ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส ระบุว่า บริษัทจดทะเบียนรับมือกับโควิดในรอบนี้ได้เป็นอย่างดี หนุนกำไรงวดไตรมาส 3 ปี 2564 ที่รายงานมาแล้ว 545 บริษัท คิดเป็นสัดส่วน 90% ของมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap) ทั้งหมด โดยมีกำไรรวมอยู่ที่ 2 แสนล้านบาท ลดลงเพียง 25.9% จากไตรมาสก่อนหน้า และหนุนกำไรช่วง 9 เดือนแรกปี 2564 อยู่ที่ 7.36 แสนล้านบาท มีสัดส่วนสูงถึง 87% ของประมาณการ
โดยกำไรบริษัทจดทะเบียน และตัวเลขเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 3 ปี 2564 ที่ดีกว่าคาด น่าจะเป็นจุดต่ำสุดในปีนี้ โดยคาด Fund Flow น่าจะยังไหลเข้าตลาดการเงินไทยต่อเนื่อง
ล่าสุดตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนถึงปัจจุบัน Fund Flow ไหลเข้าหุ้นไทย 1.5 พันล้านบาท อีกทั้งยังไหลเข้าตราสารหนี้ไทยกว่า 5.4 หมื่นล้านบาท และเป็นการพักเงินในตราสารหนี้ระยะสั้น ที่อายุน้อยกว่า 1 ปี สูงถึง 3.0 หมื่นล้านบาท จึงเชื่อว่าน่าจะเห็นเม็ดเงินจากตราสารหนี้ระยะสั้นทยอยไหลเข้าตลาดหุ้นในช่วงที่เหลือของปี
กลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นที่อิงกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศพร้อมมีแรงบวกเฉพาะตัวหนุน อย่าง KBANK, BLA, DOHOME เป็น Toppick โดยมีรายละเอียดทางพื้นฐานดังนี้
DOHOME ราคาเหมาะสม 30.70 บาท โดยมีกำไรช่วง 9 เดือนแรกปี 2564 เติบโต 171% ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 4 ปี 2564 จะโตสูงเกิน 100% สะท้อนจากยอดขายสาขาเดิม (SSSG) เดือนตุลาคมที่กลับมาสูง 40% บวกกับการเร่งผลักดันยอดขายพนักงานหน้าร้านให้เป็นตามเป้าหมายทั้งปี ยังเห็น SSSG เดือนพฤศจิกายนที่ยืนระดับสูงได้ จึงคงคาดปี 2564 เติบโตเด่น 159% และคาดเพิ่มขึ้นอีก 12.9% ในปี 2565
BLA ราคาเหมาะสม 35.00 บาท กำไรสุทธิงวดไตรมาส 3 ปี 2564 เท่ากับ 1.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 57.1% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และ 102.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) จากเบี้ยประกันภัยรับสุทธิเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และรายได้จากธุรกิจลงทุนเติบโต จากช่วงฤดูกาลจ่ายปันผลระหว่างกาลของ บจ. SET คาดกำไรสุทธิปี 2564-65 จะฟื้นตัว 110%YoY และ 12%YoY จากธุรกิจประกันชีวิตฟื้นตัว นอกจากนี้ ยังได้ผลบวกจากทิศทาง Bond Yield ที่ฟื้นตัว ส่งผลบวกต่อธุรกิจลงทุนในระยะยาว
KBANK ราคาเหมาะสม 158 บาท กำไรสุทธิช่วง 9 เดือนแรกปี 2564 ขยายตัว 74%YoY และคิดเป็นสัดส่วน 90% ของประมาณการเดิม แม้แนวโน้มกำไรสุทธิ ไตรมาส 4 ปี 2564 อ่อนตัว QoQ เพราะค่าใช้จ่ายดำเนินสูงขึ้น แต่รายได้มีแรงส่งจากสินเชื่อและรายได้ค่าธรรมเนียมฯ ตามปัจจัยฤดูกาล ขณะที่คาดกำไรสุทธิปี 2564 เท่ากับ 3.6 หมื่นล้านบาท เติบโต 22%YoY และปี 2565 ที่ 3.8 หมื่นล้านบาท เพิ่ม 6.5%YoY จากรายได้ดอกเบี้ยรับฯ ตามฐานสินเชื่อขยายตัว และรายได้ค่าธรรมเนียมฯ ขับเคลื่อนด้วยการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP