×

ผ่างบการเงิน ‘Bitkub Online’ สตาร์ทอัพที่เติบโตหลัก 1,000% จนเข้าตายานแม่ ‘SCBX’

03.11.2021
  • LOADING...
Bitkub Online

ปรากฏการณ์ ‘บิ๊กเซอร์ไพรส์’ ที่เขย่าแวดวงคริปโตเคอร์เรนซี จากการที่ ‘กลุ่ม SCBX’ ทุ่มเงินลงทุนกว่า 1.78 หมื่นล้านบาท เข้าถือหุ้นสัดส่วน 51% ในบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ (SCBS) กลายเป็นคำถามตัวโตๆ ว่า กลุ่ม SCBX มองเห็นอะไรในบิทคับ ออนไลน์ จึงกล้าทุ่มเงินก้อนโต ซึ่งนับเป็นเม็ดเงินลงทุนที่มากสุดในรอบ 10 ปีของกลุ่มไทยพาณิชย์

 

THE STANDARD WEALTH ชวนไปหาคำตอบผ่านโครงสร้างบริษัท พร้อมย้อนดูผลดำเนินงาน และแนวโน้มธุรกิจที่ Bitkub ให้บริการอยู่

 

บิทคับ ออนไลน์ ก่อตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2561 เพื่อเป็น Exchange Platform สำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีทุนจดทะเบียน 290 ล้านบาท 

 

‘รายได้-กำไร’ โตติดจรวด 3 ปีซ้อน 

 

นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 2561 รายได้ของบิทคับ ออนไลน์ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 

  • ปี 2561 รายได้รวม 1.05  ล้านบาท
  • ปี 2562 รายได้รวม 36.57 ล้านบาท  (+3,358%YoY)
  • ปี 2563 รายได้รวม 330.59 ล้านบาท (803%YoY)
  • 9 เดือน ปี 2564 รายได้รวม 3,279 ล้านบาท (891%YTD)

 

ขาดทุน/กำไรสุทธิ

  • ปี 2561 ขาดทุนสุทธิ 18.61 ล้านบาท
  • ปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 14.52 ล้านบาท (+22%YoY)
  • ปี 2563 กำไรสุทธิ 79.91 ล้านบาท (650%YoY)
  • 9 เดือน ปี 2564 กำไรสุทธิ 1,533 ล้านบาท (1,818%YTD)

 

การเติบโตของผลการดำเนินงาน Bitkub สาเหตุหลักมาจากจำนวนผู้ใช้บริการใน Digital Asset Exchange ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยในงวด 9 เดือนแรกปีนี้ มีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 1.03 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดราว 92% 

 

รวมถึงบิทคับสามารถบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

มาร์เก็ตแชร์เบอร์ 1 ของตลาด Digital Exchange 

ตามที่ Bitkub แจ้งกับสำนักงาน ก.ล.ต. ระบุว่า ในงวด 9 เดือนแรก ปี 2564 มีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 1.03 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดราว 92% ซึ่งมากเป็นอับดับ 1 ที่ทิ้งห่างคู่แข่งอีก 5 รายที่มีใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) อย่างสิ้นเชิง

 

โดยปัจจุบันผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ประกอบด้วย

  1. Bitkub (คริปโตเคอร์เรนซี, โทเคนดิจิทัล) 
  2. Satang Pro (คริปโตเคอร์เรนซี, โทเคนดิจิทัล)
  3. ERX (โทเคนดิจิทัล)
  4. Zipmex (คริปโตเคอร์เรนซี, โทเคนดิจิทัล)
  5. Upbit (คริปโตเคอร์เรนซี, โทเคนดิจิทัล)
  6. Z.comEX (คริปโตเคอร์เรนซี, โทเคนดิจิทัล)

 

โบรกมองเป็น ‘ทางลัด’ ที่ถูกเวลา 

นักวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ดีลนี้เป็นดีที่ดีในเชิงกลยุทธ์และการลงทุนสำหรับ SCBX เนื่องจากตลาดฟินเทคมีการเติบโตเร็วมาก การที่ SCBX ส่งบริษัทลูกอย่าง SCBS เข้าไปถือหุ้นใน Bitkub ถือเป็นการตัดสินใจที่ดี เนื่องจากหากริเริ่มเข้าสู่ตลาดนี้เอง อาจต้องใช้เวลาพัฒนาแพลตฟอร์มราว 1-3 ปี อีกทั้งยังต้องลงทุนด้านบุคลากรเพิ่มด้วย และยังต้องเผชิญความไม่แน่นอนของตลาดและผู้เล่นในตลาดว่าจะมีพัฒนาการอย่างไรต่อ 

 

นักวิเคราะห์ บล.โนมูระ พัฒนสิน มองดีลนี้เป็นบวก เนื่องจาก

 

  1. Bitkub ถือเป็นผู้นำด้านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของไทย มีส่วนแบ่งการตลาดราว 92% ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้

 

  1. ช่วยต่อยอดธุรกิจให้กับ SCB ซึ่งปัจจุบันมีเพียง Token X ทำหน้าที่เพียงการออกเหรียญดิจิทัล (Initial Coin Offering: ICO)

 

นักวิเคราะห์ระบุว่า หากใช้สมมติฐานว่าการซื้อขายเสร็จในไตรมาสแรกปี 2565 คาดว่าจะทำให้ประมาณการกำไร ปี 2022F ของ SCB มีอัปไซด์ส่วนเพิ่มอีกราว 3% (After Minority) และมีอัปไซด์ต่อราคาเป้าหมาย 0.3 บาทต่อหุ้น

 

ส่วนราคาซื้อขายที่ 17,850 ล้านบาท ถือว่าถูก เพราะคิดเป็น Price/Sales ที่ 8.0x, PE 17.1x และ PBV 14.5x เทียบกับบริษัท Coinbase Global Inc ซึ่งเป็น Listed Company ในตลาด Nasdaq สหรัฐฯ มี Price/Sales ที่ 13.6x, PE 33.7x และ PBV 14.6x

 

บล.โนมูระ พัฒนสิน ยังคงคำแนะนำซื้อด้วยราคาเป้าหมายในปี 2565 ที่ 150.0 บาท ยังเลือกเป็น Top Pick ของกลุ่มธนาคาร จากการเป็นผู้ริเริ่มปรับเปลี่ยน Landscape ธุรกิจธนาคารให้มีความคล่องตัว 

 

ฐานลูกค้ามากกว่า 2.4 ล้านบัญชี 

 

ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บล.หยวนต้า มองว่า ดีลนี้จะเป็นตัวเร่งให้ SCBX เข้าถึงฐานลูกค้าในกลุ่ม Digital Asset Investor ได้เร็วขึ้น ผ่านกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ของ Bitkub ที่คาดมีจำนวนมากกว่า 2.4 ล้านบัญชี ซึ่งส่วนใหญ่มีความพร้อมที่จะทำความเข้าใจและลงทุนกับผลิตภัณฑ์ Digital Asset ใหม่ๆ มากกว่านักลงทุนทั่วไป ซึ่งจะช่วยให้ SCBX สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามาในแพลตฟอร์มของ Bitkub ได้ในอนาคต ตามแผนขยายธุรกิจในกลุ่มฟินเทค เช่น DeFi, NFT, Token หรือการเป็น ICO Portal 

 

อีกทั้งมีโอกาสสร้าง Synergy บนฐานลูกค้าตลาดทุนเดิมของ SCBS ซึ่งมีลูกค้านักลงทุนกลุ่ม Digital User ที่ลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน ‘Easy Invest’ ราว 5 แสนราย ที่อาจจะเริ่มต้นสนใจหรือมาใช้แพลตฟอร์มซื้อขาย Digital Asset ของ Bitkub มากขึ้น 

 

นอกจากนี้ SCBX ยังมีธุรกิจในกลุ่ม Tech Support เช่น SCB 10X, Tech X และ Data X ที่จะเข้ามาช่วยเสริมระบบการดำเนินงานให้แพลตฟอร์มของ Bitkub มีเสถียรภาพในการให้บริการมากขึ้น เพื่อรองรับฐานลูกค้าที่จะทยอยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งการที่แบงก์ใหญ่อย่าง SCB ซึ่งมีความพร้อมทั้งทีมงานและเงินทุน เข้ามาร่วมลงทุนในบริษัทที่เป็นผู้นำของตลาด Digital Asset Exchange อย่าง Bitkub คาดจะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนมากขึ้น และทำให้มีโอกาสที่จะเห็นการขยับขึ้นของมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อบัญชีให้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำกว่า 1 ล้านบาท

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising