×

BECKHAM เทพนิยายของชายผู้กลายเป็นซูเปอร์สตาร์และมิตรภาพในวงการฟุตบอล

11.10.2023
  • LOADING...
BECKHAM

ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ติดตามวงการฟุตบอลหรือไม่ ชื่อของ เดวิด เบ็คแฮม ก็ต้องเป็นหนึ่งในชื่อที่เคยลอยผ่านหูสักครั้ง ไม่จากทางประกาศของโทรทัศน์ ก็มาจากผู้คนรอบข้างที่พูดถึงความหล่อระดับลูกรักพระเจ้า ที่มาพร้อมฝีไม้ลายมือในการเล่นฟุตบอลของเขา จนมีคนเปรียบเปรยอย่างขบขันว่า ความโด่งดังของเบ็คแฮมเทียบเท่าหรืออาจจะมากกว่า The Beatles เสียด้วยซ้ำในบางมุม เพราะขณะที่วงดนตรีระดับตำนานไม่สามารถทำให้ผู้คนที่คลั่งไคล้พวกเขาตัดผมตามตัวเองได้ แต่เบ็คแฮมคือคนที่ทำให้สิ่งนั้นเป็นจริงได้

 

BECKHAM คือสารคดี 4 ตอนที่จะพาไปสำรวจเส้นทางชีวิตของชายที่กลายเป็นไอคอนิกของวงการลูกหนัง อย่างเช่น เดวิด เบ็คแฮม ตั้งแต่ช่วงวัยเด็กที่หลงใหลในการเล่นฟุตบอล, การได้มาเล่นกับสโมรสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เป็นเหมือนบ้านหลังสำคัญ, การได้พบกับ วิกตอเรีย หญิงสาวที่จะกลายเป็นภรรยาในอนาคต, ความเกลียดชังของผู้คน, ชีวิตอันยากลำบากในฐานะซูเปอร์สตาร์, การจากลากับสโมสรที่ตัวเองอยู่มาครึ่งค่อนชีวิต เพื่อเริ่มต้นใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า ไปจนถึงช่วงแขวนสตั๊ดและหันมาบริหารสโมสร

 

BECKHAM

 

ในความเป็นจริง การกลับมามองเส้นทางอาชีพของเบ็คแฮมถือเป็นสิ่งที่มีความน่าสนใจอยู่แล้วด้วยตัวของมันเอง แต่สิ่งที่ทำให้การสำรวจนี้เป็นมากกว่าเรื่องราวทั่วไปคือ การที่ผู้กำกับอย่าง ฟิเชอร์ สตีเวนส์ ได้นำบุคคลอันเป็นตำนานของวงการฟุตบอลมาอยู่ในภาพยนตร์ของเขาได้มากมายชนิดที่ว่า หลายคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีเมื่อพวกเขาปรากฏตัวออกมาเล่าประสบการณ์ของตัวเองที่มีต่อเบ็คแฮม ผู้ซึ่งเป็นทั้งนักฟุตบอล เพื่อนร่วมทีม และคนธรรมดา ในมุมมองของพวกเขา

 

การเอานักฟุตบอล โค้ช กุนซือ หรือผู้บริหารเหล่านี้ กลับมาอีกครั้ง ไม่ได้มีหน้าที่แค่พรรณนาถึงอดีตเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการบันทึกปัจจุบันของพวกเขาด้วย และเมื่อภาพยนตร์ฉายให้เห็นถึงช่วงเวลาที่เคยใช้ร่วมกับเบ็คแฮม มันก็เป็นเหมือนการพาคนดูย้อนกลับไปทบทวนความทรงจำในวันนั้นด้วยท่าทีที่สนุกและโลดโผน จนต้องปรบมือให้กับคนทำดังๆ ว่า พวกเขาสามารถดึงคนดูที่ไม่ได้ติดตามวงการฟุตบอลได้อย่างอยู่หมัด ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนที่ติดตามวงการฟุตบอลตื่นตาร้องว้าวทุกครั้งเมื่อเห็นช่วงเวลาต่างๆ ไหลกลับมาในชีวิตอีกครั้ง

 

BECKHAM

 

มีช่วงหนึ่งที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เดินเข้ามายังห้องถ่ายทำด้วยสีหน้าที่สนุกสนาน มันเป็นอีกด้านที่แฟนบอลไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก พร้อมกับเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเบ็คแฮม ตั้งแต่ความใกล้ชิดกันในช่วงแรกๆ ไปจนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจริงเมื่อเขาเตะรองเท้าสตั๊ดเข้าที่หน้าผาก จนกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เบ็คแฮมตัดสินใจออกจากสโมสรในที่สุด 

 

แต่ภาพยนตร์ก็ตัดกลับมาเพื่อเล่าว่า เบ็คแฮมไม่เคยโกรธเฟอร์กูสันเลย เพราะเขาเปรียบเสมือนพ่ออีกคนหนึ่ง และตอนนี้ก็ยังนึกเสียใจอยู่ทุกครั้งที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาต้องพังทลายลง ซึ่งมันน่าทึ่งมากเมื่อถูกเล่าออกมาอีกครั้งในวันเวลาที่เปลี่ยนไป การเติบโตของเบ็คแฮมทำให้เขาเข้าใจว่า การไม่ได้พูดคุยกันตรงๆ กับเฟอร์กูสันในวันนั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกแล้ว และ ‘ไม่เคยมีใครรู้เรื่องจริงๆ ในใจของเขา’ 

 

BECKHAM

 

นอกจาก เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งของสารคดีคือ การได้เห็นสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัวมานำเสนอเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของเบ็คแฮม ที่ทำให้เราเห็นถึงเรื่องราวระหว่างทางของชายคนนี้มากขึ้น ตั้งแต่ เท็ด พ่อผู้เข้มงวดอย่างสม่ำเสมอในเรื่องฟุตบอล ไปจนถึง แซนดรา แม่ของเขาที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟหลังจากที่รู้ว่า เกลนน์ ฮอดเดิล ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษในขณะนั้น ตั้งคำถามถึงความเป็นมืออาชีพของลูกชายเธอ และทิ้งเขาไว้บนม้านั่งสำรอง หรือจะเป็นวิกตอเรีย ภรรยาสาวที่มักจะปวดหัวกับการย้ายที่อยู่ไปมาของสามี แต่ก็เข้าใจว่านั่นคือสิ่งที่เขารัก และเธอพร้อมที่จะยอมรับ แม้ในใจจะมีความขุ่นเคืองอยู่บ้างก็ตาม 

 

ทั้งหมดนี้ล้วนทำให้เห็นว่า รอบตัวของเบ็คแฮมนั้นมีคนที่รักเขามากแค่ไหน และการได้พบกับวิกตอเรียก็เป็นเหมือนจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่เติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปของเขา เพราะบ่อยครั้งทั้งคู่มักมีความเห็นที่สวนทางกันอย่างชัดเจน เช่น การมาค้าแข้งที่สเปน เบ็คแฮมนั้นมีความสุข แต่วิกตอเรียมีความทุกข์ หรือการย้ายมาอยู่ที่อเมริกา วิกตอเรียมีความสุข แต่เบ็คแฮมกลับมีความทุกข์ ซึ่งความน่าฉงนก็อยู่ตรงที่ความไม่ลงรอยนี้เองกลับกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ลงตัวของสองสามีภรรยาคู่นี้

 

BECKHAM

ภาพ: Mark Leech / Offside / Getty Image

 

กระทั่งสารคดีขยับมาเล่าถึงเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของ เดวิด เบ็คแฮม อย่างการโดนใบแดงอันฉาวโฉ่เมื่อปี 1998 ในเกมที่พบกับอาร์เจนตินา จนทำให้อังกฤษตกรอบฟุตบอลโลก และนำไปสู่การมุ่งเป้าเกลียดชังเป็นเวลาหลายเดือน ราวกับต้องการจะหาแกะมาบูชายัญให้กับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ และแน่นอนว่าแกะที่ว่าก็คือตัวของเบ็คแฮมเอง เพราะหลังจากกลับมาถึงอังกฤษ ชีวิตทั้งในและนอกสนามของเขาเต็มไปด้วยคำก่นด่ามากมาย 

 

เบ็คแฮมเปิดใจยอมรับอย่างเต็มอกว่า นั่นเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตของเขา พอๆ กับตอนที่เดินออกมาจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่สิ่งที่สารคดีทำให้เห็นคือ การที่ชายคนนี้ไม่รู้จักยอมแพ้ และเขาพร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองเพื่อให้แฟนบอลกลับมายอมรับ ซึ่งมันเป็นแบบนั้นทุกครั้งเวลาที่เขาเจอกับคำครหา 

 

และนั่นคงเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนหลงรักชายคนนี้ ไม่ใช่แค่ในความหล่อหรือฝีไม้ลายมือที่หาตัวจับได้ยากเท่านั้น แต่คือการที่เขามีความพยายามที่จะพิสูจน์ตัวเองอยู่เสมอ ซึ่งคนที่น่าจะสรุปความโด่งดังของ เดวิด เบ็คแฮม ได้ชัดเจนที่สุดก็คือ ปีเตอร์ ฮุก ที่เดินเข้ามาบอกว่า ในที่สุดนักฟุตบอลก็เข้ามาแทนที่นักดนตรีในฐานะ ‘ร็อกสตาร์’  

 

BECKHAM

 

ถึงกระนั้น ด้วยความที่เป็นสารคดีที่นำเสนอแต่ด้านดีของ เดวิด เบ็คแฮม ประเด็นหนึ่งที่สำคัญและดูเหมือนจะถูกตัดออกไปจนเบาบางคือ กรณีของ รีเบคกา ลูส ที่เขาเคยเข้าไปพัวพันจนกลายเป็นข่าวฉาวว่ามีการคบชู้เกิดขึ้น แม้จะมีช่วงหนึ่งที่สารคดีเอ่ยถึงความสัมพันธ์ของสองคนนี้ แต่ก็น่าเสียดายที่สารคดีไม่ได้ให้พื้นที่กับรายละเอียดตรงจุดนี้สักเท่าไร ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเรื่องภาพลักษณ์ที่ดีของเบ็คแฮมด้วย

 

อย่างไรก็ตาม หากจะบอกว่าทั้งหมดทั้งมวลเป็นเส้นทางชีวิตของเขาก็คงไม่ผิดเสียทีเดียว แต่ส่วนที่น่าพูดถึงจริงๆ คือการที่มันพาไปสำรวจช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ที่สุดช่วงหนึ่งของวงการฟุตบอล ซึ่งหลายคนที่ติดตามทีมที่ตัวเองรักก็น่าจะเริ่มจากช่วงเวลานี้เช่นเดียวกัน 

 

เพราะฉะนั้นการได้เห็นการแข่งขันที่น่าจดจำและผู้เล่นที่โรยรากลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้งในสนาม ก็เป็นเรื่องที่ยากจะปฏิเสธได้ว่า วงการฟุตบอลในตอนนั้นช่างเต็มไปด้วยมนตร์เสน่ห์มากมาย ที่จนถึงทุกวันนี้ก็น่าจะกลายเป็นความทรงจำดีๆ ของใครหลายคน ไม่ต่างอะไรกับ เดวิด เบ็คแฮม ผู้เป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์นั้น

 

สามารถรับชมสารคดี BECKHAM ได้แล้ววันนี้ทาง Netflix

 

รับชมตัวอย่าง BECKHAM ได้ที่: 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising