฤตพลังงานและอาหารโลก ทำให้ประเทศต่างๆ ต้องเตรียมนโยบายสำหรับรองรับกระแส Deglobalization ในระยะยาว

 

เมธีกล่าวว่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น ธปท. ยังมองว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2566 จะยังฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง โดยคาดว่า GDP ไทยจะยังขยายตัวได้ที่ 3.8% จากแรงส่งหลักคือการบริโภคภาคเอกชนและภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยว 21 ล้านคน แม้ว่าการส่งออกอาจขยายตัวได้เพียง 1.1% ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

 

“IMF คาดว่าปีหน้าไทยจะเป็น 1 ใน 78 ประเทศทั่วโลกที่เศรษฐกิจจะขยายตัวได้สูงขึ้นจากปีนี้ และจะเป็น 1 ใน 14 ประเทศทั่วโลกที่เงินเฟ้อกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย” เมธีกล่าว

 

เฝ้าระวัง 4 ความเสี่ยงฉุด GDP โตต่ำกว่า 3% 

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ายังมีโอกาสเช่นกันที่ GDP ไทยปีหน้าอาจเติบโตได้ต่ำกว่า 3% หากเกิดปัจจัยลบหลายๆ อย่างขึ้นพร้อมๆ กัน เช่น  

 

  1. จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติต่ำกว่า 20 ล้านคน และนักท่องเที่ยวจีนไม่มาเลย
  2. การส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 1.1% เติบโตติดลบ 2% 
  3. การบริโภคภาคเอกชนที่คาดว่าจะโต 3.3% สามารถโตได้เพียง 1% 

 

ขณะเดียวกันยังมีโอกาสที่อัตราเงินเฟ้อไทยอาจจะยังคงสูงกว่า 5% ในกรณีที่ราคาน้ำมันกลับขึ้นไปสูงที่ระดับ 144 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากที่คาดการณ์เอาไว้ที่ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

“โอกาสที่จะเกิดปัจจัยเหล่านี้ขึ้นยังมีค่อนข้างน้อย แต่ก็สามารถเกิดขึ้นพร้อมกันได้ เพราะปัจจัยต่างๆ มีความสัมพันธ์ระหว่างกัน หากนักท่องเที่ยวไม่มา การบริโภค การจ้างงาน ก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน” เมธีกล่าว

 

รองผู้ว่าการ ธปท. ยังกล่าวถึงการดำเนินนโยบายการเงินในปีหน้าว่าจะยังคงให้น้ำหนักกับการดูแลให้เศรษฐกิจไม่สะดุดและทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป และต้องชั่งน้ำหนักในหลายประเด็น ทั้งหนี้ครัวเรือนและหนี้เอกชน ทำให้ไม่สามารถเร่งขึ้นดอกเบี้ยแรงได้ โดยมาตรการที่มีความสำคัญและควรทำคือ การเพิ่มผลิตภาพทั้งในส่วนของการลงทุน แรงงาน และการผลิต เพื่อช่วยให้ผลิตภาพของไทยปรับตัวดีขึ้น

 

ส่วนมาตรการที่ไม่ควรทำ ซึ่งถือเป็น Bad Policies คือนโยบายที่ทำให้ตลาดการเงินปั่นป่วน นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น และนโยบายที่ไม่สอดคล้องกันไปคละทิศทาง รวมถึงนโยบายประชานิยมที่บิดเบือนการทำงานของระบบและสร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจในระยะยาว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising