วันนี้ (21 กรกฎาคม) ออสเตรเลียเปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิดสูงถึง 89 คนในวันเดียว ขณะผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 55,600 คน หลังโอมิครอนได้กลับมาระบาดหนักในประเทศอีกครั้ง ด้านรัฐบาลวอนขอความร่วมมือให้ประชาชนทำงานจากที่บ้าน เพื่อลดความเสี่ยงแพร่เชื้อในสถานที่ชุมชน พร้อมยอมรับว่า ยอดผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว
ออสเตรเลียกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโอมิครอนระลอก 3 จากสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ที่สามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากวัคซีนหรือภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อครั้งก่อนหน้าได้ โดยในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ออสเตรเลียมียอดผู้ติดเชื้อใหม่ทะยานขึ้นกว่า 300,000 ราย
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี แอนโทนี อัลบาเนซี เปิดเผยว่า ผู้นำของรัฐต่างๆ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐบาลกลางยืนยัน ไม่ได้ออกคำแนะนำให้สวมหน้ากากในสถานที่ในร่ม และตัวเขาเองก็ต่อต้านแรงกดดันจากแพทย์หลายคนที่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลออกข้อกำหนดเดิมอีกครั้ง ขณะที่ประชาชนก็แสดงท่าทางที่ไม่อยากกลับไปใช้มาตรการที่เข้มงวดอย่างในอดีต โดยในช่วงเริ่มต้นที่โควิดระบาดนั้น ออสเตรเลียนับเป็นหนึ่งในประเทศที่สามารถควบคุมไม่ให้ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งทะยานสูงได้ดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ก็แลกมาด้วยการออกข้อกำหนดสกัดโควิดที่เข้มงวด ทั้งการล็อกดาวน์และการสั่งเว้นระยะห่างในชุมชน
“ผมว่าไม่ใช่เรื่องดีที่จะต้องออกคำสั่ง เว้นเสียแต่ว่ามีผลจำเป็นที่ต้องบังคับใช้” อัลบาเนซีเปิดเผยกับสถานีวิทยุ ABC พร้อมเสริมว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขควรคิดถึงผลกระทบด้านสภาพจิตใจของประชาชนด้วย
แต่ถึงเช่นนั้น รัฐบาลได้วอนขอให้ภาคธุรกิจอนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน และกระตุ้นเตือนให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ให้เร็วที่สุด เพราะขณะนี้มีผู้ที่เข้าเกณฑ์เดินทางไปรับวัคซีนเพียง 71% เท่านั้น ส่วนจำนวนผู้ที่ฉีดสองเข็มแล้วอยู่ที่ระดับ 95%
นับตั้งแต่ที่โลกเผชิญกับโควิด ออสเตรเลียมียอดผู้ติดเชื้อทั้งหมด 9 ล้านคน ขณะผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 10,968 คน ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างต่ำหากเทียบกับอีกหลายประเทศ
แฟ้มภาพ: Lisa Maree Williams / Getty Images
อ้างอิง: