×

‘เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัว’ ข้อเสนอจาก ATTA หวังต่อลมหายใจธุรกิจท่องเที่ยวไทย

01.10.2020
  • LOADING...

วันนี้ (1 ตุลาคม) วิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD เกี่ยวกับข้อเสนอการเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัวของสมาคมฯ ระบุว่าที่ผ่านมาธุรกิจการท่องเที่ยวกำลังอยู่ในช่วงย่ำแย่ จากที่เคยมีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศมาหลายสิบล้านคน ซึ่งตอนนี้ไม่มีเลย ในขณะที่ตอนนี้มีหลายประเทศทั่วโลกควบคุมโควิด-19 ได้ดีเทียบเท่าประเทศไทย และเป็นที่แน่ชัดว่ากลุ่มประเทศเหล่านี้ปลอดภัยและมีความเสี่ยงที่ต่ำมาก 

 

จากเหตุผลดังกล่าวจึงมองว่านี่น่าจะเป็นโอกาสดีที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวที่มีความปลอดภัยสูงกลุ่มนี้ได้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพื่อนำรายได้จากการท่องเที่ยวกลับมาช่วยเศรษฐกิจประเทศอีกครั้ง อีกทั้งยังช่วยลดจำนวนการปิดกิจการของผู้ประกอบการหลายรายในประเทศไทย และยังช่วยลดภาวะการตกงานที่สูงขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะในธุรกิจท่องเที่ยว

 

“กลุ่มที่เราต้องการให้เข้ามาคือกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความเสี่ยงต่ำมาก ในความหมายก็คือเมืองนั้นหรือประเทศนั้นต้องปลอดการติดเชื้อในประเทศไม่ต่ำกว่า 60 วันเหมือนประเทศไทย นี่คือเงื่อนไขที่เราตั้งไว้ เพราะถ้าเรามีกฎหรือเงื่อนไขอย่างนี้ ชาวต่างชาติที่เข้ามาก็จะเป็นกลุ่มที่ปลอดภัย ไม่สร้างปัญหาแน่นอน หลักๆ ตอนนี้ก็มีประเทศจีนในหลายมณฑล ไต้หวัน รวมถึงบางประเทศในยุโรป”

 

นอกเหนือจากเรื่องความเสี่ยงที่ต่ำแล้ว วิชิตยังให้เหตุผลในการจัดทำข้อเสนอดังกล่าวว่า ก่อนหน้านี้นักท่องเที่ยวกลุ่มหลักที่สร้างรายได้จำนวนมากให้กับประเทศไทยส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวที่เข้ามาไม่เกิน 7 วัน หากมีการกักตัวอย่างน้อย 14 วัน จะเหมือนเป็นการปฏิเสธไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามา และท้ายที่สุดก็ไม่สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการได้

 

ทั้งนี้ วิชิตย้ำว่าข้อเสนอนี้ผู้ประกอบการทุกคนเห็นด้วยอยู่แล้ว เนื่องจากมั่นใจว่าจะปลอดภัย ไม่สร้างความเดือดร้อนเสียหายให้ประเทศ เพราะปลอดโรค 60 วันเหมือนไทย แต่เพื่อความไม่ประมาท ประเทศไทยก็ต้องมีมาตรการป้องกันอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น ก่อนอนุญาตให้เข้ามา นักท่องเที่ยวต้องผ่านการตรวจหาเชื้อและปลอดเชื้อ 72 ชั่วโมง จำกัดพื้นที่ให้เที่ยว เช่น ถ้าเลือกภูเก็ตก็ต้องเที่ยวภูเก็ต เลือกเชียงใหม่ก็ต้องอยู่เชียงใหม่ จะเดินทางข้ามไปมาไม่ได้ และถ้ามากับบริษัททัวร์ ต้องมีเจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ช่วยดูแลควบคุมตามมาตรการป้องกันโรคของสาธารณสุข ให้นักท่องเที่ยวสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงยังต้องมีระบบการติดตามตัวนักท่องเที่ยวด้วย

 

จากการสอบถามและพบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการและกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ตามหัวเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของไทย เช่น ภูเก็ต, สมุย, พัทยา ฯลฯ พบว่าคนในพื้นที่ส่วนใหญ่เห็นด้วยและยอมรับเงื่อนไขการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาได้ เพียงแต่ต้องมีมาตรการป้องกันโรคที่ชัดเจนเพื่อสร้างความสบายใจให้คนในท้องที่ ขณะเดียวกันหากข้อเสนอไม่ได้การยอมรับจากคนในพื้นที่จริงๆ แผนดังกล่าวก็พร้อมที่จะพับเก็บไปก่อน 

 

“ที่ต้องเร่งการเปิดรับนักท่องเที่ยวเป็นเพราะเศรษฐกิจบ้านเราในปีนี้กำลังย่ำแย่ โดยเฉพาะในด้านรายได้จากนักท่องเที่ยว และที่น่าเป็นห่วงก็คือจะมีคนตกงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และถ้าภายในสิ้นปีนี้ยังไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาอาจจะมีผู้ตกงานไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน ซึ่งไม่มีกิจการไหนที่จะอยู่รอดได้เกิน 1 ปีในภาวะไร้นักท่องเที่ยวแบบนี้”

 

ส่วนกรณีของเงื่อนไขการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist Visa (STV) จะช่วยพยุงเศรษฐกิจได้หรือไม่นั้น นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยวระบุว่าโครงการดังกล่าวถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ยังไม่เพียงพอที่จะฟื้นประเทศได้เต็มรูปแบบ เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าเงื่อนไข STV มีจำนวนเพียงหลักหมื่น แต่ในภาวะปกติเราเคยมีนักท่องเที่ยวเดือนละไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน ซึ่งรายได้ที่เกิดขึ้นไม่เพียงพอที่จะพยุงผู้ประกอบการให้ผ่านช่วงวิกฤตนี้ไปได้อย่างแน่นอน 

 

“ผู้ที่เข้ามาแบบพิเศษคือนักท่องเที่ยวแบบกลุ่มเฉพาะ ดังนั้นเป็นเรื่องยากที่ผู้ประกอบการรายย่อยจะได้รับอานิสงส์จากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้” 

 

ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ จะทำการยื่นข้อเสนอการเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาในสัปดาห์หน้า

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising