×

กทม. เตือน โควิด-ไข้หวัดใหญ่ติดเชื้อพุ่งสูง ช่วงเดือน มิ.ย.-ส.ค. แนะกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนป้องกัน

โดย THE STANDARD TEAM
12.06.2024
  • LOADING...

วานนี้ (11 มิถุนายน) รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 3/2567 ณ ห้องนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า และผ่านระบบออนไลน์ 

 

ทั้งนี้ ในที่ประชุม สำนักอนามัยรายงานสถานการณ์โรคติดต่อที่สำคัญ เช่น โควิด โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้เลือดออก และโรคติดเชื้อฝีดาษลิง โดยสถานการณ์โควิดในกรุงเทพมหานครมีลักษณะติดเชื้อตามฤดูกาล (Seasonality) ซึ่งคาดว่าจำนวนการป่วยรายสัปดาห์จะยังเพิ่มขึ้น และน่าจะสูงสุดในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม เป็นสายพันธุ์ JN.1 

 

ปัจจุบันอัตราป่วยตายร้อยละ 0.02 ซึ่งดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงสายพันธุ์เดลตา (CFR ร้อยละ 2.16 ณ มิถุนายน 2564) บ่งชี้ว่าความรุนแรงของโรคลดลง เนื่องจากมีภูมิคุ้มกันในระดับประชากร ร่วมกับสายพันธุ์ไม่รุนแรง ในส่วนภาพรวมภาระโรคยังไม่ก่อให้เกิดปัญหาเชิงระบบการดูแลรักษาพยาบาล โรงพยาบาลยังมีศักยภาพสูงในการดูแลผู้ป่วย อัตราป่วยตายในกลุ่มผู้ป่วยในลดลงมากเมื่อเทียบกับปี 2566

 

ทั้งนี้ สำนักอนามัยขอเน้นย้ำให้ประชาชนดูแลสุขอนามัย สวมหน้ากากอนามัย พบแพทย์หากมีอาการรุนแรง และหลีกเลี่ยงการนำเชื้อไปสู่กลุ่มเปราะบาง

 

ส่วนสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ กรุงเทพมหานคร ปี 2567 มีผู้ป่วยจำนวน 21,406 ราย จากจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา พบว่าสูงกว่าปี 2566 และสูงกว่าค่ามัธยฐาน 5 ปีย้อนหลัง และพบผู้เสียชีวิต 2 ราย รายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่มีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูกาล คาดว่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นมากในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม อัตราป่วยสูงสุดพบในเด็กวัยเรียน อายุ 5-14 ปี 

 

การระบาดเป็นกลุ่มก้อนของโรคไข้หวัดใหญ่ ส่วนใหญ่พบในเรือนจำ โรงเรียน และสถานปฏิบัติธรรม สายพันธุ์ที่พบมีทั้งไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A และสายพันธุ์ B ซึ่งปัจจุบันมีการรณรงค์เชิญชวนประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ประจำฤดูกาล พร้อมประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนประชาชนในเรื่องการป้องกันโรคและการแพร่กระจายเชื้อ โดยเน้นการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่

 

ส่วนสถานการณ์โรคไข้เลือดออก กรุงเทพมหานคร ปี 2567 สัปดาห์ที่ 21 (ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม – 1 มิถุนายน 2567) มีผู้ป่วยสะสมจำนวน 1,973 ราย เสียชีวิต 3 ราย เมื่อเทียบกับประเทศไทย กรุงเทพมหานครมีอัตราป่วยเป็นลำดับที่ 46 และมีอัตราป่วยเป็นลำดับที่ 6 เมื่อเทียบกับปริมณฑล กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อายุ 5-14 ปี รองลงมาคือ อายุ 15-34 ปี และอายุ 0-4 ปี 

 

เมื่อแยกข้อมูลเป็นรายเขตพบว่า 3 เขตที่มีอัตราป่วยสะสมสูงสุด ได้แก่ เขตภาษีเจริญ (แขวงคูหาสวรรค์) เขตดุสิต (แขวงสี่แยกมหานาค) และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย (แขวงคลองมหานาค) สำหรับมาตรการในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อนำโดยยุงลาย สำนักอนามัยแนะนำให้ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยสงสัยโรคไข้เลือดออกควรทายากันยุงป้องกันยุงกัดทุกรายเพื่อลดการแพร่โรค ตลอดจนผู้ที่อยู่ร่วมบ้านและผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชนที่มีการระบาด เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อจากผู้ป่วยโรคติดต่อนำโดยยุงลายไปสู่ชุมชน

 

ทั้งนี้ รศ.ทวิดา ได้เน้นย้ำในการรณรงค์ป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออก แม้ว่าปี 2567 จะสามารถควบคุมยอดผู้ป่วยได้มากกว่าปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคาดว่าปีนี้จะมีฝนตกหนัก 

 

ฉะนั้นการรณรงค์เรื่องโรคไข้เลือดออกต้องมีกิจกรรมเพิ่มเติมและทำอย่างเข้มข้นในพื้นที่ที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง ลงพื้นที่ตามชุมชน นอกจากนี้ยังต้องรณรงค์เพิ่มเติมในกลุ่มอื่นๆ เช่น กลุ่มวัยทำงานด้วย

 

ด้านสถานการณ์โรคติดเชื้อฝีดาษลิง (Mpox) กรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดที่มีการติดเชื้อสูงสุดในประเทศไทย สำหรับมาตรการในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคฝีดาษลิง ยังต้องเฝ้าระวังและเพิ่มมาตรการในการคัดกรองผู้มีความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาล Pride Month ซึ่งอาจมีการเบียดเสียดของคนที่ไปร่วมงานได้

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising