ตามรอยแชมป์นักกอล์ฟสมัครเล่นชาวไทยไปสนามระดับเวิลด์คลาสที่ดูไบ [Advertorial]

หากพูดถึงจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทย ‘ดูไบ’ คงไม่ใช่ชื่อที่ถูกพูดถึงเป็นอันดับแรกๆ แต่เชื่อไหมว่ามหานครสุดตระการตาแห่งนี้มีอะไรน่าสนใจซ่อนอยู่เพียบ ตั้งแต่สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังไปจนถึงสนามกอล์ฟระดับเวิลด์คลาส!

เมื่อวันที่ 9-14 ธันวาคมที่ผ่านมา BMW ประเทศไทย ได้พาสมาชิก The Ultimate JOY Experience ไปสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวเหนือระดับกับทริป BMW Golf Cup Special Edition – Dubai โดยมีไฮไลต์อยู่ที่การตามรอยแชมป์นักกอล์ฟสมัครเล่นชาวไทยไปยังสองสนามกอล์ฟระดับโลก ณ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

เริ่มต้นที่ Emirates Golf Club สนามสุดอลังการที่ได้รับการขนานนามว่า ‘The Wadi’ มาจากคำว่า หุบเขา ในภาษาอาหรับ ซึ่งได้รับการออกแบบใหม่ในปี 2005 โดย นิค ฟัลโด (Nick Faldo) ตำนานกอล์ฟคนหนึ่งของโลก ไม่เพียงเท่านั้น สนามนี้ยังได้เป็นสนามแข่งขันหลักของ BMW Golf Cup International World Final 2016 รายการแข่งขันกอล์ฟมือสมัครเล่นระดับเวิลด์คลาสที่จัดอย่างต่อเนื่องมากว่า 30 ปี ซึ่งนักกอล์ฟชาวไทยเพิ่งคว้าชัยชนะครั้งแรกไปเมื่อปีที่ผ่านมา

สนามกอล์ฟระดับโลกแห่งที่สองของทริปคือ Jumeriah Golf Estate ซึ่งเคยถูกใช้เป็นสนามหลักในการแข่งขัน DP World Tour Championship, Dubai รอบสุดท้ายของฝั่งยูโรเปียนทัวร์ จากอดีตพื้นที่ทะเลทราย ปัจจุบันได้กลายเป็นแฟร์เวย์เขียวชอุ่มที่มีลำธารคดเคี้ยวไหลผ่านกลาง รอมอบประสบการณ์สุดท้าทายแก่ผู้มาเยือน โดยไฮไลต์อยู่ที่ Earth Course ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีคลับเฮาส์และห้องพักสไตล์วิลล่าสุดหรูอยู่ในพื้นที่เดียวกันอีกด้วย

นอกจากประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟในสนามกอล์ฟระดับโลกทั้งสองแห่ง ผู้ร่วมทริปยังได้แวะเที่ยวแลนด์มาร์กเด่นทั่วเมือง ไม่ว่าจะเป็น ตลาดชาร์จาห์ (Blue Souk Sharjah) จุดศูนย์รวมด้านวัฒนธรรมของชาวอาหรับ, พิพิธภัณฑ์ดูไบ (Dubai Museum) แหล่งรวบรวมเรื่องราวสำคัญทางประวัติศาสตร์, ตลาดเครื่องเทศ (Spice Souk) ศูนย์รวมเครื่องเทศหลากหลายชนิดจากทั่วทุกมุมโลก ไปจนถึงการชมวิวเมืองที่ชั้น 125 ของตึกที่สูงที่สุดในโลกอย่าง Burj Khalifa สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ Mission Impossible 4 รวมถึงการตะลุยทะเลทรายด้วย 4WD ที่ทำให้ผู้ร่วมทริปตื่นเต้นและประทับใจไม่รู้ลืมกับประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต