คนรักของวินเทจและชอบแต่งบ้านต้องรู้จัก Blue Wild Space ทองหล่อ เพราะเป็นแหล่งรวมสารพัดของชิ้นใหญ่ชิ้นน้อย ที่ไม่ว่าจะนำไปวางตกแต่งมุมไหน ห้องสี่เหลี่ยมของเราจะดูเก๋ขึ้นมาทันที
แต่เพราะความชอบอันไม่สิ้นสุดในของวินเทจ ของแต่งบ้าน และเฟอร์นิเจอร์ ของ ตั้ม-กิตติพงษ์ ไพบูลย์สมบัติ ผู้ให้กำเนิด Blue Wild แถมบ้านหลังเดิมก็ใหญ่ไม่พอให้เขานำของเจ๋งๆ มาโชว์ตัวอีก เขาและแฟนสาว อ๊อย-วรามล ชนะกิจการชัย เจ้าของแบรนด์ Oyster and Things จึงตัดสินใจเปิดบ้านหลังใหม่ในบรรยากาศโกดัง
‘Blue Wild Warehouse’ น้องคนใหม่ล่าสุดของครอบครัว จึงมาพร้อมสเปซที่กว้างมากขึ้น แถมมีคาเฟ่ ร้านเสื้อผ้า และร้านสักด้วย
“เฟอร์นิเจอร์ที่เห็นเป็นของแท้ นำเข้าทั้งหมดเหมือนเดิม ส่วนใหญ่มาจากยุโรปและเป็นดีไซน์ที่ผมชอบเองด้วย” คุณตั้มบอก
โดยเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่เขาเลือกมาจะเป็นแนว Mid-Century ซึ่งค่อนข้างนิยมในช่วงนี้พอดี และมีทั้งเก้าอี้ โซฟา ตู้ หรือโต๊ะดีไซน์สวยๆ ที่หลายคนน่าจะกำลังตามหา
เช่นเดียวกับของแต่งบ้านต่างๆ ที่วางกระจายอยู่เต็มร้าน ด้วยความที่เรามาช่วงเทศกาลพอดี โกดังจึงเต็มไปด้วยของตกแต่งสำหรับเทศกาลคริสต์มาสจาก Oyster and Things
“เราก็เลือกมาเฉพาะของดีไซน์สวยๆ จากแถบยุโรปบ้าง เอเชียบ้าง เป็นของแต่งบ้านที่หลายคนน่าจะชอบกัน อย่างเช่น ตอนนี้ใกล้ถึงคริสต์มาส ก็จะหาของตกแต่งสไตล์คริสต์มาสมาวางเต็มไปหมด”
เดินขึ้นไปชั้นสองจะพบกับร้านขายเสื้อผ้าวินเทจ ‘Usage Store’ เราเชื่อว่าคนชอบเสื้อผ้าหายากต้องตาลุกวาว เพราะร้านมีไอเท็มคูลๆ อยู่เต็มไปหมด บางชิ้นเป็นของใหม่เอี่ยม บางชิ้นเป็นของสะสม หรือเสื้อผ้ามือสองก็มี ทั้งแจ็กเก็ต สเวตเตอร์ เดรส หรือเสื้อยืดลายสวย
ลองมาใช้เวลาตามหาแรร์ไอเท็มในร้านกันดู
คาเฟ่จะอยู่ชั้นล่าง สามารถเข้าได้ทางด้านหน้าหรือเดินทะลุจากด้านในเลยก็ได้ โดยเจ้าของร้าน Oooz. ก็คือคนเดียวกับร้านตัดสูท The Primary Haus ในซอยสุขุมวิท 36 อยู่ใกล้กับร้าน Blue Wild Space แบบเดินอึดใจเดียวถึง
“พวกเราอยากทำคาเฟ่บรรยากาศโฮมมี่ อยากให้ทุกคนมานั่งสบายๆ ได้ทุกวัน เมนูที่ร้านเลยเน้นความเรียบง่าย มีทั้งเมนู Coffee และ Non-Coffee บวกกับขนมอีกนิดหน่อย”
ด้วยเหตุนี้กาแฟที่ร้าน Oooz. จึงใช้เมล็ดไทย-บราซิล คั่วระดับกลาง เพื่อใช้ชงเครื่องดื่มกาแฟเบสิกได้ทุกเมนู โดยราคาเริ่มต้น 90-140 บาท
เมนูแนะนำก็มี Yuzu Tonic (120 บาท) กาแฟส้มดื่มแล้วสดชื่น เป็นรสชาติที่เจ้าของร้านปรับเองให้ลงตัวในแบบที่ชอบ หรือ Clear Matcha (100-120 บาท) สำหรับคนชอบดื่มมัทฉะใสๆ แต่หากชอบดื่มผสมนมก็มีมัทฉะลาเต้ให้สั่งเช่นกัน
ส่วนห้องสุดท้ายด้านหลังร้าน ‘The Black Orchid’ เป็นร้านสักที่คุณตั้มบอกว่าจะเน้นช่างสักชื่อดังจากเมืองนอก แต่ละคนจะมาป๊อปอัพสั้นๆ และผลัดเปลี่ยนสไตล์ไปเรื่อยๆ ให้ Tattoo Collector แวะมาฝังลายที่ชอบกันได้
ส่วนจะมีใครมาจากที่ไหน เมื่อไร ต้องรอติดตามกันดู
Blue Wild Warehouse อยู่ในซอยวชิรธรรมสาธิต 6 ย่านอุดมสุข จะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป โดยเปิดทุกวัน เวลา 10.00-18.00 น. สอบถามหรือติดตามได้ที่ Bluewild Warehouse หรือ @bluewild.warehouse
Map:
