ค่ายรถญี่ปุ่นสู้ตลาดรถในไทย! BOI ยัน อุตสาหกรรมยังแกร่ง แม้ ‘ซูบารุ-ซูซูกิ’ ยุติการผลิตในไทย ย้ำไทยเป็นฐานผลิตส่งออกสำคัญ และกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ โดยสามารถดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรม EV มากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กล่าวถึงกรณีของบริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (SUZUKI) ออกมาแถลงการณ์แจ้งยุติการดำเนินการผลิตที่โรงงานในประเทศไทยภายในช่วงสิ้นปี 2568 ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทบทวนโครงสร้างการผลิตของซูซูกิทั่วโลก รวมไปถึงซูบารุ (SUBARU) ที่ได้ออกประกาศปิดโรงงานอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานมานี้ พร้อมปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำตลาดในเมืองไทย
“วันนี้ไทยยังคงเป็นแหล่งลงทุนด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลกและดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรม EV มากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ค่ายรถยนต์ของญี่ปุ่นมาลงทุนในไทยราวๆ 2 หมื่นล้านบาท และในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีการลงทุนจากนักลงทุนญี่ปุ่นในไทยอีกประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท โดยจะลงทุนในรถยนต์ไฮบริดและ EV
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ปัจจุบันมีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนเข้ามาลงทุนในไทยแล้ว ไม่ว่าจะเป็น BYD, MG, Great Wall Motor, NETA, CHANGAN, GAC Aion และ OMODA & JAECOO หรือ Chery และ Proton โดย BYD และ CHANGAN จะเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยในปีหน้า
ดังนั้น จากการลงทุนดังกล่าวทำให้มองเห็นภาพได้ว่า ไทยเรายังเป็นแหล่งลงทุนด้านรถยนต์ในภูมิภาคอาเซียน ทั้งชิ้นส่วนรถยนต์และแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า
โดยเฉพาะในปีนี้จะมีอีก 2 บริษัทจากจีนพร้อมที่จะเข้ามาลงทุนผลิตแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าระดับเซลล์ ส่งผลให้คาดว่าจะมีเงินลงทุนรวมทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ชิ้นส่วนรถยนต์ และแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ามากถึง 8 แสนล้านบาท ที่ยื่นคำขอส่งเสริมการลงทุนกับ BOI เข้ามา โดยโครงการที่ผ่านการอนุมัติทั้งหมดจะเริ่มลงทุนภายใน 1-3 ปีนี้