×

ตื่นเถิด Gooners! เพราะเกมนี้อาร์เซนอลพลาดไม่ได้อีกแล้ว

21.04.2023
  • LOADING...
อาร์เซนอล

ความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์การลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในรอบไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ดูเหมือนการขับเคี่ยวระหว่างผู้ท้าชิงอย่างอาร์เซนอล และแชมป์เก่าอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีโอกาสที่จะต้องวัดกันจนถึงนัดสุดท้าย

 

ส่วนหนึ่งเกิดจากการพลาดสะดุด 2 นัดติดต่อกันของกันเนอร์ส จ่าฝูง เมื่อปล่อยให้ทั้งลิเวอร์พูลและเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไล่ตามตีเสมอได้เป็น 2-2 ทั้งๆ ที่พวกเขาเป็นฝ่ายเริ่มต้นได้ดีกว่า และเป็นฝ่ายออกนำไปก่อนถึง 2 ประตู

 

การพลาดเสมอนั้นทำให้อาร์เซนอลเก็บได้แค่ 2 จาก 6 คะแนนเต็ม ในขณะที่แมนฯ ซิตี้ กลับเป็นฝ่ายเร่งฟอร์มการเล่นขึ้นมา โดยเฉพาะการกลับร่างทองของ เควิน เดอ บรอยน์ และการคืนร่างจอมมารของ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ รวมถึงประสบการณ์และความเฉียบขาดที่ทำให้พวกเขารู้ดีว่าในสถานการณ์แบบนี้ต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งตอนนี้ก็ชนะรวดในลีก 6 นัดเข้าไปแล้ว

 

ระยะห่างที่เหมือนจะห่างไกลจึงหดเหลือเป็นระยะทางอันห่างใกล้แทน โดยอาร์เซนอลนำอยู่เพียงแค่ 4 คะแนนเท่านั้น ซึ่งลงแข่งมากกว่า 1 นัด และยังมีเกมที่จะต้องบุกไปเยือนเอติฮัดสเตเดียมในช่วงกลางสัปดาห์หน้า ที่คาดว่าจะเป็นเกมตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้

 

อาร์เซนอล

 

แต่ก่อนจะถึงเกมนั้น คืนนี้ทีมของ มิเกล อาร์เตตา มีภารกิจสำคัญในการต้องลงสนามพบกับเซาแธมป์ตันในเอมิเรตส์สเตเดียมของตัวเองก่อน ซึ่งตามถ้อยคำของผู้จัดการทีมชาวสเปนแล้ว มันเป็นเกมที่มาในช่วงจังหวะที่ดีที่สุด

 

เหตุผลคือ

 

  1. เซาแธมป์ตันไม่ได้เป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งมากนักในฤดูกาลนี้ และในความจริงนี่คือทีมบ๊วยของพรีเมียร์ลีก
  2. พวกเขาจะได้เล่นในบ้านของตัวเอง
  3. แมนฯ ซิตี้ ติดโปรแกรมเอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศ กับไบรท์ตัน ทำให้ไม่มีเกมลีกในสุดสัปดาห์นี้
  4. จากข้อ 2 ถ้าอาร์เซนอลคว้าชัยชนะได้ ก็จะมีโอกาสขยับหนีไปเป็น 7 คะแนนให้หายใจโล่งขึ้นอีกนิด (แม้จะหมายถึงการลงแข่งมากกว่า 2 นัดก็ตาม แต่อย่าลืมว่า หากซิตี้เข้ารอบชิงเอฟเอคัพด้วย ก็จะมีโปรแกรมอัดแน่นขึ้นอีก)

 

และสิ่งที่มีความหมายมากที่สุดคือสิ่งที่อาร์เตตาพยายามออกมาบอกกับทุกคนว่า “ทุกอย่างยังอยู่ในมือของพวกเราเอง เราต้องการจะทำให้ได้”

 

จุดนี้คือสิ่งที่อาร์เซนอลมีในสิ่งที่ทีมที่เคยต้องขึ้นชกกับแมนฯ ซิตี้ ในรูปแบบเดียวกันถึง 2 ครั้งอย่างลิเวอร์พูลในฤดูกาล 2018/19 และ 2021/22 ไม่มี เพราะทั้งสองฤดูกาลนั้นลิเวอร์พูลไม่ได้กุมโชคชะตาเอาไว้ในมือตัวเอง และความโหดร้ายของซิตี้ในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา คือการที่พวกเขาไม่เปิดโอกาสให้คู่แข่งเลยแม้แต่น้อย

 

ดังนั้นอาร์เตตา ซึ่งก็อยู่กับเป๊ปในฤดูกาล 2018/19 ด้วย ย่อมรู้ดีว่าพวกเขากำลังเผชิญกับอะไร

 

จุดใหญ่ที่เป็นปัญหาของอาร์เซนอลใน 2 เกมที่ผ่านมาคือ การ ‘ชะล่าใจ’ และปล่อยให้คู่แข่งอย่างลิเวอร์พูลและเวสต์แฮมกลับเข้าสู่เกมได้ ทั้งๆ ที่ควรจะปิดเกมไปตั้งนานแล้ว

 

โดยเฉพาะในเกมล่าสุดกับทีมเดอะ แฮมเมอร์ส ที่น่าจะยิงฝังเป็น 3-1 ได้เมื่อได้จุดโทษ แต่ปรากฏว่า บูกาโย ซากา เจอเหตุการณ์ชวนฝันร้ายเหมือนในนัดชิงฟุตบอลยูโร 2020 เมื่อสังหารพลาด และในไม่กี่อึดใจต่อมา จาร์ร็อด โบเวน ก็ยิงประตูตีเสมอให้เวสต์แฮมแทน

 

แน่นอนว่าการขาดหนึ่งในเสาหลักในเกมรับอย่าง วิลเลียม ซาลิบา ซึ่งมีอาการบาดเจ็บและมีแนวโน้มว่าอาจกลับมาช่วยทีมในช่วงที่เหลือของฤดูกาลไม่ได้อีกแล้ว มีผลอย่างมาก เพราะตัวทดแทนอย่าง ร็อบ โฮลดิง นั้นชัดเจนว่าระดับฝีเท้าไม่สามารถแทนที่กันได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์

 

รวมถึงการขาด โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก แบ็กซ้ายที่เป็นคีย์แมนในระบบการเล่นของทีมในฐานะ Inverted Fullback ที่ขยับเข้ามาทำเกมตรงกลาง ซึ่งก็ยังไม่แน่ใจว่าจะกลับมาลงสนามได้ไหวไหมในเกมคืนนี้ ก็มีส่วนด้วยเช่นกัน

 

อาร์เซนอล

 

แต่สิ่งที่อาร์เตตาต้องคิดมากกว่าคือ การทำให้ทีมกลับมามี ‘สมาธิ’ กับตัวเองอีกครั้งเป็นลำดับแรก

 

และต้องพยายามทำให้ลูกทีมทุกคน ‘เชื่อ’ อีกครั้งว่า พวกเขาดีและแกร่งพอสำหรับการที่จะแลกหมัดกับทีมจอมโรคจิตอย่างแมนฯ ซิตี้ ไปตลอดฤดูกาลที่เหลือนี้

 

คริส ซัตตัน อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษที่เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับแบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ในฤดูกาล 1994/95 ให้ความเห็นว่า ปัญหาที่อาร์เซนอลเผชิญนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะกับทีมที่ยังอายุน้อย ประสบการณ์ไม่มาก

 

ในฤดูกาลที่ได้แชมป์นั้น แบล็กเบิร์นที่เบียดกับแมนฯ ยูไนเต็ด ก็เคยพลาดท่าพ่ายต่อแมนฯ ซิตี้ (ในยุคที่ยังไม่มีทุนจากตะวันออกกลางมาชุบชีวิตสโมสร) คารังอีวูดพาร์ก 2-3 ในช่วงเดือนเมษายนเหมือนกัน ซึ่งซัตตันบอกว่า “มันเป็นครั้งแรกที่พวกเราเริ่มจะวิตก”

 

อย่างไรก็ดี ไม่มีทีมฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จทีมไหนที่ไม่ต้องเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ทุกทีมล้วนต้องเจอกับบทพิสูจน์ขนาดและความแข็งแกร่งของหัวใจด้วยกันทั้งนั้น

 

สองเกมต่อจากนี้จะเป็นบทพิสูจน์ที่แท้จริงสำหรับอาร์เซนอล ซึ่งให้ดีที่สุดคือการเก็บชัยชนะให้ได้ทั้งกับเซาแธมป์ตัน เพื่อหยุดวิกฤต ลดความกดดันตัวเอง และโยนความกดดันให้กับคู่แข่งบ้าง และแมนฯ ซิตี้ เพื่อประกาศไปเลยว่าพวกเขาจะขอคว้าแชมป์ให้ได้ในฤดูกาลนี้

 

อาร์เซนอล

 

แต่ขั้นต่ำที่สุดคือ การชนะเซาแธมป์ตันให้ได้ก่อน แล้วอย่างน้อยในเกมบุกไปวัดกับซิตี้ ถ้าไม่แพ้ก็น่าจะพอทำให้มีกำลังใจสำหรับการต่อสู้ในช่วงที่เหลือของฤดูกาลที่ต้องบอกว่า โปรแกรมของพวกเขาก็ไม่เบาเหมือนกัน มีทั้งไบรท์ตัน, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และเชลซี รออยู่ด้วย

 

นั่นไม่แปลกที่อาร์เตตาเองพยายามที่จะพูดทุกอย่างในเชิงบวกก่อนเกม เพื่อคลายกระแสความกดดัน

 

พร้อมกับประกาศออกไมค์ในการขอ ‘ตัวช่วยพิเศษ’ ที่ทีมต้องการอย่างมากในเวลานี้

 

สิ่งนั้นคือพลังจากเหล่า ‘กูนเนอร์ส’ ในเอมิเรตส์สเตเดียม ที่ถึงเวลาจะต้องช่วยสะกิดทีมให้ตื่นอีกครั้ง

 

It’s now or never

 

ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ ก็อาจไม่มีอีกแล้ว

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising