×

กทม. เตรียมแผนรองรับโควิด ช่วงระยะหลังการระบาดใหญ่ หากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการทั้งประเทศ

โดย THE STANDARD TEAM
24.08.2022
  • LOADING...
ทวิดา กมลเวชช

วานนี้ (23 สิงหาคม) ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมศูนย์เฝ้าระวังภาวะฉุกเฉินทางสุขภาพกรุงเทพมหานคร (Bangkok Health Emergency Operations Center: BHEOC) ครั้งที่ 2/2565 โดยมีคณะกรรมการและผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุม

 

ในที่ประชุม ได้มีการหารือเกี่ยวกับการวางแผนเพื่อเตรียมความพร้อมในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่ภาวะระยะหลังการระบาดใหญ่ (Post-Pandemic) เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโควิด รวมทั้งการเตรียมความพร้อมของ กทม. กรณีกระทรวงสาธารณสุขเตรียมอนุญาตให้โรงพยาบาลทุกสังกัดและคลินิกเวชกรรม สามารถจัดซื้อยาต้านไวรัสจากผู้ผลิตเองได้แล้ว ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้เป็นต้นไป 

 

พร้อมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเน้นย้ำการสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ผู้ป่วยโควิดไม่จำเป็นต้องใช้ยาต้านไวรัสทุกคน ซึ่งการใช้ยาต้านไวรัสอยู่ในการวินิจฉัยของแพทย์ ซึ่งควรให้เฉพาะกลุ่มที่มีอาการหรือมีปัจจัยเสี่ยงต่ออาการรุนแรง ส่วนการจัดบริการด้านการรักษาพยาบาลจะพิจารณาตามอาการผู้ป่วย 

 

ในส่วนของการพิจารณาการแยกกักตัวผู้ติดเชื้อโควิดเหลือ 5+5 วัน ซึ่งทางคณะกรรมการวิชาการกำลังประชุมหารือ โดยจะเข้าที่ประชุม EOC กระทรวงสาธารณสุข ในวันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม และจะออกเป็นมาตรการต่อไป โดยที่ประชุมเห็นว่าในประเด็นของการกักตัว 5+5 วัน จะต้องสื่อสารกับประชาชนให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้ติดเชื้อโควิดปฏิบัติตนได้ถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานในที่สาธารณะ 

 

นอกจากนี้ ยังรวมถึงการเตรียมความพร้อม หาก ศบค. ชุดใหญ่จะพิจารณาประกาศให้โควิดเป็นโรคเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ ดังนั้น เมื่อทุกอย่างจะผ่อนคลายลงก็อาจจะมีการเปิดมาตรการต่างๆ ให้เสรีมากขึ้น และลดระดับมาอยู่ที่การเฝ้าระวัง ซึ่งจะต้องมีการสื่อสารและทำความเข้าใจกับประชาชนให้เข้าใจว่ายังคงต้องป้องกันตนเองจากโควิด ในส่วนของ กทม. ยังได้เตรียมแผนรองรับหากมีสถานการณ์การแพร่ระบาดเกิดขึ้น ซึ่งจะต้องกระตุ้นให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมในการรับมือด้วย 

 

ทวิดายังบอกด้วยว่า ในส่วนของสำนักการแพทย์ ได้รายงานข้อมูลผู้ป่วยที่มีการใช้กัญชาที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในสังกัด กทม. ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน – 22 สิงหาคม 2565 พบว่า ผู้ป่วยอายุเฉลี่ย 32 ปี อาการที่พบบ่อย ได้แก่ ใจสั่น, แน่นหน้าอก, คอแห้ง, คลื่นไส้ และอาเจียน โดยที่ผู้ป่วยร้อยละ 60 ได้รับกัญชาผ่านการรับประทาน รองลงมาคือการสูบกัญชา ซึ่งใช้ส่วนที่เป็นใบ ลำต้น และช่อดอกของกัญชา และผู้ป่วยร้อยละ 60 เป็นการใช้กัญชาครั้งแรก และมีบางส่วนที่ใช้มากกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยที่ประชุมขอให้สำนักงานเขตติดตามสถานการณ์เกี่ยวกับการใช้กัญชา รวมทั้งเฝ้าระวังโรคมือเท้าปาก โรคไข้เลือดออก และโรคอื่นๆ ในพื้นที่อย่างใกล้ชิดด้วย

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising