TASTE: Benjamin and Friends ร้านอาหารทะเลแบบฟาสต์ฟู้ด สั่งปุ๊บได้กินปั๊บ

Benjamin and Friends เป็นร้านอาหารทะเลแบบฟาสต์ฟู้ดเปิดใหม่ริมถนนพระราม 4 ใกล้กับโครงการ Block 28 สามย่าน ตัวร้านเป็นสีแดงและน้ำเงินสดใส มีคนรุมล้อมอยู่ตลอดเวลา ทำให้มองเห็นได้ไม่ยากจากริมถนน

ร้านอาหารทะเลแบบฟาสต์ฟู้ดเป็นอย่างไร ทางร้านบอกว่าร้านนี้เกิดขึ้นจากไอเดียที่อยากยกระดับปลาหมึกย่าง เพราะปลาหมึกย่างเป็นอาหารที่ราคาแพง แต่ไม่มีใครหยิบมาทำเป็นแบรนด์เลย Benjamin and Friends จึงตั้งใจที่จะเป็นแบรนด์ปลาหมึกย่างที่ครองใจคนรักอาหารทะเล

บรรยากาศร้าน

จากที่ตั้งร้านที่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสามย่าน ภายในร้านจึงตกแต่งด้วยธีมรถไฟใต้ดินเหมือนกัน แต่เพิ่มความสนุกขึ้นเล็กน้อยด้วยการใช้เอเลเมนต์สของรถไฟฟ้าใต้ดินที่อังกฤษ ทั้งหน้าต่าง ป้ายบอกทาง ป้ายร้าน และการเลือกใช้สี ทางร้านบอกกับเราว่า ถ้ามีสาขาใหม่ ก็จะตกแต่งให้แตกต่างกันไปอีก ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่จะเดินทางไป ถ้าอยู่ริมทะเล อาจจะเป็นชายหาดก็ได้

ความน่ารักของร้านคือมีคาแรกเตอร์ของ เบนจามิน เจ้าปลาหมึกใส่หมวกสีแดง และเพื่อนๆ ที่เป็นทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา เพื่อที่จะต่อยอดเป็นของสะสมน่ารักๆ สไตล์ร้านฟาสต์ฟู้ด เพิ่มความสนุกให้กับร้าน

เบนจามิน ออน เดอะร็อก (120 บาท) และ วาฟเฟิล ฟรายส์ (65 บาท)

เบนจามิน ออน เดอะร็อก (120 บาท)

เริ่มที่ของกินเล่นเบาๆ ขึ้นชื่อว่าร้านฟาสต์ฟู้ดก็ต้องมีของทอด เมนูแนะนำของทางร้านเลยเป็น เบนจามิน ออน เดอะร็อก (120 บาท) ปลาหมึกชุบแป้งทอด ที่สามารถโรยผงได้ตามใจชอบ ทางร้านมีทั้งผงชีส ผงปาปริก้า และผงหม่าล่า หรือถ้าใครชอบน้ำจิ้มซีฟู้ดก็กินตามที่ชอบได้ไม่ว่ากัน กินคู่กับ วาฟเฟิล ฟรายส์ (65 บาท) มันฝรั่งทอดรูปวาฟเฟิลเคี้ยวเพลิน จะโรยผงเพิ่มหรือลองจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดแบบปลาหมึกทอดก็เข้ากันได้ดี

เบนจามิน บ็อกซ์เซ็ต (225-295 บาท), ไข่ปลาหมึก (ไม้ละ 80 บาท) และ หนวดปลาหมึก (ไม้ละ 50 บาท)

ปลาหมึกย่าง เป็นเมนูที่ทางร้านอยากให้ทุกคนที่มาเยือนได้ลอง เพราะทางร้านคัดปลาหมึกสด เนื้อดี หนานุ่ม ไม่ได้ผ่านการหมักอย่างหนักหน่วง ทำให้ได้รสชาติเค็มโดยธรรมชาติอย่างแท้จริง บวกกับน้ำจิ้มที่รสชาติไม่จัดจ้านมาก ไม่กลบรสชาติของปลาหมึกจนเกินไป

มาทั้งทีต้องลองสั่ง เบนจามิน บ็อกซ์เซ็ต (225-295 บาท) ปลาหมึกย่างจัดชุดมาพร้อมกับโค้กบ๊วย เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของร้านที่เป็นโค้กซ่าสดชื่น ผสานรสชาติหวานเปรี้ยวและกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของบ๊วย ในส่วนของปลาหมึกสามารถเลือกได้ทั้งหมด 3 ไซส์ ตั้งแต่ M ไปจนถึง XL เสิร์ฟมาในกล่องสุดน่ารักที่ซื้อไปเป็นของฝากก็ยังได้ ส่วนใครที่ชอบไข่ปลาหมึกหรือหนวดปลาหมึกก็สามารถสั่งเพิ่มเติมได้เช่นกัน ไข่ปลาหมึก (ไม้ละ 80 บาท) และ หนวดปลาหมึก (ไม้ละ 50 บาท)

สปาเก็ตตีแซลมอนซอสพริกขี้หนูสด (150 บาท)

มาม่าหม้อไฟ (150 บาท)

นอกจากเมนูปลาหมึกย่าง ทางร้านก็มีเมนูอาหารอีกมากมาย ถ้าเข้าร้านมาในตอนเที่ยงจะต้องเห็นทุกโต๊ะสั่งมาแบ่งกันกิน ทั้ง สปาเก็ตตีแซลมอนซอสพริกขี้หนูสด (150 บาท) สปาเก็ตตีเส้นดำในครีมซอส แต่เพิ่มความจัดจ้านตัดเลี่ยนด้วยพริกขี้หนูสด เสิร์ฟพร้อมแซลมอนชิ้นใหญ่ 3 ชิ้น หรืออยากจัดเต็มกว่านี้ก็ต้อง มาม่าหม้อไฟ (150 บาท) บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเสิร์ฟในหม้อไฟที่เต็มไปด้วยเครื่องทะเล ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปลาหมึก และหมูเด้ง อัดแน่นอยู่ในหม้อที่เดือดตลอดเวลา เมนูนี้สั่งมาแบ่งกันกินได้ 2 คนสบายๆ

Coconut Milk Soft Serve (65 บาท)

การปิดท้ายฟาสต์ฟู้ดที่ดีที่สุดนั้นจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากไอศกรีม ทางร้านก็ปิดท้ายมื้อให้ด้วยของหวานที่ไม่เหมือนใครอย่าง Coconut Milk Soft Serve (65 บาท) ไอศกรีมกะทิที่เสิร์ฟในรูปแบบซอฟต์เสิร์ฟเนื้อนุ่มเนียน ชวนให้นึกถึงวันเวลาที่ยืนกินปลาหมึกย่างริมทางเสร็จแล้วกินไอศกรีมกะทิต่อ