×

‘เบทาโกร’ ดีเดย์เข้าเทรดใน SET 2 พ.ย. นี้ ขึ้นแท่นรองแชมป์ระดมทุนสูงสุดปีนี้

05.10.2022
  • LOADING...

อนุวัฒน์ ร่วมสุข กรรมการผู้จัดการ ประธานสายวาณิชธนกิจและตลาดทุน บล.เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หุ้นของ บมจ.เบทาโกร หรือ BTG กำหนดวันเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันที่ 2 พศจิกายน 2565 ในฐานะเป็นหุ้นที่มีมูลค่าการระดมทุนสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปีนี้ และถือเป็นหุ้นในหมวดธุรกิจเกษตรและอาหารที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ

 

ภายหลังจากที่ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ 40 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันให้นักลงทุนทั่วไปสามารถจองซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 10-12 และ 17 ตุลาคม 2565 โดยมีมูลค่าการเสนอขายอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการระดมทุนที่มากที่สุดในตลาดหุ้นไทยปี 2565 และมีมาร์เก็ตแคป ณ ราคาเสนอขายที่ 8 หมื่นล้านบาท 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


ในการเสนอขายหุ้นสามัญของ BTG ในครั้งนี้มีจำนวนไม่เกิน 500.0 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ (รวมจำนวนหุ้นที่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินอาจใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากบริษัทฯ ในกรณีที่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 434.80 ล้านหุ้น หรือไม่เกิน 21.7% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดหลัง IPO บนสมมติฐานว่ามีการใช้สิทธิซื้อหุ้นส่วนเกินเต็มจำนวน 

 

นอกจากนี้อาจพิจารณาจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Over-allotment Option) จำนวนไม่เกิน 65,200,000 หุ้น หรือคิดเป็น 15.0% ของจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายตั้งต้น ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้ในการรักษาระดับราคาหุ้น (Stabilization) ในช่วง 30 วันแรกหลังจากที่หุ้น BTG เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อช่วยลดความผันผวนของราคาหุ้น และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน 

 

โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย รวมทั้งมีผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 6 ราย ประกอบด้วย 1. บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 2. บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) 3. บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด 4. บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด 5. บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ 6. บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด โดยบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินและดำเนินการรักษาเสถียรภาพของราคาหุ้น (Over-allotment and Stabilizing Agent)

 

ทั้งนี้ มีนักลงทุนสถาบันชั้นนำทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศเข้าลงนามในสัญญาลงทุนในหุ้น BTG เพื่อเป็น Cornerstone Investors ทั้งหมด 25 ราย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 7,286 ล้านบาท หรือคิดเป็น 77.1% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบันทั่วโลกในเบื้องต้น (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) 

 

การตกลงลงทุนก่อนของนักลงทุนประเภท Cornerstone Investors ดังกล่าว สะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของเบทาโกร ในฐานะบริษัทอาหารชั้นนำระดับสากลที่มีโมเดลธุรกิจที่แตกต่าง ผ่านกระบวนการดำเนินงานที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ และศักยภาพในการสร้างเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่า BTG จะเป็นหุ้นคุณภาพที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งอีกหนึ่งตัวสำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในตลาดทุนไทย

 

ยันผลประกอบการโตทัน P/E

จากกรณที่ตลาดมีความกังวลราคาเสนอขายที่ 40 บาทต่อหุ้น โดยมี P/E ที่ 20 เท่า ถือว่าอยู่ในระดับที่แพงเกินไปหรือไม่นั้น เวลาดูค่า P/E จะดูในอนาคตเสมอ เพราะเวลาลงทุนจะเป็นการลงทุนในอนาคต จะไม่ดูกำไรในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งกำไรในอนาคตจะเกิดขึ้นจากการประมาณการกำไรจากนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ซึ่งกำไรต่อหุ้นที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ปี 2566 ไว้ที่ 4.25-4.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งถ้านำตัวเลขดังกล่าวมาหารกับราคาหุ้นที่ 40 บาท จะเห็นได้ว่าจริงๆ แล้วค่า P/E นั้นต่ำกว่า 10 เท่า

 

ด้าน วสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ BTG เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อว่าความสามารถในการทำกำไรในช่วงครึ่งปีหลังจะไม่ต่างกับในช่วงครึ่งปีแรกที่มีกำไรสุทธิเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเป็นผลจากการที่บริษัทได้มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เช่น การขยายกำลังผลิต และการบริหารจัดการเรื่องต้นทุน รวมถึงเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์สินค้า

 

ขณะที่ ศิริวรรณ อินทรกำธรชัย ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มงานบริหารการเงิน BTG ระบุว่า แนวโน้มธุรกิจในงวดครึ่งปีหลังจะสามารถเติบโตได้ใกล้เคียงหรือจะเติบโตมากกว่าในงวดครึ่งปีแรกที่กำไรสุทธิเติบโตก้าวกระโดดกว่า 200% เนื่องจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจากการขยายกำลังการผลิต รวมถึงราคาขายที่ปรับเพิ่มขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบ อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความสามารถในการบริหารจัดการเรื่องต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างดี

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X