จากกรณีที่ พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลและส่งฟ้องยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฐานปกปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งได้ดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีโดยการไต่สวนในชั้นศาลแล้ว ซึ่งพลภูมิได้แสดงความบริสุทธิ์และขอความเมตตาจากศาลพิจารณาประเด็นเรื่องอายุความตามกฎหมาย ป.ป.ช. และศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 12 กันยายนนั้น
ล่าสุดกรณีดังกล่าวได้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงทางการเมือง เมื่อมีหลายฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะในรายของ สมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตบรรณาธิการนิตยสาร Voice of Taksin ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า
“คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ลงเลือกตั้งซ่อม กทม. หากวันที่ 12 กันยายนนี้ นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส. กทม. เขต 14 บึงกุ่ม คันนายาว สังกัดพรรคเพื่อไทย ต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองและจะต้องมีการเลือกตั้งซ่อม ขอเสนอให้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อจะได้เป็น ส.ส. กทม. เข้าสภา ทำหน้าที่เป็นผู้นำฝ่ายค้านอีกคนหนึ่งในการขับไล่รัฐบาลโจรครองเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญกันต่อไป”
ทำให้ในเวลาต่อมาพลภูมิได้แชร์โพสต์ของสมยศ พร้อมแสดงความคิดเห็นว่า “อย่าเพิ่งไปคาดเดาว่าผลตัดสินจะออกมาเป็นเช่นนั้น คดีนี้ยังไม่มีคำพิพากษาออกมาแต่อย่างใด ผมยังเป็น ส.ส. และยังทำหน้าที่ตอบแทนความไว้วางใจของประชาชนอย่างเต็มที่เหมือนที่เคยทำมาตลอดหลายสิบปี #ผมยังมีความหวังว่าจะได้ทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนต่อไปครับ”
กรณีการพิจารณาคดีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนักการเมือง หากย้อนกลับไปดูช่วงก่อนหน้านี้และในปัจจุบันจะพบว่ามีนักการเมืองทั้งระดับชาติ ท้องถิ่น รวมถึงข้าราชการประจำระดับสูงถูกดำเนินคดีหลายคน ขณะที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มีเงื่อนไขที่รุนแรง หากมีความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช. อาจไม่สามารถเล่นการเมืองได้ตลอดไป
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์