×

กทม. ออกประกาศมาตรการป้องกันอันตรายช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 เน้นให้ระวังดอกไม้เพลิงและโคมลอย

โดย THE STANDARD TEAM
26.12.2023
  • LOADING...

วันนี้ (26 ธันวาคม) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปีเป็นช่วงที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับภูมิลำเนาต่างจังหวัด เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ รวมทั้งประชาชนบางส่วนนิยมที่จะออกเดินทางไปท่องเที่ยวตามงานเทศกาล สถานบันเทิง และสถานบริการต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 

 

บ้านเรือนที่อยู่อาศัยจึงถูกทิ้งไว้ไม่มีผู้ดูแล ทำให้มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดเหตุสาธารณภัยหรืออุบัติภัยเพิ่มสูงขึ้นกว่าช่วงปกติ เช่น ภัยจากการคมนาคม อาชญากรรม เหตุการณ์ความไม่สงบ การแพร่ระบาดของโรคติดต่อ เนื่องจากมีประชาชนมาร่วมงานจำนวนมาก ทำให้สถานที่จัดงานมีความแออัด 

 

อีกทั้งงานเทศกาลและสถานบันเทิงบางแห่งมีการจัดงานเฉลิมฉลอง จุดพลุ หรือดอกไม้เพลิง ประกอบกับเป็นช่วงฤดูหนาว สภาพอากาศแห้งและแล้ง จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยได้ง่าย ซึ่งอาจทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

 

ชัชชาติกล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและลดความเสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น จึงอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 มาตรา 32 และมาตรา 23 วรรคสอง (1) ขอความร่วมมือจากผู้จัดงานเทศกาลปีใหม่ สถานประกอบการ สถานบันเทิง ประชาชน รวมถึงผู้ผลิต สะสม จำหน่าย ผู้เล่นดอกไม้เพลิงและโคมลอยในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานคร ดังนี้

 

1. กรุงเทพมหานครเตรียมความพร้อมและกำหนดแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ของกรุงเทพมหานคร ประจำปี พ.ศ. 2567 และจัดตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์กรุงเทพมหานคร (ศตส.กทม.) ในช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ ประจำปี 2567 จากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัยให้กับชุมชนที่มีความเสี่ยงหรือพื้นที่ล่อแหลมสูง 

 

โดยเฉพาะจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ จุดเสี่ยงอาชญากรรม ตรวจสอบตรวจตราสถานประกอบการ สถานบันเทิงที่มีการจัดงานหรือกิจกรรม เพื่อวางแผนออกแบบมาตรการจัดกิจกรรมอย่างปลอดภัย กำหนดรูปแบบและลักษณะการใช้ประโยชน์พื้นที่เส้นทางหรือจุดเข้า-ออกพื้นที่จัดงานอย่างเข้มงวด และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรตามสถานที่ต่างๆ ตลอดระยะเวลาจัดงาน โดยประสานงานกับหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน พร้อมเฝ้าระวังดูแลในพื้นที่ที่มีคนหนาแน่นโดยใช้กล้อง CCTV รวมถึงการตรวจตราสถานประกอบการที่ผลิต สะสม และจำหน่ายดอกไม้เพลิง 

 

สำหรับสถานที่ซึ่งได้รับอนุญาตให้จำหน่ายดอกไม้เพลิงต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องหลักเกณฑ์การควบคุมและการกำกับดูแลการผลิต การค้า การครอบครอง การขนส่งดอกไม้เพลิงและวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตดอกไม้เพลิง พ.ศ. 2547 อย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย และความปลอดภัยสูงสุดแก่ประชาชน

 

2. ขอความร่วมมือสถานประกอบการ สถานบันเทิง ผู้จัดงาน และเจ้าของพื้นที่จัดงาน วางแผนการบริหารจัดการพื้นที่ และแผนงานรองรับความปลอดภัย พร้อมตรวจสอบความปลอดภัยทางกายภาพ หากพบจุดเสี่ยงอันตรายหรืออุปกรณ์ที่ชำรุดเสียหายให้ดำเนินการแก้ไขให้มีความปลอดภัย หรือประสานผู้รับผิดชอบดำเนินการทันที เช่น ระบบป้องกันอัคคีภัยให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน, ประตูทางเข้า-ออก, ถังดับเพลิง, ระบบสัญญาณเตือนภัย, ระบบไฟฟ้าสำรอง, ป้ายบอกเส้นทางหนีไฟต้องติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ชัดเจน ไม่มีสิ่งกีดขวางตลอดเส้นทาง และสามารถเปิดออกสู่ภายนอกได้อย่างทันที 

 

ตลอดจนกำหนดเส้นทางเข้า-ออกที่ชัดเจน จำกัดจำนวนคนภายในงานให้สอดคล้องกับขนาดและสภาพพื้นที่จัดงาน เพื่อป้องกันความหนาแน่นแออัด และสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้บริการทราบขั้นตอนการปฏิบัติเมื่อต้องอพยพผู้ใช้บริการกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน กรณีเหตุเพลิงไหม้ หรือเหตุสาธารณภัยอื่นๆ ให้แจ้งสายด่วน โทร. 199 ได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง และให้ประสานงานกับสำนักงานเขตอย่างใกล้ชิด

 

3. แจ้งเตือนประชาชน กรณีวางแผนเดินทางออกต่างจังหวัด ขอให้ตรวจสอบสายไฟ ปลั๊กไฟ และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ หากพบความชำรุดให้แก้ไขทันที ปิดสวิตช์ ดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งานหรือก่อนออกจากเคหสถาน รวมถึงกำชับบุตรหลานไม่ให้เล่นไม้ขีดไฟหรือไฟแช็ก และควรเก็บวัสดุที่ติดไฟได้ง่ายให้อยู่ในที่ปลอดภัย 

 

พร้อมจัดหาอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย ศึกษาวิธีการใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าวเมื่อเกิดอัคคีภัย ตลอดจนดูแลบำรุงรักษาให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัย และรณรงค์ให้ประชาชนลด-เลิกการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ภายใต้แนวคิด ‘ฤดูกาลสุขปลอดเหล้า’ และ ‘ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ’ เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทั้งผู้ขับขี่และผู้สัญจรร่วมทาง หากพบผู้บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน แจ้งศูนย์เอราวัณ โทร. 1669

 

4. ห้ามมิให้ผู้ใดจุดและปล่อย หรือกระทำการอย่างใด เพื่อให้บั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการเขตพื้นที่นั้น หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม เป็นความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ประสงค์จะขอจุดและปล่อยหรือกระทำการอย่างใด เพื่อให้บั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ ให้ยื่นแบบคำขอรับใบอนุญาตพร้อมแผนการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องต่อผู้อำนวยการเขตพื้นที่ 

 

และห้ามมิให้ผู้ใดทำ สั่ง นำเข้า หรือค้า ซึ่งดอกไม้เพลิง รวมถึงพลุ ประทัดไฟ ประทัดลม และวัตถุอื่นใดอันมีสภาพคล้ายคลึงกัน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising