×

เทขายยับ! ตลาดคริปโตเดือนเดียวสูญเกือบ 8 แสนล้านดอลลาร์ Bitcoin มูลค่าต่ำสุดในรอบ 10 เดือน

11.05.2022
  • LOADING...
Bitcoin

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของบรรดาธนาคารกลางในหลายประเทศทั่วโลกนำโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งพ่วงด้วยการปรับนโยบายการเงินให้เข้มงวดมากขึ้น ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ มีต้นทุนที่แพงมากขึ้น ดังนั้นนักลงทุนในตลาดส่วนใหญ่จึงเลี่ยงหรือชะลอการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง หนึ่งในนั้นหมายถึงสินทรัพย์ดิจิทัลและคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหลาย

 

ข้อมูลจาก CoinMarketCap พบว่า ลำพังแค่เดือนเมษายนที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียว สินทรัพย์ดิจิทัลสูญมูลค่าตลาดไปแล้วเกือบ 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้มูลค่าตลาดของสินทรัพย์คริปโตโดยรวมลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ทั้งนี้ Bitcoin สินทรัพย์คริปโตยอดนิยมอันดับหนึ่ง ซึ่งคิดเป็น 40% ของตลาดคริปโต ได้ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน หลุดกรอบ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นมาที่ 31,450 ดอลลาร์สหรัฐ เพียง 6 วันหลังเพิ่งจะขยับแตะ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ กระนั้นราคาดังกล่าวก็ยังอยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 54% ที่ 69,000 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2021

 

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาสินทรัพย์ดิจิทัลต่างปรับตัวร่วงลงอย่างหนักตามทิศทางของตลาดหุ้นที่ดิ่งแรงเข้าสู่แดนลบ เพราะบรรดานักลงทุนหวั่นเกรงว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเหล่าธนาคารกลางทั่วโลกเพื่อสกัดเงินเฟ้อจะแข็งกร้าวมากกว่าที่คาดการณ์กันไว้ จนทำให้การฟื้นตัวเติบโตของเศรษฐกิจมีอันต้องสะดุด โดยนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วดัชนี Nasdaq ปรับตัวร่วงลงแล้วถึง 28%

 

Glassnode ผู้ให้บริการบล็อกเชนระบุว่า Bitcoin ยังคงมีความสัมพันธ์อย่างสูงกับสภาพเศรษฐกิจในวงกว้าง ซึ่งบ่งชี้ได้ว่า อย่างน้อยในตอนนี้หนทางข้างหน้าของ Bitcoin และสินทรัพย์คริปโตอื่นๆ ไม่ได้สวยงามอย่างที่วาดหวังไว้

 

สัญญาณของความอ่อนแอใน Stablecoins ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ปลอดภัยกว่า ทำให้นักลงทุนกลัวมากขึ้น โดย TerraUSD ซึ่งเป็นเหรียญ Stablecoin ที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก สูญเสียมูลค่าไปแล้วถึง 1 ใน 3 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

 

กระนั้นแม้ว่าราคาของ Bitcoin จะตกต่ำ แต่บรรดากองทุนและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin กลับก็มีกระแสเงินไหลเข้าถึง 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยรายงานของ Coinshares ระบุว่า เป็นเพราะบรรดานักลงทุนใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของราคา

 

เซบาสเตียน แกลี นักกลยุทธ์มหภาคอาวุโสของ Nordea Asset Management กล่าวว่า สภาพคล่องจำนวนมหาศาลที่หนุนให้คริปโตเหล่านี้มีมูลค่าสูงขึ้นกำลังจะหดหายไปในไม่ช้า ซึ่งน่าจะทำให้สินทรัพย์คริปโตที่มีความสัมพันธ์กับหุ้นเติบโตในตลาด จะตกอยู่ภายใต้ความกดดันของบรรดาธนาคารกลางที่หันมาใช้นโยบายการเงินแบบรัดกุม

 

อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของนักลงทุนอีกส่วนหนึ่งกลับมองว่า ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาแห่งโอกาสที่จะเข้าไปช้อนซื้อคริปโตอย่าง Bitcoin มาเก็บไว้ โดยอ้างอิงจากความเคลื่อนไหวที่คล้ายคลึงกันนี้ ซึ่งเกิดขึ้นในอดีตเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา

 

โดยย้อนไปในปี 2016-2019 ซึ่งป็นช่วงที่ Fed บังคับใช้นโยบายการเงินอย่างเข้มงวด ราคาของ Bitcoin ก็ไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ดีนัก และแทบจะไม่มีตัวตนในสายตาของนักลงทุนส่วนใหญ่ ก่อนที่จะพุ่งแรงทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลายระลอก

 

แม็ตต์ ดิบบ์ จาก Stack Funds ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคริปโตในสิงคโปร์ ตั้งข้อสังเกตว่า คริปโตจะเข้าสู่ช่วงจำศีลหรือช่วงที่ราคาลดลงอยู่ในระดับต่ำเป็นระยะเวลาประมาณ 3 ปี ก่อนที่ราคาจะขยับขึ้นแรงในช่วงปี 2020-2021

 

โดยดิบบ์กล่าวว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มูลค่าของ Bitcoin ร่วงลงจนแตะระดับดังกล่าว อีกทั้งสัดส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนในการลงทุนใน Bitcoin ขณะนี้ดีมากขึ้นกว่าปีก่อนหน้า ดังนั้นจึงเป็นจังหวะที่ค่อนข้างดีที่นักลงทุนจะซื้อเก็บไว้

 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งออกโรงเตือนว่า ด้วยภาพหลักที่ต่างออกไปจากอดีต โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น นักลงทุนจึงควรต้องทำการบ้าน ศึกษาทิศทางตลาดให้แน่ชัด ก่อนตัดสินใจลงมือเคลื่อนไหวใดๆ

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising