×

พูดคุยกับ Timothée Chalamet และ Steve Carell ในหนังพ่อลูกสุดดราม่า Beautiful Boy

15.01.2019
  • LOADING...

Beautiful Boy คือภาพยนตร์ที่หลายคนกำลังรอคอย เพราะ ทิโมธี ชาลาเมต์ นักแสดงหนุ่มสุดฮอตจาก Call Me By Your Name จะรับบทดราม่าเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและลูกชายที่ติดยา คู่กับ สตีฟ คาเรลล์ นักแสดงรุ่นเก๋าตลอดกาลที่ได้เข้าชิงออสการ์เมื่อปี 2015 จาก Foxcatcher ล่าสุดตัวภาพยนตร์ได้พิสูจน์คุณภาพด้วยการเข้าชิงรางวัลจากเวที Golden Globe และชนะเวทีอย่าง Founder’s Award, Spotlight Award และอีกมากมาย ซึ่งทิโมธีและสตีฟได้ให้สัมภาษณ์ อีกทั้งยังเล่าถึงการทำงานด้วยความสัมพันธ์พ่อลูกในภาพยนตร์ Beautiful Boy ไว้อย่างน่าสนใจจน THE STANDARD POP อยากจะชวนให้แฟนหนังได้ทำความรู้จักภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ดียิ่งขึ้น  

 

 

“ผมไม่เคยรู้เรื่องราวของทั้งสองเลยครับ จนกระทั่งทางเอเจนต์ส่งบทหนังมาให้ผมอ่าน หลังจากที่ผมได้อ่านบท ผมก็ไปหาหนังสือมาอ่านและทำการศึกษาเรื่องราวของพวกเขาทันที และมันก็ทำให้ผมตอบตกลงรับงานชิ้นนี้ครับ”

 

สตีฟ คาเรลล์ พูดถึงหนังสือบันทึกความทรงจำชื่อดัง Beautiful Boy: A Father’s Journey Through His Son’s Addiction ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2008 โดย เดวิด เชฟฟ์ และอีกเล่มซึ่งเขียนโดยลูกชายของเขาคือ นิค เชฟฟ์ หนังสือเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งสร้างทั้งแรงบันดาลใจและนำเสนอความโศกเศร้าของครอบครัวที่ต้องรับมือกับลูกชายที่ติดยาหลายปี ก่อนจะถูกดัดแปลงมาเป็นภาพยนตร์ Beautiful Boy

 

ด้านทิโมธีที่เข้ามารับบท นิค ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมรู้จักพวกเขาผ่านหนังสือครับ มันเป็นช่วงเมื่อประมาณ 8 หรือ 9 ปีที่แล้ว หนังสือเล่มนั้นเป็นหนังสือที่มีลายขวาง แถบหนาสีแดง และมีรูปหน้าของนิคที่ถูกเบลออยู่บนหน้าปก ผมจำได้ว่าผมเห็นมันที่ร้านหนังสือในเมืองนิวยอร์ก รู้สึกว่าจะเป็นร้าน The Source ล่ะมั้งครับ ผมรู้สึกว่าสตีฟกับผมต่างรู้สึกไปในทางเดียวกัน เมื่อผมอ่านหนังสือจบ ผมก็รู้สึกว่าเราควรเผยแพร่เรื่องพวกนี้ให้ผู้คนรู้อย่างรวดเร็วที่สุด และอีกอย่างผมก็อยากจะทำงานร่วมกับสตีฟมาก หนังที่เราเล่นนั้นมันช่างสุดยอดจริงๆ ในมุมมองของนักแสดง ผมรู้สึกว่าโอกาสแบบนี้หาได้ยากครับ”

 

 

ทั้งสตีฟที่ไม่เคยอ่านหนังสือมาก่อน และทิโมธีเองก็ต้องทำการบ้านก่อนเริ่มถ่ายทำ ขั้นตอนนี้รวมถึงการนัดพบกับครอบครัวเชฟฟ์ด้วยหรือเปล่า

สตีฟ: แน่นอนครับ โดยเฉพาะเดวิด เขาเป็นเหมือนกับคนที่ผมเคยจินตนาการเอาไว้หลังจากที่ผมอ่านหนังสือของเขาจบเลย เขาเป็นคนอ่อนโยน โอบอ้อมอารี ฉลาด และมีใจที่เข้มแข็ง แต่เหนือสิ่งอื่นใด เขาเป็นคนที่กล้าแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวของเขาและยอมให้นำมันมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ซึ่งผมเห็นว่ามันเป็นการกระทำที่กล้าหาญมาก เพราะเราเป็นแค่คนแปลกหน้าสำหรับพวกเขา แต่พวกเขากลับให้คนแปลกหน้าเหล่านี้เผยแพร่และตีความสิ่งที่พวกเขาเคยเผชิญ

 

ทิโมธี: ในแง่ของการทำการบ้านนั้น ผมได้พยายามทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการของผู้ติดยาครับ ซึ่งเดี๋ยวนี้เราสามารถหาอ้างอิงได้ง่ายๆ ผ่านทางสื่อบนโลกออนไลน์ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผมอยากจะรู้ว่าผมจะรู้สึกอย่างไรถ้าการเข้ารับการบำบัดนั้นหมายถึงการถูกตัดขาดจากครอบครัวของคุณ ชีวิตของคุณ และคนที่คุณรัก ในขณะที่คุณพยายามเผชิญหน้ากับสถานการณ์ในช่วงที่คุณยังคงเป็นเด็กอยู่

 

เดวิดและนิคตัวจริงเขามีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง หลังจากที่ได้ดูเรื่องราวของตัวเองบนจอภาพยนตร์

ทิโมธี: ปฏิกิริยาของพวกเขาเป็นภาพที่ทำให้พวกเราประทับใจมากครับ ผมไม่คิดว่าผมจะได้มีส่วนร่วมในการสร้างบรรยากาศเช่นนั้น ผมมีความเห็นว่าหนังสือและภาพยนตร์มีองค์ประกอบของความเป็นมนุษย์อยู่เต็มไปหมด มันไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ขับเคลื่อนด้วยซีจี มันเป็นการบอกเล่าประสบการณ์จริงๆ ของมนุษย์ และที่สำคัญที่สุด มันคือประสบการณ์ที่ผู้คนหลายล้านคนบนโลกใบนี้กำลังเผชิญหน้ากับมันอยู่ ดังนั้นผมจึงไม่แปลกใจเลยครับที่ได้เห็นทั้งเดวิดและนิคถึงกับหลั่งน้ำตาเมื่อพวกเขาได้รับชมภาพยนตร์ที่พวกเราสร้าง

 

สตีฟ: ผมนึกไม่ออกจริงๆ ว่าผมจะรู้สึกอย่างไรหากมีคนนำเอาเรื่องของตัวเองไปสร้างเป็นภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกแบบนี้ พวกเขาแสดงให้เราเห็นถึงความกล้าหาญและความพยายามในการช่วยเหลือผู้อื่นครับ

 

 

ในฐานะที่คุณ (สตีฟ) เป็นพ่อลูกสอง คุณมีวิธีการเตรียมตัวอย่างไรในการรับมือกับอารมณ์ความรู้สึกของบท ความรู้สึกที่ว่าภัยจากยาเสพติดนั้นสามารถเข้าถึงได้ทุกครอบครัว

สตีฟ: ผมบอกได้เลยว่านั่นเป็นสถานการณ์ที่น่ากลัวที่สุดในฐานะของคนเป็นพ่อครับ และการเตรียมตัวรับมือกับมันก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมันเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองอย่างพวกเราต้องเตรียมพร้อมรับมือตลอดเวลาอยู่แล้ว ทันทีที่คุณมีลูกเป็นของตัวเอง คุณก็จะเริ่มห่วง เริ่มกังวลเรื่องต่างๆ สิ่งเดียวที่คุณอยากจะทำในชีวิตก็คือการปกป้องลูกของคุณให้พ้นจากอันตราย การที่ผมได้พบกับเดวิด ทำให้ผมได้รับรู้ว่าเขาเป็นสุดยอดคุณพ่อที่ทั้งดูแลและเอาใจใส่ลูกของเขาอย่างสุดความสามารถเลยครับ

 

 

ทางด้านทิโมธีก็เช่นกัน ตัวละครที่คุณเล่นนั้นดูสมจริงจนน่ากลัวเลยทีเดียว มันเหมือนกับว่าคุณได้กลายเป็นตัวละครตัวนั้นไปแล้ว ในยุคสมัยนี้ผู้คนมักจะไม่เอ่ยถึงอุปสรรคที่เกิดขึ้นกับผู้คนที่ต้องการเลิกยา แต่หนังของคุณได้เล่ารายละเอียดในส่วนนี้อย่างชัดเจน

ทิโมธี: นี่คือภาพยนตร์เกี่ยวกับการใช้ยาเสพติด การเลิกใช้มัน และเรื่องราวของครอบครัวครับ ยาไอซ์นั้นอาจเปรียบเทียบได้กับยาเสพติดที่ร้ายแรงอย่างเฮโรอีน มันไม่เลือกเป้าหมาย มันจะเข้าไปทำลายทุกอย่างของคุณ มันเป็นอันตราย มันเป็นสิ่งที่ไม่มีข้อดี และการเลิกใช้มันก็ต้องอาศัยพลังใจเป็นอย่างมาก เมื่อคุณนำองค์ประกอบของวัยรุ่น วัยที่มนุษย์เรายังไม่เป็นผู้ใหญ่ ความยากนั้นก็ยิ่งมีมากขึ้นไปอีกครับ

 

 

นอกจากสองนักแสดงนำแล้ว Beautiful Boy ยังได้นักแสดงอย่าง เมารา เทียร์นีย์ (ER), เอมี ไรอัน (Gone Baby Gone, Birdman) และทิโมธี ฮัตตัน (Ordinary People) มาร่วมแสดง โดยมี ลุค เดวีส์ จากภาพยนตร์ Lion มาร่วมเขียนบทคู่กับ เฟลิกซ์ ฟาน โกรนิงเกน ที่รับหน้าที่ทั้งเขียนบทและกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย

 

ชมตัวอย่างภาพยนตร์ก่อนเข้าฉายจริง 16 มกราคมนี้

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising