×

สำรวจเรื่องราวของ ‘อุษณา มหากิจศิริ’ กับบทบาทการเป็นผู้บริหารหญิง ท่ามกลางภูมิทัศน์อสังหาริมทรัพย์ที่ท้าทายของไทย [PR NEWS]

โดย THE STANDARD TEAM
24.07.2023
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนของการที่ ‘ผู้หญิง’ ได้ขึ้นมาเป็นแม่ทัพของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ คือเรื่องราวของ ‘อุษณา มหากิจศิริ’ ที่ตอนนี้รั้งตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA และควบตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอ็มที พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หรือ PMT และบริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อีกด้วย
  • อุษณามองว่า การเพิ่มขึ้นของผู้หญิงในบทบาทต่างๆ เป็นโอกาสทอง ซึ่งตอนนี้เศรษฐกิจได้ถูกขับเคลื่อนด้วยผู้หญิงในบทบาทใหม่ ไม่ว่าจะเป็นบทบาทของนักลงทุน ผู้บริหารระดับสูง หรือเจ้าของกิจการ และสังคมก็เปิดรับบทบาทของผู้หญิงเพิ่มขึ้น
  • สำหรับอุษณา ปัจจัยที่จะได้เปรียบในการแข่งขันคือ ต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนไว้แต่ต้น การเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าทำให้สามารถเลือกทำเลที่ดินที่มีศักยภาพในการพัฒนา และทำให้สามารถควบคุมต้นทุนที่ดินได้ดี นอกจากนี้ การศึกษาพฤติกรรมของลูกค้ายังสามารถนำมาพัฒนาออกแบบห้องชุดหรือบ้านให้สอดคล้องกับความต้องการหรือพฤติกรรมของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่อาณาจักรแห่งอสังหาริมทรัพย์ถูกมองว่าเป็นป้อมปราการที่มีแต่เพียงผู้ชายเท่านั้นที่จะได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารระดับสูง

 

แต่แล้วภาพในวันวานกำลังเปลี่ยนไป เมื่อผู้หญิงได้เข้ามาในอุตสาหกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง ได้รับการยอมรับ และที่สำคัญที่สุดคือนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง

  

เรื่องนี้สะท้อนได้จากผู้หญิงที่กลายเป็นกระดูกสันหลังของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกมากขึ้นเรื่อยๆ โดยดำรงตำแหน่งมากกว่า 40% ของตำแหน่งเชิงพาณิชย์ด้านอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก

 

ประสบการณ์ที่ได้รับการต่อยอด

 

หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนของการที่ ‘ผู้หญิง’ ได้ขึ้นมาเป็นแม่ทัพของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ คือเรื่องราวของ ‘อุษณา มหากิจศิริ’ ที่ตอนนี้รั้งตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA และควบตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอ็มที พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หรือ PMT และบริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อีกด้วย

 

 

สิ่งที่น่าสนใจคือ การที่ TTA มีเป้าหมายที่จะขยายโอกาสการลงทุนไปยังหลากหลายธุรกิจ นอกเหนือจากกลุ่มธุรกิจที่ได้เข้าไปลงทุนกว่า 5 กลุ่มธุรกิจ ทั้งธุรกิจชิปปิ้ง, น้ำมันและก๊าซ, อาหาร และธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย 

 

โดยตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่ TTA เล็งเห็นถึงศึกยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต จากสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยที่เริ่มส่งสัญญาณบวก 

 

การที่อุษณาได้เข้ามาบริหารธุรกิจที่ครอบคลุมตั้งแต่การขนส่ง เคมีเกษตร และอาหารและเครื่องดื่ม กลายเป็นประสบการณ์สำคัญที่ถูกนำมาใช้ในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ด้วยเช่นกัน

  

ด้วยการวางวิสัยทัศน์ให้ชัดเจนสำหรับการบริหาร การสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อให้พนักงานดึงศักยภาพของตนเองออกมาใช้ในการทำงาน และสิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญของการบริหารงานคือ การมีทีมงานที่มีคุณภาพ ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญที่จะนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายที่วางเอาไว้

 

ตลอดจนปรัชญาในการปรับตัวและการวางแผนงานล่วงหน้า ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการทำงานให้ประสบความสำเร็จ ทำให้อุษณาประสบความสำเร็จในการสำรวจภูมิทัศน์ที่ท้าทายของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

  

“การได้บริหารงานที่มีความหลากหลายถือเป็นโอกาสที่ดี เพราะแต่ละธุรกิจสามารถสนับสนุนกันและกันได้ รวมทั้งยังนำประโยชน์มาให้แก่ลูกบ้านในกลุ่มของอสังหาได้เช่นกัน”

 

 

โอกาสทองของผู้หญิงในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

 

อุษณามองว่า การเพิ่มขึ้นของผู้หญิงในบทบาทต่างๆ เป็นโอกาสทอง เพราะปัจจุบันผู้หญิงมีโอกาสในหลากหลายเวที มีความรู้ มีความสามารถ และมีโอกาสเข้าถึงที่มาของข้อมูลต่างๆ ได้มากขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่เอื้อต่อการทำงาน ประกอบกับบริบทของสังคมที่เปลี่ยนไปส่งผลให้เกิดเทรนด์ใหม่ๆ ต่อภาคธุรกิจทั่วโลก เศรษฐกิจได้ถูกขับเคลื่อนด้วยผู้หญิงในบทบาทใหม่ ไม่ว่าจะเป็นบทบาทของนักลงทุน ผู้บริหารระดับสูง หรือเจ้าของกิจการ และสังคมก็เปิดรับบทบาทของผู้หญิงเพิ่มขึ้น

 

จากประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจอสังหา อุษณาและทีมงานเห็นแนวโน้มว่าผู้หญิงเป็นผู้ตัดสินใจหลักในเลือกการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น เพราะผู้หญิงมีความละเอียดอ่อน ใส่ใจในรายละเอียด ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักในการเลือกที่อยู่อาศัย และส่วนตัวอุษณาเองก็ได้นำมุมมองจากการที่ชอบใช้เวลาส่วนมากอยู่ที่บ้าน ใช้เวลากับครอบครัวที่เป็นครอบครัวใหญ่ ซึ่งมีหลายเพศ หลายวัย และมีกิจกรรมที่แตกต่างกัน แต่ยังสามารถอยู่ร่วมกันได้ 

 

ฉะนั้น ฟังก์ชันของบ้านจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างมากในการพัฒนาที่อยู่อาศัย และด้วยไลฟ์สไตล์ของผู้บริหารหญิงจึงได้นำประสบการณ์ตรงมาต่อยอดในการพัฒนาโครงการให้เหมาะสมสำหรับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย

  

ด้วยเหตุนี้บริษัท The Nest Property ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาทั้งแนวสูงและแนวราบ รวมทั้งศักยภาพของทีมงานคุณภาพทุกๆ ฝ่าย จึงมีความยืดหยุ่นในการบริหารงานสูง ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ทั้งหมดคือ Sense of Ownership ที่จะได้ส่งมอบงานให้ลูกค้าตามไทม์ไลน์ที่กำหนดเอาไว้ และยังมีเวลาลงรายละเอียดเพื่อให้งานออกมาดีที่สุด 

  

สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นข้อดี เพราะการทำงานตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบันแผนงานจะถูกเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้บริษัทได้ก้าวไปถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้ตั้งแต่ต้น เช่น โครงการแนวราบที่กำลังพัฒนาอยู่ จะมีฟังก์ชันที่มีความโดดเด่นแตกต่างกัน ไม่ได้มีรูปแบบเฉพาะที่คล้ายกันหรือตายตัวเสมอไป

 

 

มองหากลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน

 

อุษณากล่าวว่า ในการพัฒนาโครงการอสังหาไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียมหรือบ้านเดี่ยว จะมองที่ศักยภาพของทำเลที่ตั้งเป็นหลัก โดยคำนึงถึงการเจริญเติบโตของพื้นที่ การคมนาคมโดยรอบ และสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง เช่น ห้างสรรพสินค้า, ร้านอาหาร, โรงเรียน และโรงพยาบาลต่างๆ 

 

โดยจะลงรายละเอียดไปจนถึงการใช้ชีวิตของลูกค้า ทำงานหรือเรียนที่ไหน เดินทางอย่างไร สามารถซื้อข้าวของเครื่องใช้และอาหารจากที่ไหน ตลอดจนถึงมีไลฟ์สไตล์ในวันพักผ่อนอย่างไร

 

ซึ่งทีมงานจะต้องมองหากลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนว่าเป็นกลุ่มใด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักลงทุน ผู้ปล่อยเช่า หรือลูกค้าที่อยู่อาศัยเอง จากนั้นจึงหาทำเลในเมืองที่มีศักยภาพและเป็นที่ต้องการของตลาด รวมถึงศึกษาข้อบังคับและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นข้อมูลและองค์ประกอบหลักในการตัดสินใจพัฒนาโครงการ

  

“สำหรับเรา ปัจจัยที่จะได้เปรียบในการแข่งขันคือ เรากำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนไว้แต่ต้น การเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าทำให้เราสามารถเลือกทำเลที่ดินที่มีศักยภาพในการพัฒนา และทำให้เราสามารถควบคุมต้นทุนที่ดินได้ดี นอกจากนี้ การศึกษาพฤติกรรมของลูกค้ายังทำให้เราสามารถนำมาพัฒนาออกแบบห้องชุดหรือบ้านให้สอดคล้องกับความต้องการหรือพฤติกรรมของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น”

  

ทั้งหมดนี้ทำให้สามารถนำเสนอบ้านหรือสินค้าที่มีราคาที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งบริเวณโดยรอบได้ ในคุณภาพที่เท่าเทียมกัน และการออกแบบที่ตรงใจลูกค้ามากกว่า ซึ่งทั้งหมดนี้มีเป้าหมายให้ลูกค้าได้รับประโยชน์และความคุ้มค่าสูงสุดจากโครงการ

  

สำหรับปีนี้ บริษัทมีโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการที่บริหารอยู่คือ 125 Sathorn โครงการคอนโดมิเนียม Low Rise และบ้าน ภายใต้บริษัท The Nest Property ชื่อแบรนด์ AERIE เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น และแบรนด์ AVIAN เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่เปิดตัวไป และจะมีอีก 3-5 โครงการที่จะทยอยเปิดตัวในช่วงปลายปี เพราะเห็นถึงศักยภาพของตลาดที่กำลังค่อยๆ ฟื้นฟูจากนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ 

  

อุษณาย้ำว่า บริษัทโชคดีที่มีพาร์ตเนอร์ที่มีศักยภาพยอดเยี่ยม และมีประสบการณ์ในด้านอสังหาจากญี่ปุ่น ทั้งบริษัท คันเดน เรียลตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด หรือ KRD ยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาของญี่ปุ่น ที่มั่นใจและเชื่อมั่นมาลงทุนกับบริษัทอย่างต่อเนื่อง และมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่ทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยว ประมาณ 3-5 โครงการต่อปี  

 

 

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังมีทิศทางสดใส

 

สำหรับแรงบวกของอสังหาในช่วงปี 2566 คือการที่รัฐต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนอง สำหรับที่อยู่อาศัยมือ 1 และมือ 2 ที่มีระดับราคาซื้อ-ขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกินมูลค่า 3 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท อีก 1 ปี (ตั้งแต่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2566) ซึ่งแม้มีการลดหย่อนน้อยลงบางเงื่อนไขหากเทียบกับปี 2565 นั้น

  

อุษณามองว่า ในตลาดอสังหามี 2 กลุ่มที่ยังไปได้ดีคือ กลุ่มที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เพราะลูกค้ายังได้สิทธิประโยชน์จากมาตรการของรัฐ และกลุ่มโครงการระดับพรีเมียมราคา 15-30 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบใดๆ และมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีเพราะลูกค้ามีกำลังซื้อสูง 

 

และยังมองว่าลูกค้าภายในประเทศที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองยังคงเป็นกลุ่มหลักที่ให้ความสำคัญเป็นหลัก แต่บริษัทก็มีแผนที่จะขยายไปยังกลุ่มลูกค้าต่างประเทศแถบเอเชีย เนื่องจากพาร์ตเนอร์มีความแข็งแกร่งในด้านอสังหา ซึ่งจะเป็นตัวหนุนด้านการตลาดและฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้น

  

โดยการเติบโตมองว่ามีปัจจัยบวกทั้งตลาดการท่องเที่ยวและการบริโภค ที่มองว่าจะทยอยเพิ่มขึ้น เนื่องจากจีนซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจเปิดประเทศอย่างรวดเร็ว จึงส่งผลให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวในปีนี้เพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มความมั่นใจของผู้ซื้อ เนื่องจากทิศทางตลาดอสังหาจะค่อยๆ ดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดระดับพรีเมียมที่มีกำลังซื้อสูง 

  

มุมมองของ ‘อุษณา มหากิจศิริ’ ซึ่งตอกย้ำด้วยประสบการณ์ในฐานะผู้บริหารหญิงในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ได้สะท้อนว่า ขณะที่ตัวเธอเองและทีมงาน The Nest Property ได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกและกลยุทธ์ที่ไม่เหมือนใคร ไม่ได้ทำให้เพียงแต่อยู่รอดเท่านั้น แต่ยังเติบโตในภูมิทัศน์อสังหาริมทรัพย์ที่ท้าทายของไทยอีกด้วย

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising