สก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลีย แถลงต่อสื่อมวลชนในวันนี้ (22 กรกฎาคม) โดยแสดงความรับผิดชอบและขอโทษต่อประชาชน สำหรับความผิดพลาดและความล่าช้าของรัฐบาลในการดำเนินการฉีดวัคซีนต้านโควิด ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดที่กำลังเลวร้าย จนต้องมีการประกาศล็อกดาวน์ใน 3 รัฐ เพื่อควบคุมสถานการณ์ ซึ่งส่งผลกระทบและสร้างความไม่พอใจแก่ประชาชนกว่า 13 ล้านคน หรือมากกว่าครึ่งของประชากรทั้งประเทศ
“เหมือนที่ผมได้กล่าวไปเมื่อวานนี้ ผมรับผิดชอบโครงการฉีดวัคซีน และผมยังรับผิดชอบกับความท้าทายที่เราเผชิญอยู่ ที่แน่ชัดคือบางอย่างนั้นอยู่ในการควบคุมของเรา แต่บางอย่างก็ไม่ ผมเสียใจที่เราไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่เราตั้งความหวังไว้ตั้งแต่ต้นปี แต่สิ่งสำคัญมากกว่านั้นคือเรามุ่งมั่นอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะพลิกสถานการณ์นี้ได้” มอร์ริสันกล่าว ในขณะที่คะแนนนิยมของเขาลดต่ำลงอย่างชัดเจนในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
ปัจจุบันมีประชาชนออสเตรเลียได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้วประมาณ 12% โดยเมื่อวานนี้ (21 กรกฎาคม) มีประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนทั่วประเทศประมาณ 184,000 คน ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศพัฒนาแล้วที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำที่สุด โดยผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า นอกจากความผิดพลาดของรัฐ ยังเป็นผลจากภาวะขาดแคลนวัคซีน mRNA และการสื่อสารที่สร้างความสับสนต่อประชาชนเกี่ยวกับผู้ที่มีสิทธิ์ฉีดวัคซีน AstraZeneca
สำหรับสถานการณ์ระบาดของโควิดระลอกล่าสุดที่เกิดขึ้นในออสเตรเลียตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พบว่ามีกรณีการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์เดลตาจำนวนมากในทั้ง 3 รัฐที่ประกาศล็อกดาวน์ ซึ่งในวันนี้ที่นครซิดนีย์มีรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 124 คน
ภาพ: Photo by James D. Morgan / Getty Images
อ้างอิง:
- https://www.ft.com/content/0d5be58c-ff44-4186-91e7-000658cc4e67
- https://www.9news.com.au/national/scott-morrison-apologises-for-slow-covid19-vaccine-rollout/88c9b30e-ae15-4e06-9369-0f0019989e7b