×

บาทเปิดแข็งค่าเล็กน้อยที่ 34.21 บาทต่อดอลลาร์ หลังรับรู้ผลการประชุม Fed คาดวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 34.00-34.30 บาทต่อดอลลาร์

27.07.2023
  • LOADING...
ค่าเงินบาท

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 34.21 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.25 บาทต่อดอลลาร์ โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนลักษณะ Sideway Down หรือทยอยแข็งค่าขึ้น (แกว่งตัวในช่วง 34.16-34.32 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะแข็งค่าหลุดแนวรับ 34.20 บาทต่อดอลลาร์ หลังตลาดรับรู้ผลการประชุม Fed ซึ่งส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ก่อนที่จะเงินบาทจะกลับอ่อนค่าลงเล็กน้อย ในช่วงที่เงินดอลลาร์รีบาวด์แข็งค่าขึ้นบ้าง หลังถ้อยแถลงประธาน Fed ยังสะท้อนว่ามีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อได้

 

พูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลัง Fed ขึ้นดอกเบี้ย +25bps ตามคาด สู่ระดับ 5.25-5.50% ทำให้เงินดอลลาร์เผชิญแรงขายลักษณะ Sell on fact อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์รีบาวด์ขึ้นมาได้บ้าง หลังประธาน Fed ส่งสัญญาณว่ายังมีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อได้ หากข้อมูลเศรษฐกิจ/ตลาดการเงิน สะท้อนถึงความจำเป็นในการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) แกว่งตัวใกล้ระดับ 101 จุด (กรอบการเคลื่อนไหว 100.9-101.3 จุด ในช่วงคืนที่ผ่านมา) 

 

ในส่วนของราคาทองคำ เนื่องจากผู้เล่นในตลาดยังไม่กล้าฟันธงว่าบรรดาธนาคารกลางจะถึงจุดจบรอบการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งสะท้อนผ่านการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปีสหรัฐฯ ในลักษณะ Sideway/Sideway Down (สำหรับเงินดอลลาร์) ทำให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนสิงหาคม) ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 1,972 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ทั้งนี้ เรามองว่าผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นผลการประชุม ECB ซึ่งหากไม่มีการส่งสัญญาณที่ชัดเจนต่อแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ย และบอนด์ยีลด์ระยะยาวเริ่มปรับตัวลดลง ภาพดังกล่าวก็อาจหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้

 

สำหรับวันนี้ ไฮไลต์สำคัญจะอยู่ที่การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) โดยมองว่า ECB จะเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Deposit Facility Rate) +25bps สู่ระดับ 3.75% ทั้งนี้ ตลาดจะรอลุ้นว่า ECB จะส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า พร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องหรือไม่ในการประชุมครั้งถัดไป หลังอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงมาก แม้ว่าจะชะลอลงต่อเนื่องก็ตาม

 

ในส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ ตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 รวมถึงรายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) และนอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงินได้ในช่วงนี้

 

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท ประเมินว่าโมเมนตัมการแข็งค่าของเงินบาทในวันก่อนหน้า อาจเริ่มถูกชะลอลงด้วยท่าทีของผู้เล่นในตลาดที่ยังไม่มั่นใจว่า Fed จะหยุดการขึ้นดอกเบี้ยได้จริงหรือไม่ (กรุงไทยคงมุมมองเดิมว่า Fed ได้ขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายไปแล้วในการประชุมวันนี้) นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองในประเทศก็จะยังคงส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติยังไม่กล้าเดินหน้าซื้อสินทรัพย์ไทยต่อเนื่อง ทำให้เงินบาทยังขาดแรงหนุนฝั่งแข็งค่าที่ชัดเจน นอกจากนี้ ในช่วงปลายเดือน โดยเริ่มเห็นโฟลวธุรกรรมซื้อเงินดอลลาร์ของบรรดาผู้นำเข้า ทำให้เงินบาทอาจไม่แข็งค่าหลุดโซนแนวรับสำคัญแถว 34.00 บาทต่อดอลลาร์ (หากแข็งค่าหลุดโซนดังกล่าวก็อาจแข็งค่าทดสอบระดับ 33.75 บาทต่อดอลลาร์ได้) 

 

อนึ่ง ควรระมัดระวังความผันผวนของตลาดค่าเงินในช่วงผู้เล่นในตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุม ECB เพราะในช่วงนี้ ปัจจัยหนุนเงินยูโร (EUR) อย่างตลาดหุ้นยุโรปก็เริ่มส่งสัญญาณผันผวน/ย่อตัวลง ทำให้เงินยูโรจะแข็งค่าขึ้นต่อได้ ต้องอาศัยความชัดเจนของประธาน ECB ที่จะย้ำจุดยืนพร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ ทั้งนี้ เงินยูโรอาจพอได้แรงหนุนจากการรีบาลานซ์สถานะ Hedging ของนักลงทุนสถาบัน รวมถึงแรงซื้อเงินยูโรของบรรดาบริษัทเอกชนในช่วงปลายเดือน ซึ่งอาจจะพอช่วยหนุนค่าเงินยูโรไม่ให้อ่อนค่าแรง หาก ECB ไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจน พร้อมขึ้นดอกเบี้ยต่อ 

 

โดยธนาคารมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.00-34.30 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงก่อนรับรู้ผลการประชุม ECB และคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.80-34.40 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงทยอยรับรู้ผลการประชุม ECB

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising