×

บอร์ด BOI ไฟเขียว 6 โครงการลงทุนกว่า ‘3.5 หมื่นล้าน’ ผลิตรถ EV-โรงไฟฟ้า

โดย efinanceThai
04.11.2020
  • LOADING...
บอร์ด BOI ไฟเขียว 6 โครงการลงทุนกว่า ‘3.5 หมื่นล้าน’ ผลิตรถ EV-โรงไฟฟ้า

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) อนุมัติส่งเสริมการลงทุน 6 โครงการ มูลค่ากว่า 3.5 หมื่นล้านบาท ในกิจการยานยนต์ไฟฟ้า (EV)-โรงไฟฟ้า ฟาก บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (BGRIM) ได้ 2 โครงการ กว่าหมื่นล้านบาท พร้อมเสนอสิทธิทางภาษีสูงถึง 8 ปี ในกิจการเรือ-ยานยนต์ EV หวังให้ไทยเป็นฐานการผลิตในภูมิภาค

 

ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการ BOI เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ด BOI) โดยมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้ส่งเสริมการลงทุน 6 โครงการ รวมมูลค่าการลงทุน 35,687.43 ล้านบาท ดังนี้

 

  1. บริษัท น้ำตาลนิวกว้างสุ้นหลี จำกัด กิจการผลิตน้ำตาลและน้ำเชื่อม เงินลงทุน 5,071.84 ล้านบาท ตั้งโครงการในจังหวัดสระแก้ว ตามนโยบายการส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน โดยมีกำลังการผลิตน้ำตาลและน้ำเชื่อมปีละ 374,550 ตัน ผลิตเพื่อการส่งออก 1,777.45 ล้านบาทต่อปี

 

  1. บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมเสียบปลั๊ก และรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ เงินลงทุน 3,247 ล้านบาท ตั้งโครงการในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมเสียบปลั๊ก ปีละประมาณ 5,000 คัน และรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ ปีละประมาณ 1,000 คัน เพื่อจำหน่ายในประเทศทั้งสิ้น

 

  1. บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 1 จำกัด กิจการผลิตไฟฟ้า ไอน้ำ และน้ำปราศจากแร่ธาตุ เงินลงทุน 6,000 ล้านบาท ตั้งโครงการในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี ผลิตไฟฟ้า 157.32 เมกะวัตต์ ไอน้ำ 75 ตันต่อชั่วโมง และน้ำปราศจากแร่ธาตุ 1,566 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน

 

  1. บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 2 จำกัด กิจการผลิตไฟฟ้า ไอน้ำ เงินลงทุน 5,400 ล้านบาท ตั้งโครงการในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี ผลิตไฟฟ้า 157.32 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 75 ตันต่อชั่วโมง

 

  1. บริษัท โกลว์ เอสพีพี 1 จำกัด กิจการผลิตไฟฟ้า และไอน้ำ เงินลงทุน 11,300 ล้านบาท ตั้งโครงการในนิคมอุตสาหกรรมเอเชีย จังหวัดระยอง ผลิตไฟฟ้า 290 เมกะวัตต์ ไอน้ำ 120 ตันต่อชั่วโมง

 

  1. บริษัท บางกอก โคเจนเนอเรชั่น จำกัด กิจการผลิตไฟฟ้า ไอน้ำ และน้ำปราศจากแร่ธาตุ เงินลงทุน 4,668.59 ล้านบาท ตั้งโครงการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ผลิตไฟฟ้า 162 เมกะวัตต์ ไอน้ำ 90 ตันต่อชั่วโมง และน้ำปราศจากแร่ธาตุ 250 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง

 

นอกจากนี้ ที่ประชุมบอร์ดยังได้เห็นชอบประเภทกิจการให้การส่งเสริมการลงทุนเพิ่มเติม ประกอบด้วย กิจการโรงพยาบาลผู้สูงอายุ, กิจการดูแลผู้สูงอายุ และกิจการวิจัยทางคลินิก พร้อมทั้งเปิดให้การส่งเสริมรอบใหม่อีก 2 ประเภทกิจการ คือ กิจการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และกิจการเพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ รวมทั้งขยายเวลา และปรับมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนการปรับตัวของผู้ประกอบการ ให้สอดคล้องกับสภาพการแข่งขันในปัจจุบัน

 

สำหรับการเปิดให้การส่งเสริมการลงทุน EV รอบใหม่นั้น หลังจากหมดระยะเวลาการยื่นคำร้องตั้งแต่ปี 2561 ในครั้งนี้เปิดให้การส่งเสริมยานพาหนะไฟฟ้าทุกประเภท ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถสามล้อ รถโดยสาร และรถบรรทุก รวมถึงเรือที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า จากเดิมที่มีการส่งเสริมเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าและรถโดยสารไฟฟ้าเท่านั้น โดยหวังว่าไทยจะสามารถเป็นฐานการผลิตในภูมิภาคได้

 

ส่วนเงื่อนไข ประกอบด้วย 1. กิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า มุ่งเน้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่เป็นหลัก แต่ให้มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมควบคู่ โดยกรณีที่มีขนาดการลงทุนไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี และหากลงทุนวิจัยและพัฒนาสามารถได้รับสิทธิเพิ่ม

 

ในกรณีที่ขนาดการลงทุนน้อยกว่า 5,000 ล้านบาท การผลิตแบบ BEV จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี และจะได้รับสิทธิเพิ่มขึ้นหากดำเนินการได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เช่น เริ่มผลิตรถยนต์ภายในปี 2565 ผลิตชิ้นส่วนสำคัญเพิ่มเติมจากข้อกำหนดพื้นฐาน มีปริมาณการผลิตจริงมากกว่า 10,000 คันต่อปี และมีการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา

 

ขณะเดียวเดียวกัน ถ้ามีโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบ Plug-in Hybrid Electric Vehicle หรือ PHEV จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี เป็นต้น

 

ด้านกิจการผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่, สามล้อไฟฟ้า, รถโดยสารไฟฟ้า และรถบรรทุกไฟฟ้า จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี

 

ทั้งนี้ การผลิตยานยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ทุกประเภท ผู้ลงทุนจะต้องเสนอแผนงานรวม เช่น โครงการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่, โครงการผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้า, แผนการนำเข้าเครื่องจักรและติดตั้ง, แผนการผลิตในระยะ 1-3 ปี เป็นต้น

 

นอกจากนี้ คณะกรรมการยังให้ความเห็นชอบปรับปรุงประเภทกิจการต่อเรือ หรือซ่อมเรือให้ครอบคลุมถึงการผลิตเรือที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าด้วย โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี

 

ดวงใจกล่าวว่า สำหรับยอดการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กันยายน) พบว่า มียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 1,098 โครงการ เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีมูลค่าเงินลงทุนรวม 22,720 ล้านบาท

 

สำหรับยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนส่วนใหญ่ 58% ของมูลค่าคำขอรับการส่งเสริมอยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 556 โครงการ มูลค่าการลงทุน 128,980 ล้านบาท โดยอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มีมูลค่าเงินลงทุนสูงสุด 37,550 ล้านบาท, อุตสาหกรรมเกษตรและแปรรูปอาหาร 26,880 ล้านบาท, อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน 19,980 ล้านบาท และอุตสาหกรรมการแพทย์ 14,710 ล้านบาท

 

ด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในช่วง 9 เดือน พบว่า มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน 657 โครงการ ลดลง 1% โดยมีมูลค่าเงินลงทุนรวม 118,504 ล้านบาท ลดลง 29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมีการลงทุนเป็นอันดับ 1 รวม 139 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 37,545 ล้านบาท, จีน 129 โครงการ เม็ดเงิน 21,237 ล้านบาท, เนเธอร์แลนด์ 62 โครงการ มูลค่า 17,514 ล้านบาท

 

ลักษณะธุรกิจของ BGRIM

ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจหลักด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ

 

รายงาน: ภัทราภรณ์ เกียรตินันท์  

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising