×

5 สาว ‘ชราไลน์’ จากเพื่อนร่วมวงสู่มิตรภาพที่งดงามตลอด 5 ปี ก่อตัวเป็นโปรเจกต์ ‘VerbOfFeeling’ และ ‘1st Fanmeet’

21.12.2021
  • LOADING...
ชราไลน์

ย้อนไปเมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2564 เป็นอีกครั้งที่ THE STANDARD POP มีโอกาสได้พูดคุยกับ แก้ว, ตาหวาน, น้ำหนึ่ง, เนย และอร 5 สาวตัวแทนของวง BNK48 ที่พวกเธอมักถูกขนานนามโดยแฟนคลับในชื่อกลุ่ม ‘ชราไลน์-Charaline’ เกี่ยวกับโปรเจกต์สุดพิเศษที่พวกเธอภูมิใจนำเสนอเป็นอย่างมาก

 

โดยโปรเจกต์ดังกล่าวถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ‘VerbOfFeeling’ โปรเจกต์เพลงคัฟเวอร์ 5 บทเพลงของ BNK48 ถูกนำมาเรียงร้อยทำนองใหม่ให้เป็นสไตล์หรือเอกลักษณ์ของพวกเธอทั้ง 5 คน และอีกโปรเจกต์คืองานแฟนมีตที่มีชื่อตอนยาวมากๆ อย่าง BNK48 Charaline 1st Fanmeet ตอน สุภาพสตรีชราเทพี ณ วังเวงวิเวกวิเหวงโหวง

 

เธอทั้ง 5 คน ช่วยกันอธิบายถึงโปรเจกต์นี้ว่า ความตั้งใจแรกของพวกเธอคือการทำงานแฟนมีต แต่พอทั้ง 5 คน ได้มารวมตัวกัน ทางค่ายจึงอยากให้มีกิมมิกเล็กๆ น้อยๆ เพื่อปูเส้นทางนำเข้าสู่งานแฟนมีต เลยก่อกำเนิดเป็นโปรเจกต์ VerbOfFeeling ขึ้นมา เป็นโปรเจกต์คัฟเวอร์เพลงที่มีความสำคัญในสไตล์ของแต่ละคน เพื่อสะท้อนความเป็นตัวตน รวมถึงการให้แฟนคลับของทุกคนได้เห็นศักยภาพมากที่สุด

 

สำรวจสไตล์เพลงของ 5 สาวชราไลน์

 

ชราไลน์

 

Anata to Christmas Eve (คำสัญญาแห่งคริสต์มาสอีฟ) แก้ว-ณัฐรุจา ชุติวรรณโสภณ

 

“เพลงนี้เป็นเพลงที่แก้วรู้สึกว่ามีความสำคัญแทบจะที่สุดของตัวแก้ว ในฐานะศิลปิน BNK48 ก็เลยเลือกเพลงนี้มาเพื่อมอบให้แฟนๆ ได้เห็นตัวแก้วอีกแบบที่หลายคนอาจยังไม่เคยเห็น ผ่านการคิดแนวเปียโนให้ยากที่สุดเท่าที่จะทำได้ (หัวเราะ)

 

“เพลงนี้แก้วแต่งไลน์เปียโนขึ้นมาเอง ใช้แนวคลาสสิกที่เรียนมาผสมผสานเข้าไปให้มีความซับซ้อนนิดนึง และผสมเสียงเครื่องสายให้มีความเป็นเจ้าหญิง ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในป่า ให้ฟีลลิ่งเดินตามหารักแท้ที่ห่างหายไปนาน ทำให้เราย้อนหวนคิดถึงความสุขจากความรักที่ก่อเกิดในหัวใจในอดีต

 

“มันจะมีกลิ่นอายของดนตรีประเภท Impressionism ที่บรรยายถึงภาพวาด เราก็เลยอยากทำเพลงที่ให้คนฟังมองเห็นภาพไปพร้อมกับเราด้วย ให้เห็นว่ามันมีเรื่องราวอยู่ในเพลงนะ”

 

 

 

ชราไลน์

 

Yokaze no Shiwaza พระจันทร์เสี้ยว ตาหวาน-อิสราภา ธวัชภักดี

 

“เพลงของตาหวานคือ Yokaze no Shiwaza พระจันทร์เสี้ยว หลายคนอาจไม่คุ้นเพลงนี้ เพราะเป็นเพลงที่ใช้แสดงในเธียร์เตอร์ของทีม NV เป็นเพลงยูนิตโซโล่เดี่ยว ซึ่งตาหวานได้รับหน้าที่ให้ร้องเพลงนี้อยู่แล้ว

 

“ดังนั้นเพลงนี้จึงเป็นเพลงที่มีความหมายกับตาหวานมาก ก็เลยเลือกเพลงนี้มา ด้วยความที่เราเป็นคนที่ชอบฟังเพลงสไตล์ R&B ชอบร้องเพลงสไตล์ช้าๆ ที่เข้าถึงอารมณ์หน่อย

 

“นับว่าเป็นโอกาสดีที่คนข้างนอกที่ไม่เคยได้ยินเพลงนี้ ไม่เคยเข้ามาดูเธียร์เตอร์ของเราได้ฟังเพลงนี้ไปพร้อมกันด้วย ให้เขาเห็นว่า BNK48 ก็มีเพลงซึ้งๆ เพราะๆ ช้าๆ แบบนี้ด้วย ซึ่งจะนำมาเรียบเรียงใหม่ให้มีสไตล์ R&B มากขึ้น โดยส่วนตัวได้มีส่วนร่วมในการดีไซน์การร้องและการลงดีเทลในส่วนอื่นๆ เช่น เรื่องของดนตรีที่เราต้องการให้มีทิศทางเป็นแนวนี้”

 

 

ชราไลน์

 

High Tention น้ำหนึ่ง-มิลิน ดอกเทียน

 

“ความสำคัญของเพลงนี้สำหรับน้ำหนึ่งก็คือการรับบทบาทการเป็นเซ็นเตอร์ เป็นเพลงซิงเกิลที่ 8 ของวง BNK48 ด้วยความที่เราชอบเพลงนี้อยู่แล้ว และสไตล์เพลงออริจินัลมีทำนองค่อนข้างเร็ว การเรียบเรียงใหม่ครั้งนี้น้ำหนึ่งจะทำให้ช้าลง มีความเนิบๆ โยกได้เบาๆ แบบเพลงเรกเก้ 

 

“ก่อนหน้ามาทำเพลงเดี่ยว ครูจะถามเราว่าชอบฟังเพลงแบบไหน หรือถ้าเรามีความรู้สึกอกหัก เรามีความรัก จะฟังเพลงแบบไหน หนูเลยตอบไปว่าถ้าหนูมีความรู้สึกอกหักจะไม่ฟังเพลงเศร้า แต่เลือกเพลงที่สนุก ปลุกอารมณ์ ฮิปๆ เรกเก้ เลยเป็นเพลง High Tention ที่จะเล่าในแบบฉบับของตัวตนน้ำหนึ่งเอง อยากให้แฟนเพลงได้ฟังกัน แล้วมาโยกเบาๆ ไปด้วยกัน”

 

 

 

ชราไลน์

 

Kimi wa Melody (เธอคือ…เมโลดี้) เนย-กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล

 

“ส่วนตัวมีความรู้สึกกับเพลงนี้ค่อนข้างเยอะ ตั้งแต่ตอนได้รับเลือกเป็นเซ็นเตอร์ก็ทำการบ้านเกี่ยวกับเพลงนี้เยอะอยู่แล้ว แต่พอรู้ตัวว่าต้องร้องเพลงนี้คนเดียวในโปรเจกต์นี้ หนูพูดตามตรงเลยว่ารู้สึกตื่นกลัว ใจสั่นมาก เพราะมันจะเป็นเสียงของเราแบบ 100%

 

“ตอนประชุม ครูก็ถามหนูบ่อยว่าอยากได้เพลงแนวไหน เอาตรงๆ หนูเป็นคนที่มีความรู้ด้านดนตรีค่อนข้างน้อย เลยให้ครูช่วยแนะนำ และครูก็ถามกลับว่าเรามองตัวเองเป็นยังไง หนูเลยตอบไปว่าน่าจะค่อนข้างน่ารัก (หัวเราะ) แล้วก็อยากให้เพลงนี้ออกมาน่ารักเหมือนคนร้อง ฟังสบาย

 

“และหนูเป็นคนชอบเสียงธรรมชาติ ก็จะมีการใส่เสียงของธรรมชาติแทรกเข้าไปในเพลงและปรับให้ช้าลง แม้ตัวออริจินัลจะช้าอยู่แล้ว แต่หนูรู้สึกว่า มันมีบางท่อนที่ต้องร้องแบบรัวคำ รวบคำ เลยเอามาปรับให้ช้าลงเพื่อฟังง่ายมากขึ้น แต่เป็นเพลงช้าที่ไม่เศร้านะ ออกไปในทางชิลๆ”

 

 

ชราไลน์

 

RIVER อร-พัศชนันท์ เจียจิรโชติ

 

“แน่นอนว่าของอรต้องเป็นเพลงนี้ที่ได้เป็นเซ็นเตอร์ และเอาจริงๆ เพลงนี้ยากที่สุดในบรรดาทุกเพลง เพราะเนื้อร้องแบบออริจินัลเป็นเพลงเพื่อชีวิตในแบบฉบับของวงไอดอล ฟีลแบบสู้ๆ ต้องข้ามไปให้ได้ เหมือนปลุกความฮึกเหิมตลอดเวลา พอได้โอกาสเรียบเรียงเวอร์ชันใหม่เลยปรึกษาครูว่าอยากลองเปลี่ยนจากเพลงเพื่อชีวิต มาเป็นเพลงที่มูฟออนจากอะไรสักอย่าง

 

“ถ้าใครได้อ่านถึงตรงนี้อยากให้ลองหลับตาแล้วคิดภาพตามว่ามันเป็นเพลง RIVER เวอร์ชันผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้าไปในร้านนั่งดริงก์หรือบาร์อะไรสักอย่าง เขากำลังนั่งอมทุกข์ หรือกำลังนั่งคิดถึงความรักที่ผ่านไป และรู้สึกว่าสุดท้ายแล้วเขาต้องไปต่อ ซึ่งมันตรงกับเนื้อเพลงประโยคหนึ่งที่เชียร์อัปให้เรา ‘ข้ามไป…ข้ามไปให้ได้’ โดยสรุปมันคือเพลงอกหักที่ต้องการมูฟออนออกจากความรู้สึกเศร้า

 

“เนื้อเพลงมีแต่งท่อนแรปเพิ่มและเรียบเรียงเนื้อร้องใหม่เข้าไป เป็นการทำงานที่สนุกมาก เป็นพาร์ตหนึ่งของชีวิตทำงานที่พาให้เราเติบโตมากขึ้น” 

 

 

 

 

ชราไลน์-Charaline คืออะไร

 

ผ่านพ้นช่วงของการแนะนำเพลงไปเป็นที่เรียบร้อย ต่อมาเราชวนคุยลงในรายละเอียดของโปรเจกต์ในแง่มุมที่แฟนคลับอาจจะยังไม่รู้ รวมถึงชีวิตของทั้ง 5 สาว ที่ใช้เวลาร่วมกันนานเกือบ 5 ปี เป็นอย่างไรบ้าง

 

เริ่มจากคำถามสุดเบสิกที่แฟนคลับของเธออาจจะรู้หรืออาจจะยังไม่รู้ก็ได้ นั่นคือการอธิบายว่า ชราไลน์-Charaline คืออะไร มีที่มาที่ไปอย่างไร เธอทั้ง 5 คน ยังคงสามัคคีกลมเกลียวช่วยกันอธิบายบอกกับเราว่า ชราไลน์คือการรวมตัวกันของสาวๆ ในวง BNK48 รุ่น 1 ที่อายุเยอะที่สุดในวง และเป็นกลุ่มที่อยู่ด้วยกันตั้งแต่วันออดิชัน

 

ตาหวานเสริมว่า “ชรา คือคำทับศัพท์ในความหมายชัดเจนว่าคนแก่ คนมีอายุ ขณะที่น้องๆ ที่อายุน้อยในวงเราก็มีการตั้งกลุ่มในลักษณะนี้เหมือนกัน แต่จะใช้ชื่อ กุมารไลน์ เป็นน้องเล็กของวง

 

“แล้วเราเคยไปเสิร์ชเจอจากฝั่ง K-Pop ที่เขามีคำเรียกในกลุ่มว่า มักเน่ไลน์ หรือคนเกิดปี 1996 ก็จะเป็น 96Line ประมาณนี้ แต่ส่วนตัวจำไม่ค่อยได้ด้วยว่าเราหรือแฟนคลับที่ตั้งให้ แต่มีการเรียกไปเรียกมาและพูดถึงกันบ่อยๆ เลยเกิดเป็นคำว่า ชราไลน์ เป็นไลน์ของคนที่มีอายุเท่ากันหรือใกล้กัน (หัวเราะ)”

 

เมื่อชวนพวกเธอย้อนนึกถึงวันที่โปรเจกต์ก่อตัวขึ้นได้ยังไง ใครคือตัวตั้งตัวตีที่ทำให้โปรเจกต์นี้เกิดขึ้นเสียที หลังจากที่แฟนคลับจำนวนไม่น้อยเฝ้ารอคอยกิจกรรมในลักษณะนี้มานาน 

 

เสียงปรบมือดังขึ้นฉาดใหญ่ เมื่อจบคำถามสิ้นสุดด้วยคำว่า ‘เกิดขึ้นได้เสียที’ ทั้ง 5 คนหันหน้าเข้าหากันแล้วช่วยกันอธิบายว่า ก่อนหน้านี้มีคุยหลายโปรเจกต์ แต่ถูกปัดตกไปเนื่องจากสถานการณ์หลายอย่างยังไม่เป็นใจ ซึ่งทุกคนกลับมาปรึกษากันตลอด เพราะช่วงเวลาที่เหลืออยู่ในวง BNK48 น้อยลงเต็มที ก็เลยมีความคิดอยากมีแฟนมีตหรือโปรเจกต์ที่พวกเราทั้ง 5 คน ร่วมกันทำ ก็เข้าไปคุยกับผู้ใหญ่ถึงโปรเจกต์นี้ ซึ่งเกิดขึ้นครั้งที่มาฉลองปีใหม่ ณ ตู้ปลาช่วงสิ้นปี 2020

 

แก้วเสริมต่อว่า “หลังจากวันที่เสนอไปและพวกเราเริ่มเห็นแววว่าโปรเจกต์นี้มาแน่ เราก็เริ่มทำการบิลด์มาโดยตลอดด้วยการใช้ไลฟ์ โดยแต่ละคนตั้งคำถามแบบลอยๆ ว่า พวกเขาจะมีโปรเจกต์ไหมนะ หรืออรก็จะคอยใส่สปอยล์ลงไปในไลฟ์ตลอด ซึ่งจริงๆ โปรเจกต์ควรเกิดขึ้นเร็วกว่านี้ แต่สถานการณ์ปัจจุบันถูกดันให้เลื่อนมาตลอด แต่เราก็ดีใจที่มันจะได้เกิดขึ้นจริงๆ สักที เพราะไม่ใช่แค่แฟนคลับเรากัน พวกเราก็รอมานานด้วยเหมือนกัน (หัวเราะ)

 

“ที่มาเริ่มเตรียมตัวสร้างสรรค์โปรเจกต์นี้ก็ประมาณปลายปีที่แล้ว ที่ใช้เวลานานเพราะทุกอย่างในงานนี้คือพวกเราทั้งหมด เรานัดประชุมทีมกันบ่อยมาก ตั้งแต่ชื่อ-ธีม-กิจกรรมในแฟนมีต พวกเราเป็นคนคิดเองกันทั้งหมด มันเลยค่อนข้างกินเวลานิดนึง”

 

ขณะที่น้ำหนึ่งบอกว่า “เดิมทีงานนี้พวกเรามีสปอยล์ให้เห็นอยู่เรื่อยๆ อย่างรูปถ่ายที่ให้เห็น Dreamcatcher ก็คือหนึ่งในสิ่งที่จงใจให้แฟนคลับเห็น เพราะเป็นสิ่งของเชื่อมโยงพวกเราทั้ง 5 คน ที่มีอยู่ใน PV”

 

เช่นเดียวกับเนยที่เสริมว่า “นอกจากเราสปอยล์กันเก่ง แฟนคลับเราก็เดาเก่งมาก สามารถจับจุดเชื่อมโยง ซึ่งมีทั้งแม่นและเดาออกจักรวาลไปเลยก็มี (หัวเราะ) ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ารัก เพราะพวกเขาดูใส่ใจพวกเรา

 

“หรือบางทีแฟนคลับเห็นเรารวมอยู่ในสถานที่เดียวกัน ก็จะคิดกันแล้วว่าเรากำลังมีงานลับอยู่แน่ๆ ทั้งที่บางทีไม่มีอะไรเลย แค่กินข้าวร่วมกันเท่านั้นเอง ถ้าใครก็ตามได้อ่านถึงตรงนี้เราอยากจะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจปิดบัง เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลาที่เรายังบอกไม่ได้ แม้จะคันปากอยากเมาท์มากแค่ไหนก็ตาม (หัวเราะ)”

 

นอกจากนี้ การรังสรรค์โปรเจกต์ใหญ่ยักษ์ชิ้นนี้ขึ้นมาไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นได้ทันทีดั่งดีดนิ้วเสกมา แต่พวกเธอยังต้องผ่านกระบวนการพัฒนาทักษะที่รอบด้าน เพื่อส่งเสริมให้ผลงานเพลงออกมาให้ดีที่สุด

 

ตาหวานยกมือตอบว่า “พวกเราทั้ง 5 คน จะมีคอร์สเรียนเสริมทักษะแยกของแต่ละคน ในแต่ละพาร์ต ซึ่งพวกเราต้องส่งการบ้านครู ค้นหาสไตล์เพลงของตัวเอง รวมถึงสกิลการร้องเพลง ที่ทำให้ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ได้เห็นว่าเราชอบแบบไหน อะไรที่ส่งเสริมความมั่นใจในตัวเอง”

 

และแก้วเสริมต่อว่า “ยกตัวอย่างแก้วเองก็ใช้ทักษะการแต่งเพลงใหม่ด้วยตัวเองทั้งเพลง ทำให้ใช้เวลาปรับอยู่นาน บวกกับมีช่วงเวลาที่ต้องส่งเดโม เป็นช่วงเวลาที่เราทั้ง 5 คนได้หาสไตล์เพลง รวมถึงสไตล์การร้องเพลงใหม่ๆ ให้ตัวเองด้วย”

 

 

มิตรภาพของชราไลน์ตลอดเวลาเกือบ 5 ปี

 

พาร์ตนี้เราชวน 5 สาวนั่งทบทวนช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมานานเกือบ 5 ปีในวง BNK48 และเปรียบเปรยความเป็นมิตรภาพของชราไลน์เป็นแบบไหนในมุมมองของแต่ละคน

 

เริ่มจากเนยบอกว่า “เรารู้จักกันตั้งช่วงแรกๆ ตั้งแต่วันออดิชันเข้าวง ก็จะมีไปกินข้าวด้วยกัน พูดคุยอย่างสนิทกัน จะมีบางช่วงที่เราแยกย้ายไปทำหน้าที่ที่ต่างกัน อาจจะมีงานเดี่ยวของตัวเองหรืองานอื่นๆ แต่ทุกครั้งที่เรากลับมารวมกันเรายังสามารถคุยเรื่องเดียวกัน มีความเข้าใจกันเสมอ ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลาหรือไปไหนด้วยกันตลอดเวลา แต่ทุกครั้งที่กลับมารวมกัน ความรู้สึกมันยังเหมือนเดิม ทุกคนยังมีความเข้าใจกันเสมอ”

 

แก้ว: “ส่วนของแก้วคือการยอมรับในข้อดีและข้อเสียของกันและกัน อย่างไม่นานนี้เรามีโอกาสได้พูดในสิ่งที่แสดงความคิดเห็นหรือเมาท์เพื่อนๆ มันทำให้เห็นว่าเพื่อนมีข้อเสียยังไง จุดอ่อนยังไง ทำให้เรารู้ว่าควรหลี่กเลี่ยงจุดไหนที่ทำให้กระทบจิตใจ และยอมรับข้อเสียของกันและกันได้ แก้วรู้สึกว่าพวกเรารักกันมาก และรู้สึกว่าข้อเสียเหล่านั้นไม่ใช่อุปสรรคที่จะพาพวกเราก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน”

 

ตาหวาน: “สำหรับชราไลน์ในมุมหนูคือเพื่อนร่วมทาง เหมือนเราลงเรือลำเดียวกันมาตั้งแต่ต้น พออยู่มานานเราจะมีความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจกัน เห็นด้วยกับพี่แก้วที่บอกว่าเรายอมรับในข้อดีข้อเสียของกันและกัน เวลาเราประสบพบเจอเรื่องอะไรมาพวกเราจะมีความคิดโดยอัตโนมัติว่าอะไรที่ควรและไม่ควรทำ เราก็จะมีวิธีการที่จะหลีกเลี่ยง ไปจนถึงการหาวิธีปลอบใจ ให้คำปรึกษากัน หนูรู้สึกรักทุกคนจริงๆ (น้ำตาไหล เพื่อนๆ โผกอด)

 

“เราผ่านเรื่องร้าย เรื่องทุกข์ เรื่องดีมากันเยอะ เลยรู้สึกดีใจที่เรามีที่ปรึกษาที่ดีหรือมีเพื่อนที่ดีคอยผลักดันกัน เป็นมิตรภาพที่แสดงให้เห็นว่าเรารักกันจริงๆ ไม่ใช่แค่หญิงสาว 5 คนที่เป็นแค่เพื่อนกันเฉยๆ แต่ชราไลน์สำหรับเรามันคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่เหนือมิตรภาพจริงๆ ค่ะคุณพี่”

 

อร: “ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในวงหรือจบการศึกษาไป หนูคิดว่ายังไงเราก็คงมีกันและกันอยู่ด้วยกันแบบนี้ต่อไป เราไม่ได้อยู่ด้วยกันเพราะวง แต่เราอยู่กันด้วยมิตรภาพของพวกเรา ซึ่งอยากจะถือโอกาสบอกกับทุกคนว่า ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนค่ะ (หันไปจับมือกับทุกคน)” 

 

น้ำหนึ่ง: “เหมือนที่หลายคนตอบไปก่อนหน้านี้ เราดีใจที่ได้เจอกันตั้งแต่แรกจนถึงวันนี้ มันมีเรื่องที่พวกเราผ่านด้วยกันมาเยอะ และในทุกๆ เรื่องมักจะมีพวกเขาซัพพอร์ตในหลายๆ เหตุการณ์ แล้วแต่ละคนก็จะมีวิธีการซัพพอร์ตแต่ละปัญหาที่แตกต่างกันออกไป เหมือนคอยช่วยเติมเต็มให้กับเรา ผลักดันให้เราก้าวข้ามสิ่งต่างๆ จนเป็นตัวของเราเองในวันนี้ได้

 

“ก็อยากจะคบกับเพื่อนคนนี้ต่อไปเรื่อยๆ แม้วันหนึ่งเราอาจจะไม่ได้มีนามสกุลของ BNK48 ท้ายชื่อ ซึ่งวันนั้นเราอาจจะเป็นใครก็ตามแต่หรือจะเป็นเศรษฐีนีท่านหนึ่ง แต่เราก็ยังอยากจะมีพวกเขาในสเตปของการใช้ชีวิตของเราต่อไป อยู่วนเวียนกันไปเรื่อยๆ มีลูกมีหลานก็เอามาเล่นด้วยกัน หรือมีลูกก็เอาไปเรียนเปียโนกับพี่แก้ว (หัวเราะ)”

 

 

เรื่องที่อยากขอโทษ-ขอบคุณ

 

ช่วงสุดท้ายของการสนทนา หลังชวนนึกย้อนเรื่องมิตรภาพกัน เราจะเห็นได้จากสีหน้าแววตาของพวกเธอทั้ง 5 คน ที่เชื่อมต่อ-ถ่ายเทความรู้สึกเข้าหากันอย่างรวดเร็ว ขณะที่บางคนเริ่มนั่งกุมมือกัน ประหนึ่งว่านี่คือวิธีซัพพอร์ตและให้กำลังใจที่พวกเธอทำให้กันเป็นประจำ

 

ซึ่งบทสนทนาสุดท้ายไม่เชิงเป็นคำถาม แต่เป็นการเปิดพื้นที่ให้พวกเธอได้คุยกันถึงเรื่องที่อยากขอโทษและขอบคุณสมาชิกชราไลน์ทุกคน ณ ที่แห่งนี้

 

น้ำหนึ่งอาสาตอบเป็นคนแรก “หนูไม่ใช่คนที่เป็นคนดีตลอดเวลา และก็ไม่ใช่คนที่เลวร้ายตลอดเวลา ด้วยความที่เราเป็นมนุษย์ เราจะมีข้อเสียแฝงอยู่ในตัวเราในแต่ละเรื่อง ถ้าอยากจะขอโทษ หนูอยากบอกเพื่อนๆ ว่า หากเราเผลอทำอะไรที่ไปกระทบจิตใจ โดยที่ตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ก็อยากจะถือโอกาสขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วย เพราะสุดท้ายแล้วเราก็รักพวกเขามากๆ เลยอยากขอโทษทุกสิ่งที่ทำให้เสียใจ แล้วก็ขอบคุณที่ยังอยู่ด้วยกันตรงนี้ มาถึงวันนี้ค่ะ รักมากๆ ค่ะ”

 

อร: “ฝั่งหนูตอนแรกอาจจะไม่กล้าเปิดใจหรือมีความกังวล หรือมีกำแพงอะไรบางอย่างเวลาที่เราจะสนิทกับใครก็กลัวว่าเขาจะอยากสนิทกับเราไหม จะโอเคในแบบที่เราเป็นไหม มันเลยมีความกังวล ไม่รู้ว่าเราต้องทำตัวอย่างไร หนูก็เลยอยากจะขอโทษก่อน ถ้าไปทำร้ายจิตใจ หรือแสดงพฤติกรรมที่ไม่น่ารักออกมา เพราะหนูเชื่อว่าเราก็ไม่ได้ทำอะไรให้เพื่อนถูกใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำให้ช่วงหลังเวลามีอะไรเราจะขอให้คุยกันตรงๆ มันจะง่ายกว่า 

 

“แล้วอยากขอบคุณทุกคนที่ยอมรับในความเป็นอร ยังอยู่ในชีวิตของกันและกันโดยไม่ไปไหน ไม่เลิกคบกัน เพราะเราทุกคนต่างรู้ดีว่าเราเลิกคบกันไม่ได้ (หัวเราะ) ขอบคุณที่คอยซัพพอร์ตความรู้สึกกันถึงแม้บางครั้งภายนอกอาจจะดูเข้มแข็งแต่ภายในเราก็มีความอ่อนไหวเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ก็อยากจะขอบคุณทุกคนที่มาสร้างความเข้มแข็งให้กับชีวิตของอรนะครับผม”

 

เนย: “หนูด้วยความที่เป็นน้องเล็กในกลุ่ม บางครั้งก็อาจจะเผลอใช้คำพูด การกระทำ หรือบางอย่างที่เผลอทำไม่ดีกับใคร ก็อยากจะขอโทษทุกคน เพราะเราไม่มีเจตนาร้ายเลย แล้วที่เรื่องนี้มันติดอยู่ในใจเพราะเคย โดนพูดถึงตอนเด็กๆ ว่า เนยชอบมีลูกอ้อน ทำตัวน่ารัก หรือคนจะมองว่าแบ๊ว

 

“ซึ่งเพื่อนบางคนก็อาจจะไม่ค่อยชอบที่เราเป็นแบบนี้ เหมือนเราไม่จริงใจกับเขา เรื่องนี้มันติดอยู่ในใจมานาน แต่พอมาอยู่กับกลุ่มเพื่อนชราไลน์ ที่มีลุคสวย เซ็กซี่ หรือเป็นคนที่มีนิสัยตรงๆ เรารู้สึกได้ทันทีเลยว่าทุกคนยอมรับในสิ่งที่เราเป็นเรา อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่ได้รู้สึกว่าการที่เป็นตัวเองแล้วรู้สึกไม่ดี”

 

ตาหวาน: “อยากจะขอโทษเพื่อนๆ ในทุกการกระทำที่ทำไปโดยไม่เจตนา แล้วไปกระทบกระทั่งใครก็อยากจะขอโทษด้วย รวมถึงความจู้จี้จุกจิกที่อาจจะมีเยอะไปบ้าง และขอบคุณทุกคนที่มาเป็นเพื่อนกัน และยอมรับในความเป็นตัวตนของแต่ละคน ขอบคุณทุกคนมากๆ ซารางเฮโยจ้ะ”

 

แก้ว: “ของแก้วก็เหมือนที่หลายคนพูดก่อนหน้านี้ เพราะหลายอย่างที่เราทำไปแล้วมันเป็นสิ่งที่ไม่ดีเราก็มีความไม่ได้ตั้งใจ ถ้าเกิดว่าทำอะไรให้ทุกคนไม่พอใจหรือน้อยใจ ก็อยากจะขอโทษทุกคนด้วย ถึงแม้จะเป็นพี่ก็จะขอโทษที่ทำตัวไม่ค่อยน่าเคารพเท่าไร (หัวเราะ)”

“และอยากจะขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเป็น Comfort Zone ในชีวิตเรา ในวันที่เราเหนื่อยหรือว่าเผชิญสิ่งที่ไม่ดีมาแล้วทุกครั้งที่หันหน้าไปเจอพวกเขา เรารู้สึกทุกครั้งว่าเราพูดระบายความรู้สึกกับพวกเขาได้ หรือในวันที่อ่อนแอก็สามารถร้องไห้กับพวกเขาได้เลย เป็นคนกลุ่มแรกที่เราอยากจะเดินเข้าไปแชร์เรื่องสนุกให้ทุกคนได้ฟัง รักนะคะ

 

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบทสนทนาหนึ่งที่เกิดขึ้นในวันเปิดตัวโปรเจกต์ ‘Charaline-ชราไลน์’ สำหรับคุณผู้อ่านที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วจะรู้จักกับพวกเธอ ดำดิ่ง และย้อนทบทวนทุกช่วงความรู้สึกที่ผ่านเข้ามาตลอดระยะเวลา 5 ปี ไปกับ แก้ว, ตาหวาน, น้ำหนึ่ง, เนย และ อร 5 สาวชราไลน์แห่งวง BNK48

 

ให้มากกว่านี้ สามารถติดตามชมการพูดคุยแบบสดๆ ผ่าน #POPLiveXCharaline ทั้งสองครั้งได้ทาง YouTube และ Facebook ของ THE STANDARD POP ในวันพุธที่ 22 ธันวาคม 2564 เวลา 18.00 น.

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising