Berkshire Hathaway บริษัทโฮลดิ้งข้ามชาติสัญชาติอเมริกันของมหาเศรษฐีเจ้าพ่อนักลงทุนอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ รายงานกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 2 ที่ 9.28 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3.3 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ดี บริษัทได้รายงานการขาดทุนมูลค่า 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์จากการลงทุนในช่วงไตรมาสดังกล่าวเช่นกัน โดยบริษัทได้ออกแถลงการณ์ ขอให้นักลงทุนไม่ให้ความสำคัญกับความผันผวนรายไตรมาสในการลงทุนในหุ้นของบริษัทเช่นเคย
“จำนวนกำไรขาดทุนจากการลงทุนในไตรมาสใดก็ตามมักจะไม่มีความหมาย และตัวเลขกำไรสุทธิต่อหุ้นก็อาจทำให้นักลงทุนที่มีความรู้เกี่ยวกับกฎบัญชีเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยเข้าใจผิดได้” Berkshire กล่าวในแถลงการณ์
บทความที่เกี่ยวข้อง
- อย่าสับสนระหว่าง การพนัน กับ การลงทุน มองวิธีการลงทุนแบบ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ในช่วงสภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ
- หุ้น BYD ทรุดหนักสุดรอบเกือบ 2 ปี นักลงทุนกังวล ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ เทขาย
- วอร์เรน บัฟเฟตต์ ทุ่มอีก 9.9 ล้านดอลลาร์ ซื้อหุ้นน้ำมันเพิ่มเป็น 17.4% ด้าน J.P. Morgan คาดกรณีเลวร้ายสุด ราคาน้ำมันจะพุ่งไปถึง 380 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดหุ้นในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาได้เข้าสู่ภาวะขาลง หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ค่อนข้างรุนแรงเพื่อดูแลเงินเฟ้อ จนก่อให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยตามมา ทำให้ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลงกว่า 16% จากไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่หุ้น Class A ของ Berkshire ร่วงลงกว่า 22%
Berkshire เปิดเผยว่า บริษัทได้ใช้เงินราว 1 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 เพื่อซื้อหุ้นที่เคยขายออกไปกลับคืนมา ทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทใช้เงินซื้อคืนหุ้นรวมกันไปแล้ว 4.2 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Berkshire มีเงินสดอยู่ในมือมากถึง 1.05 แสนล้านดอลลาร์
อ้างอิง: