×

Blancpain ตำนานเรือนเวลา 288 ปี จากสวิตเซอร์แลนด์ และมนตร์เสน่ห์อันเป็นนิรันดร์ [ADVERTORIAL]

โดย THE STANDARD TEAM
22.03.2023
  • LOADING...
Blancpain

HIGHLIGHTS

3 min read
  • เป็นระยะเวลากว่า 288 ปีแล้วที่กลไกสุดสลับซับซ้อนของ Blancpain ได้เฝ้าจับเวลาคอยนับทุกเสี้ยววินาทีที่เกิดขึ้นผ่านยุคสมัยที่ผันแปร ช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำ หลังก่อตั้งขึ้นในปี 1735 ด้วยน้ำมือของชายผู้มากความสามารถ Jehan-Jacques Blancpain
  • Blancpain ใส่ใจและให้ความสำคัญกับประเด็นด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การบริหารงานและสายพานการผลิต และยังปรากฏให้เห็นเด่นชัดจากการที่ 4 คอลเล็กชันหลักของแบรนด์เป็นตัวแทนของธาตุทั้ง 4 ที่หลอมรวมโลกและทุกสรรพสิ่งเข้าด้วยกัน
  • ไม่เพียงเท่านั้น นิยามของบลองแปงที่ว่า There is Eternity in Every Blancpain ยังสะท้อนให้เห็นความหมายที่ชัดเจนอย่างยิ่งยวดผ่านเรือนเวลาในคอลเล็กชัน Fifty Fathoms, Air Command, Villeret และ Ladybird อีกด้วย

หากคุณบรรจงนิ้วลงบนแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดเพื่อเสิร์ชหาข้อมูล ‘แบรนด์นาฬิกาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก’ ชื่อของ ‘Blancpain’ จะปรากฏขึ้นในลำดับตั้นๆ เป็นเอกฉันท์แทบจะทันทีทันใด

 

เป็นระยะเวลากว่า 288 ปีแล้วที่ฟันเฟือง จักรเฟือง เรื่อยไปจนถึงกลไกที่สลับซับซ้อนของ Blancpain ได้เฝ้าจับเวลาคอยนับทุกเสี้ยววินาทีที่เกิดขึ้นผ่านยุคสมัยที่ผันแปร ช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำ เที่ยงตรงหลังก่อตั้งขึ้นในปี 1735 ด้วยน้ำมือของชายผู้มากความสามารถ Jehan-Jacques Blancpain (ฌอง-ฌาคส์ บลองแปง)

 

อะไรคือหัวใจสำคัญที่ทำให้กลไกของและเข็มเรือนเวลา Blancpain เดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง มั่นคง และเป็นนิรันดร์ แล้วปรัชญาการหลอมรวมกับธรรมชาติของพวกเขาเกี่ยวข้องกันกับคอลเล็กชันนาฬิกาของ Blancpain ได้อย่างไร?

 

Blancpain

 

นับหนึ่งจากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในหมู่บ้าน Villeret สวิตเซอร์แลนด์

ณ Villeret หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในแถบเทือกเขา Jura ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ Jehan-Jacques Blancpain ชายผู้เปี่ยมไปด้วยวิสัยทัศน์ แพสชัน และความสามารถที่ล้นเหลือ ทั้งยังเป็นทั้งครู เกษตรกร นายกเทศมนตรี และนักประดิษฐ์นาฬิกาในเวลาเดียวกัน ได้ก่อตั้งแบรนด์นาฬิกาขึ้นมา

 

Jehan-Jacques Blancpain ได้ใช้ชื่อของตัวเองเป็นชื่อตั้งต้นของแบรนด์ อาศัยลานกว้างบนชั้นสองของบ้านไร่ที่เจ้าตัวอยู่อาศัยเป็นโรงผลิตนาฬิกา และมีตัวเขาเองในฐานะนักประดิษฐ์และผู้บุกเบิกนาฬิกาที่อุทิศวิสัยทัศน์อันก้าวไกลให้กับแนวคิดด้าน ‘ธรรมชาติ’

 

วันเวลาล่วงเลยไปปีแล้วปีเล่า ความรัก แพสชัน และจิตวิญญาณที่มุ่งมั่นแน่วแน่ที่มีต่อเรือนเวลาของตระกูล Blancpain ได้ถูกส่งต่อจาก Jehan-Jacques Blancpain ผู้พ่อ มาสู่รุ่นลูก หลาน เหลน ฯลฯ มาตลอดระยะเวลากว่าหลายช่วงอายุคนไม่เคยเสื่อมคลาย

 

Frédéric-Emile Blancpain บุตรชายของ Frédéric-Louis Blancpain ทายาทรุ่นที่ 7 ของตระกูล Blancpain

 

จนกระทั่งในปี 1932 Frédéric-Emile Blancpain ได้จากโลกนี้ไปอย่างกะทันหัน และเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นก็คือลูกสาวของ Frédéric-Emile Blancpain ไม่ได้สนใจที่จะสืบทอดกิจการ Blancpain ต่อจากคุณพ่อของเธอ เธอจึงได้เขียนจดหมายขอให้คุณ Betty Fiechter ที่ทำงานร่วมกันกับคุณพ่อ และมีความเข้าใจในธุรกิจ Blancpain มากที่สุด มาช่วยรับกิจการไปดูแลแทน

 

Betty Fiechter ซีอีโอหญิงคนแรกของบริษัทผู้ผลิตนาฬิกา

 

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว Betty Fiechter เองก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน เพราะก่อนหน้านี้ในสมัยที่เธอยังอายุได้เพียง 16 ปี Betty ได้มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้งานกับ Blancpain ในฐานะเด็กฝึกงาน เธอจึงได้เก็บเกี่ยวสั่งสมทั้งความรู้ ประสบการณ์ ความช่ำชองทุกแง่มุมที่เกี่ยวกับเรือนเวลา และทำให้ผลของความสนใจในศาสตร์ด้านเวลาของเธอสุกงอมจนถึงขีดสุดในวันที่เธอก้าวขึ้นมากุมบังเหียน Blancpain ในฐานะซีอีโอหญิงคนแรกของบริษัทเมื่อปี 1933

 

ผลงานโดดเด่นของ Betty คือการที่เธอสามารถพาบริษัทโต้คลื่นผ่านมรสุมด้านเศรษฐกิจครั้งใหญ่มาได้ การตัดสินใจที่ยืดหยุ่นครั้งแล้วครั้งเล่า เรื่อยไปจนถึงการสรรค์สร้างนาฬิกาที่ประดับตกแต่งด้วยเครื่องประดับจิวเวลรีที่สร้างชื่อเสียงให้แบรนด์มหาศาล

 

ความพิเศษในแง่มุมของ ‘Gender Equality (ความเท่าเทียมทางเพศ)’ ยังถือเป็นอีกหนึ่งใน DNA สำคัญของแบรนด์ Blancpain อีกประการ ซึ่งถ้าสังเกตให้ดีก็จะพบว่าผู้หญิงล้วนแล้วแต่เป็นหัวใจความสำเร็จที่ Blancpain เชิดชูมาตลอด และแบรนด์ Blancpain เองก็ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการรังสรรค์นาฬิกาสำหรับผู้หญิงอีกด้วย

 

หลังจากนั้นเป็นต้นมา เรือนเวลาที่รังสรรค์ภายใต้แบรนด์ Blancpain ยังถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย หรืออยู่ภายใต้การบริหารของผู้นำคนใด อัตลักษณ์ ความเป็นตัวตนของ Blancpain ก็ยังคงดำรงอยู่เหนือกาลเวลา

 

 

Fifty Fathoms | Air Command | Villeret | Ladybird 4 คอลเล็กชันนาฬิกาอันเป็นนิรันดร์ ตัวแทนธาตุทั้ง 4 ที่หลอมรวมโลกและสรรพสิ่ง มีคำกล่าวหนึ่งของ Blancpain ที่ว่า “There is Eternity in Every Blancpain” ซึ่งในที่นี้อีกความหมายหนึ่งที่ต้องการจะสื่อก็คือข้อเท็จจริงที่ว่า Blancpain ทุกเรือนล้วนแล้วแต่เป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซแทบทั้งสิ้น

 

อย่างที่ได้เกริ่นเอาไว้ในตอนต้นว่า Blancpain นับเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล ทั้งยังเชื่อมโยงกับแนวคิดด้านธรรมชาติมาตั้งแต่ยุคสมัยแรกๆ

 

สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นได้ผ่านการบริหารงานและสายพานการผลิตที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมเพียงเท่านั้น แต่ยังปรากฏให้เห็นเด่นชัดมาจากการที่คอลเล็กชันหลักของ Blancpain ทั้ง 4 ของแบรนด์เป็นตัวแทนของธาตุทั้งสี่ที่หลอมรวมโลกและทุกสรรพสิ่ง และเป็นเครื่องชี้วัดที่ทำให้น้ำหนักของนิยามที่ว่า There is Eternity in Every Blancpain หนักแน่นเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี ประกอบไปด้วย

  1. Fifty Fathoms – ธาตุน้ำ
  2. Air Command – ธาตุลม
  3. Villeret – ธาตุดิน
  4. Ladybird – ธาตุไฟ

 

Fifty Fathoms 70th Anniversary Act 1 โมเดลฉลองครบรอบ 70 ปี ของตำนานนาฬิกาสำหรับนักดำน้ำเรือนแรกของโลก
ที่เปิดตัวในเดือนมกราคม 2023 ที่ผ่านมา

 

เริ่มต้นที่ Fifty Fathoms นาฬิกาดำน้ำเรือนแรกของโลกโดย Blancpain ในฐานะตัวแทนธาตุน้ำ ซึ่งถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1953 เป็นนาฬิกาที่เปรียบได้ดั่งแพสชันที่ Blancpain มีต่อโลกใต้น้ำและการอนุรักษ์ผืนน้ำ

 

 

จุดเด่นสำคัญของ Fifty Fathoms คือการที่โมเดลในคอลเล็กชันนี้ของ Blancpain ทุกรุ่นจะมีองค์ประกอบสำคัญที่เปรียบได้ดั่งเอกลักษณ์ของเรือนเวลา Blancpain รุ่นบุกเบิกมารวมเอาไว้อยู่ในนาฬิกาดำน้ำเรือนนี้ ทั้งในแง่ดีไซน์หรือกลไกต่างๆ แล้วผสมผสานเข้ากับนวัตกรรมและเทคนิคใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละยุคสมัย เพื่อให้ Fifty Fathoms สามารถเติมเต็มความต้องการที่ซับซ้อนของผู้ใช้งานแต่ละคนได้ทุกอณู

 

ไม่เพียงเท่านั้น กว่า 7 ทศวรรษที่ Fifty Fathoms ถือกำเนิดขึ้นมา Blancpain ยังได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับนักสำรวจ, ช่างภาพ, นักวิทยาศาสตร์ และนักอนุรักษ์ด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนและผลักดันโครงการส่งเสริมด้านท้องทะเลและมหาสมุทรอย่างไม่ลดละ ภายใต้ความมุ่งมั่นทางมหาสมุทร ‘Blancpain Ocean Commitment’ เพื่อเดินหน้าอนุรักษ์ธรรมชาติ สิ่งมีชีวิต และผืนทะเล ตลอดจนถึงการผลักดันการสร้างการรับรู้ที่ดีในการส่งเสริมชุมชนแต่ละท้องที่ให้ร่วมกันปกป้องมหาสมุทร เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีกว่าเดิมร่วมกัน

 

 

ตัวอย่างเช่น การทำงานร่วมกับมูลนิธิ Biopixel Oceans Foundation เพื่อส่งเสริมการศึกษางานวิจัยทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล, การอนุรักษ์พันธุ์สัตว์และแนวปะการัง หรือการทำงานร่วมกับสมาคมวิชาชีพครูสอนดำน้ำ PADI เพื่อร่วมสร้างขุมกำลังที่มุ่งมั่นจะปกป้องมหาสมุทรให้ได้ในสัดส่วน 30% ของโลกภายในปี 2030 เป็นต้น

 

และในโอกาสวาระฉลองครบ 70 ปีของคอลเล็กชัน Fifty Fathoms ในปี 2023 นี้ ทาง Blancpain ยังได้เปิดหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ของนาฬิกาดำน้ำยุคโมเดิร์นด้วยการเปิดตัว Fifty Fathoms 70th Anniversary Act 1 ตามมาติดๆ ด้วย Act 2 – Fifty Fathoms Tech Gombessa

 

ซึ่ง Fifty Fathoms Tech Gombessa ถือเป็นนาฬิกาที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักดำน้ำในปัจจุบันได้ครบถ้วนทุกประการ ทั้งยังเกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือในการร่วมพัฒนานวัตกรรมระหว่าง Marc A. Hayek ประธานและซีอีโอ Blancpain คนปัจจุบัน และ Laurent Ballesta ผู้ก่อตั้งโปรเจกต์ Gombessa (โปรเจกต์การศึกษาสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลและมหาสมุทรเพื่อการอนุรักษ์) เพื่อยกระดับนาฬิกาดำน้ำคอลเล็กชันนี้ให้มาพร้อมกับฟังก์ชันการจับเวลาใต้น้ำได้ยาวนานถึง 3 ชั่วโมงเป็นครั้งแรกของโลก

 

 

Blancpain Fifty Fathoms 70th Anniversary Act2 – Tech Gombessa ภาคต่อของนาฬิกาดำน้ำรุ่นฉลองครบรอบ 70 ปี

 

จุดเด่นและความพิเศษอีกประการของ Fifty Fathoms Tech Gombessa คือตัวเรือนผลิตจากวัสดุแบบไทเทเนียมเกรด 23 ที่ Blancpain เพิ่งนำมาใช้กับนาฬิกาของตนเองเมื่อไม่นานมานี้ ถือเป็นไทเทเนียมที่มีความบริสุทธิ์ที่สุดที่มีอยู่ เพิ่มความแข็งแรงทนทาน แต่ขณะเดียวกันก็มีน้ำหนักเบามาก ไม่ทำให้ผู้ใส่เกิดอาการแพ้และไม่รู้สึกหนักข้อมือแต่อย่างใด

 

ตามมาด้วย ‘Air Command’ คอลเล็กชันนาฬิกาที่เป็นตัวแทนของธาตุลม เป็นตำนานแห่งเรือนเวลาอันทรงคุณค่าที่หาได้ยากยิ่ง จนขึ้นทำเนียบนาฬิกาสำหรับนักสะสม ถึงแม้จะไม่ค่อยมีผู้ใดล่วงรู้ว่าประดิษฐกรรมเวลาชิ้นนี้มีต้นกำเนิดอย่างไร จนถึงกับมีการสันนิษฐานกันไปต่างๆ นานา แท้จริงแล้วนี่คือสุดยอดนวัตกรรมเพื่อปฏิบัติการการบินของกองทัพโดยเฉพาะ ที่เหนือชั้นกว่าเครื่องบอกเวลาอากาศยานอื่นใด และยังมีรูปลักษณ์อันงดงามที่ทั่วโลกต่างหลงใหล

 

 

ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ ต้นยุค 1950 กระทรวงกลาโหมฝรั่งเศสได้เฟ้นหานาฬิกาโครโนกราฟประสิทธิภาพสูงเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในภารกิจของกองทัพโดยเฉพาะ โดยระบุคุณสมบัติว่าต้องเป็นนาฬิกาหน้าปัดสีดำ พร้อมตัวเลขและเข็มบอกเวลาแบบพรายน้ำเพื่อให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจน และจะต้องมีฟังก์ชัน Flyback Chronograph และเข็มวินาทีที่มีขนาดเล็ก อีก 2-3 ปีต่อมา กองทัพต่างๆ ต่างก็ต้องการนาฬิกาคุณสมบัติเดียวกันนี้ Blancpain ซึ่งสร้างชื่อโด่งดังมาแล้วจากการประดิษฐ์นาฬิกาประดาน้ำ Fifty Fathoms ให้กับกองทัพเรือสหรัฐฯ เป็นผลสำเร็จ จึงนำประสบการณ์ดังกล่าวมาเป็นแรงบันดาลใจเพื่อต่อยอดรังสรรค์นวัตกรรมใหม่ โดยมอบหมายให้ Allen V. Tornek ผู้จัดจำหน่ายนาฬิกา Blancpain เป็นผู้ส่งมอบโมเดลต้นแบบที่ผลิตขึ้นเพียง 12 เรือนให้แก่กองทัพอากาศสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม นาฬิการุ่นดังกล่าวไม่เคยได้รับคำสั่งผลิตจริง จึงทำให้ Blancpain Air Command กลายเป็นนาฬิการุ่นลิมิเต็ดไปโดยปริยาย

 

เรือนเวลา Air Command รุ่นใหม่ของ Blancpain จึงสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณของนาฬิกานักบินในอดีตอย่างชัดเจน โดยมีทั้งระบบ Flyback Chronograph และขอบนาฬิกาหมุนได้สำหรับจับเวลาถอยหลัง ซึ่งฟังก์ชัน Flyback นั้นถือว่าเป็นฟังก์ชันที่มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่งสำหรับนักบิน เนื่องจากใช้การกดปุ่มเพียงครั้งเดียวในการเริ่มต้นจับเวลาครั้งใหม่ในขณะที่การจับเวลาเดิมยังทำงานอยู่ โดยเมื่อเทียบกับระบบ Chronograph ทั่วไปแล้ว การเริ่มต้นจับเวลาครั้งใหม่ในขณะที่การจับเวลาเดิมยังทำงานอยู่นั้นต้องอาศัยการกดปุ่มทั้งหมดถึงสามครั้งบนปุ่มสองปุ่มเพื่อหยุด รีเซ็ต และจับเวลาใหม่อีกครั้ง ในส่วนของขอบนาฬิกาจับเวลาถอยหลังมีไว้สำหรับบอกระยะเวลาที่ยังเหลืออยู่ก่อนจะถึงจุดหมาย

 

รู้ประวัติความเป็นมาแบบนี้แล้ว การที่ Air Command ได้ถูกยกให้เป็นตัวแทนแห่งธาตุลมจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจแต่อย่างใด

 

 

ด้าน Villeret ที่เป็นตัวแทนแห่งธาตุดินของ Blancpain นั้น แม้มองผิวเผินอาจจะดูเรียบง่าย แต่ความพิเศษของ Villeret (ชื่อหมู่บ้านต้นกำเนิดแบรนด์ Blancpain) ก็คงจะมาจากการที่คอลเล็กชันนี้เปรียบเสมือน ‘รากฐาน’ ที่สำคัญ และความมั่นคงของ Blancpain

 

ถึงดูเรียบง่ายแต่กลับดูทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา สะท้อนให้เห็นถึงหลักสุนทรียศาสตร์อันเป็นรากเหง้าของตัวแบรนด์ เริ่มต้นตั้งแต่สายนาฬิกา ความชัดเจนของหน้าปัด และความเพรียวบางของตัวเรือน พร้อมขอบหน้าปัดแบบสองชั้นบ่งบอกถึงความสง่างามเหนือกาลเวลาได้อย่างไม่เคอะเขิน โดยที่ในแต่ละยุคสมัย ทาง Blancpain ก็ยังได้ปรับปรุงและพัฒนา Villeret ด้วยนวัตกรรมที่ดีที่สุดในแต่ละช่วงเวลาอีกด้วย

 

Ladybird Quantième Complet (ขวา)

 

ท้ายสุดแต่สำคัญยิ่งหย่อนไม่แพ้ใคร ‘Ladybird’ ตัวแทนแห่งธาตุไฟและสตรีเพศที่สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลของ Blancpain มานานนม เป็นส่วนผสมระหว่างจักรกล กลไกที่ซับซ้อน และความสง่างามลงตัวของตัวเรือนที่ประกอบขึ้นอย่างประณีต พิถีพิถันโดยงานประกอบมือ

 

ความพิเศษของการพัฒนาคอลเล็กชัน Ladybird จากอดีตจวบจนปัจจุบันโดย Blancpain คือการที่แบรนด์ใส่ใจตัวผู้ใส่อย่างแท้จริง

 

เริ่มต้นตั้งแต่ในวันวานที่ตัวเรือนจะมุ่งเน้นไปที่กลไกขนาดเล็กละเอียดประณีต สู่ปัจจุบันที่บรรจบลงตรงกลางในการตอบสนองความต้องการที่ร่วมสมัยของสุภาพสตรีที่นำความคลาสสิก เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และความสวยงามมาหลอมรวมเข้าด้วยกันได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ

 

ด้วยเอกลักษณ์ ความยูนีก และเสน่ห์ที่หาตัวจับได้ยาก ไปจนถึงจิตวิญญาณอันแรงกล้าที่ ​​Blancpain มีต่อความพยายามในการพัฒนาเรือนเวลาของพวกเขาอย่างไม่ลดละล้วนแล้วแต่เป็นแรงผลักดันที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดที่ทำให้ผลงานนาฬิกาของ Blancpain ทุกเรือนเป็นมาสเตอร์พีซระดับปรากฏการณ์ ทั้งยังมีส่วนสำคัญในการบันทึกประวัติศาสตร์ ประสบการณ์ และทุกช่วงเวลาในชีวิตของผู้คนจากรุ่นสู่รุ่นอย่างไม่รู้จบ

 

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมของนาฬิกาคอลเล็กชันต่างๆ ได้ที่ https://www.blancpain.com/

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising