InnovestX Research เผยประเด็นสำคัญของการประชุมนักวิเคราะห์ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ครั้งนี้เป็นการอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ผู้บริหารเชื่อว่า รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกจะเปิดให้บริการได้ภายใน 3.5 ปี หรือปี 2571 หลังจากบริษัทได้รับหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (Notice to Proceed: NTP) ซึ่งคาดว่าจะได้รับในเร็วๆ นี้ ในส่วนของสายสีส้มตลอดสายนั้น คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายใน 6 ปีหลังจากได้รับ NTP หรือเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในต้นปี 2573
โครงสร้างค่าโดยสารในช่วง 10 ปีแรกจะอยู่ที่ 17-44 บาทต่อเที่ยว โดยในกรณีที่รัฐบาลจะดำเนินนโยบาย 20 บาทตลอดสาย จะชดเชยส่วนต่างให้กับ BEM จำนวนผู้โดยสารสายสีส้มในช่วงเปิดให้บริการฝั่งตะวันออกคาดว่าจะอยู่ที่ 1.2 แสนเที่ยวต่อวัน และจะเพิ่มสู่ระดับ 3 แสนเที่ยวต่อวันได้ภายในปี 2573 หลังจากที่บริษัทเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ
สำหรับจุดคุ้มทุนของสายสีส้มที่ระดับ กำไรสุทธิคาดว่าจะอยู่ที่ 4-5 แสนเที่ยวต่อวัน และผู้บริหารคาด IRR ของโครงการนี้อยู่ที่ 9% ซึ่งใกล้เคียงกับสมมติฐานของ InnovestX Research บริษัทยังคงยืนยันว่าจะไม่มีการเพิ่มทุน และจะยังสามารถจ่ายปันผลในรูปแบบของเงินสดได้ ถึงแม้ว่าจะมีโครงการที่ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 (Double Deck) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการ InnovestX Research ประเมินกำไรสุทธิ 2Q67 ได้ที่ 985 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.3%QoQ โดยได้แรงหนุนจากรายได้เงินปันผลจาก TTW และ CKP และเพิ่มขึ้น 9.4%YoY โดยได้แรงหนุนจากจำนวนผู้โดยสาร MRT (สายสีน้ำเงิน) ที่เพิ่มขึ้น รายได้จากธุรกิจทางด่วน (53% ของรายได้รวม) น่าจะอยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท ลดลง 9.1%QoQ (ปัจจัยฤดูกาล) และ 1.9%YoY (การปิดทางด่วนบางส่วน) รายได้จาก MRT (40% ของรายได้รวม) น่าจะอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท ลดลง 5.2%QoQ จากปัจจัยฤดูกาล แต่เพิ่มขึ้น 6.7%YoY จากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น เมื่ออิงกับตัวเลขกำไร 2Q67 ที่ประเมินได้ กำไรสุทธิ 1H67 จะคิดเป็น 46% ของประมาณการกำไรเต็มปี และเชื่อว่ากำไรจะยังคงเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ในปี 2567 BEM จะประกาศผลประกอบการวันที่ 13 สิงหาคม 2567
อัปเดตปริมาณจราจรในช่วง 6M67 ในเดือนมิถุนายน BEM รายงานปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนเฉลี่ย 1.1 ล้านเที่ยวต่อวัน เพิ่มขึ้น 1%MoM แต่ลดลง 0.3%YoY จากการปิดทางด่วนช่วงดาวคะนอง-สุขสวัสดิ์บางส่วนตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม โดยรวมแล้ว ปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนเฉลี่ยในช่วง 6M67 อยู่ที่ 1.1 ล้านเที่ยวต่อวัน ลดลง 0.2%YoY เทียบกับประมาณการที่คาดว่าจะไม่เติบโตในปี 2567 ซึ่งเชื่อว่ายังคงเป็นไปตามเป้า
สำหรับ MRT (สายสีน้ำเงิน) จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยในเดือนมิถุนายนอยู่ที่ 411,900 เที่ยวต่อวัน เพิ่มขึ้น 6.3%MoM (โรงเรียนเปิดเรียนเต็มรูปแบบ) และ 8.1%YoY จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยในช่วง 6M67 อยู่ที่ 412,000 เที่ยวต่อวัน เพิ่มขึ้น 12.4%YoY เทียบกับประมาณการปี 2567 ที่ 15%
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น BEM ไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ระดับ 7.80 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 1.15% สู่ระดับ 1,301.54 จุด
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ:
InnovestX Research ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อ BEM เนื่องจากมูลค่าโดยรวมของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มสอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ และยังเล็งเห็น Upside เพิ่มเติมจากโครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ซึ่งยังไม่ได้นำมารวมไว้ในประมาณการ
โดยคงคำแนะนำ Outperform สำหรับ BEM โดยให้ราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี SOTP ที่ 10.5 บาทต่อหุ้น (8.2 บาทต่อหุ้น สำหรับธุรกิจหลัก, 1.5 บาทต่อหุ้น สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และ 0.8 บาทต่อหุ้น สำหรับเงินลงทุนใน TTW และ CKP)
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ ปริมาณรถใช้ทางด่วนที่ฟื้นตัวช้าจะสร้าง Downside Risk ต่อประมาณการ ความเสี่ยง ESG ที่สำคัญสำหรับ BEM คือ ความปลอดภัยในการเดินทาง ความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยอาจจะส่งผลกระทบทำให้จำนวนผู้ใช้ทางด่วนและผู้โดยสาร MRT ปรับตัวลดลง และสร้าง Downside ต่อประมาณการกำไร
