×

APEC 2022 Thailand สำคัญอย่างไร? ไทยจะได้อะไรในฐานะเจ้าภาพการประชุม?

13.10.2022
  • LOADING...
APEC 2022 Thailand

ศาสตราจารย์ ดร.ปิติ ศรีแสงนาม คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้ การประชุม APEC 2022 Thailand สำคัญต่อคนไทย และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของระบบเศรษฐกิจโลก แนะคนไทยทุกภาคส่วนร่วมสร้างความประทับใจในฐานะเจ้าภาพ

 

APEC (Asia-Pacific Economic Cooperation) เป็นเวทีการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่มีความสำคัญระดับโลก มีเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริมการเปิดเสรีการค้าการลงทุน ความร่วมมือในด้านมิติสังคมและการพัฒนาด้านอื่นๆ ซึ่งในปี 2022 ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม APEC ตลอดทั้งปี รวมถึงการประชุมสุดยอดผู้นำ APEC ที่กำลังจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 พฤศจิกายนนี้  

 

ในวาระสำคัญเช่นนี้ ศาสตราจารย์ ดร.ปิติ ศรีแสงนาม คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เขียนบทความสะท้อนความหมายและความสำคัญของ APEC 2022 Thailand ที่คนไทยควรรู้เพื่อร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดี เพราะนี่คือจุดเปลี่ยนของระบบเศรษฐกิจโลกและประเทศไทย 

 

APEC คือความร่วมมือของ 21 เขตเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก 

 

ปี 2022 ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นประธานและเจ้าภาพการประชุมสุดยอดผู้นำ APEC และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตลอดทั้งปี มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของระบบเศรษฐกิจโลก ทำไมเราถึงสามารถกล่าวเช่นนี้ได้ ผู้เขียนคิดว่าเป็นเพราะอย่างน้อย 2 เหตุผลด้วยกัน

 

เหตุผลส่วนแรก APEC 2022 Thailand คือความร่วมมือของ 21 เขตเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ประชากรของทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจรวมกันครอบคลุมประชากรมากกว่า 3 พันล้านคน หรือคิดเป็น 38% ของประชากรของทั้งโลก และนี้คือกลุ่มประชากรที่มีความน่าสนใจมากที่สุด เพราะตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา กำลังซื้อของประชากรกลุ่มนี้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง พิจารณาได้จากสัดส่วนของประชากรของ 21 เขตเศรษฐกิจที่ดำเนินชีวิตอยู่ใต้เส้นขีดความยากจนที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากที่มีสัดส่วนของคนจนสูงถึง 41.7% ของประชากรในปี 1990 ปัจจุบันตัวเลขนี้ลดต่ำลงเหลือเพียง 1.8% ของประชากร APEC เท่านั้นที่ยังอยู่ในสถานะยากจน 

 

APEC 2022 Thailand จึงเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีขนาดเศรษฐกิจรวมกันราว 2 ใน 3 ของมูลค่าผลผลิตมวลรวมของทั้งโลก หรือคิดเป็นตัวเงินกว่า 50 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมูลค่าการค้าระหว่าง 21 เขตเศรษฐกิจ ยังเทียบเท่ากับครึ่งหนึ่งของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศของทั้งโลก

 

ตลอดช่วงเวลากว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา จากปี 1990-2020 มูลค่าการลงทุนระหว่างประเทศภายในกลุ่มสมาชิก APEC เพิ่มขึ้นจาก 45.2% เป็น 67.9% นั่นแปลว่า 21 เขตเศรษฐกิจนี้คือผู้ลงทุนรายสำคัญที่ต่างก็ลงทุนภายกลุ่ม APEC ด้วยกันเอง ซึ่งการลงทุนที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องนี้ เป็นผลมาจากการที่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่าง APEC ที่เน้นสร้างความร่วมมือในการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกทางการค้า (Trade Facilitations: TFs) อาทิ การลด ละ เลิก มาตรการทางการค้าที่มิใช่มาตรการทางภาษี การสร้างความร่วมมือเพื่อให้พิธีการทางศุลกากรมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น ลดความซับซ้อนลง หรือการอำนวยความสะดวกให้นักธุรกิจ APEC ได้ทำให้ดัชนีความยากง่ายในการทำธุรกิจ (Ease of Doing Business: EoDB Index) เฉลี่ยของทั้งกลุ่มปรับตัวสูงขึ้นกว่า 11.3% 

 

APEC การประชุมที่ครอบคลุมเกือบทุกมิติในทางความร่วมมือทางเศรษฐกิจ 

 

ในภาพรวมแล้ว การประชุม APEC มีขอบเขตสารัตถะของการประชุมครอบคลุมเกือบจะทุกมิติในทางความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยอาจจำแนกออกได้เป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ 

 

  1. การอำนวยความสะดวกทางการค้า การลงทุน และการดำเนินธุรกิจ 
  2. การบูรณาการระบบเศรษฐกิจ และความเชื่อมโยงในมิติต่างๆ 
  3. การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยที่ทุกภาคส่วนได้รับประโยชน์ร่วมกัน (Inclusive) 
  4. การสร้างความร่วมมือเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศ และ 
  5. การพัฒนาเทคโนโลยี ดิจิทัล และการสร้างนวัตกรรม 

 

การประชุม APEC ส่งผลดีทันทีต่อเศรษฐกิจในประเทศไทย 

 

นอกจากผลการประชุมที่จะเป็นประโยชน์ในระยะยาวในการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจในกรอบที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ผลได้จากการประชุม APEC ที่เกิดขึ้นทันที โดยไม่ต้องรอการประชุมสุดยอดผู้นำ นั่นคือ ตลอดทั้งปีมีคณะของ 21 เขตเศรษฐกิจ APEC ในทุกระดับที่มาประชุมกันรวมแล้วกว่า 14 คลัสเตอร์ ตั้งแต่ เจ้าหน้าที่ จนถึงรัฐมนตรี และผู้นำของประเทศ รวมทั้งกองทัพสื่อ ได้เดินทางเข้ามาในประเทศ เข้ามาประชุม เข้ามาใช้บริการต่างๆ ทั้ง อาหาร โรงแรม การท่องเที่ยว อุตสาหกรรมของที่ระลึก ขนส่ง ภาคบริการ และภาคการผลิตของไทยก็ได้รับผลประโยชน์ไปแล้ว 

 

ลองนึกภาพว่าแต่ละประเทศที่เข้ามาประชุมมีคณะทำงานตั้งแต่ 10 คน จนถึงระดับผู้นำที่มีคณะทำงานหลักหลายร้อยคน ร่วมกับกองทัพนักข่าวอีกนับพัน ทั้งหมดคือกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น และช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจในประเทศไทยเกิดการขยายตัว และยังถือเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในเวทีโลกได้เป็นอย่างดี เพราะต้องอย่าลืมว่า โรงแรมทุกโรง อาหารทุกมื้อ ของที่ระลึกทุกชิ้น ภาคบริการเสริมที่เกี่ยวเนื่องกับการประชุม ล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือและความตั้งใจอย่างดีที่สุดของชาวไทย ที่จะนำเสนอต่อสายตาชาวโลก

 

APEC 2022 การประชุมแบบพบปะเจอตัวครั้งแรกในรอบหลายปี

 

เหตุผลส่วนที่สองที่ยิ่งขับให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่สำคัญนี้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น และยิ่งทำให้ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพมีความสำคัญอย่างยิ่งด้วย ก็เนื่องจากตลอด 4 ปีที่ผ่านมา การประชุม APEC มักจะเกิดอุปสรรคขึ้นเสมอๆ เริ่มตั้งแต่สหรัฐอเมริกาเริ่มต้นประกาศสงครามการค้ากับ 15 ประเทศที่สหรัฐอเมริกาขาดดุลการค้าด้วย โดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งสงครามการค้าในครั้งนี้ที่เริ่มต้นในปี 2018 ทำให้การประชุมสุดยอดผู้นำ APEC ที่ควรจะต้องหารือกันเพื่อสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจไม่สามารถบรรลุผลการประชุมร่วมกันและออกแถลงการณ์ร่วมกันได้ในปี 2018 ที่ประเทศปาปัวนิวกินีเป็นเจ้าภาพ ต่อเนื่องด้วยปี 2019 ที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองขึ้นในประเทศเจ้าภาพการประชุม นั่นคือ ประเทศชิลี ทำให้ในปี 2019 ไม่มีการประชุมสุดยอดผู้นำ APEC

 

จากนั้นทั่วทั้งโลกก็เผชิญกับวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ทำให้ในปี 2020 และ 2021 การประชุม APEC ไม่สามารถเกิดขึ้นได้แบบพบหน้าในที่ประชุม หากแต่ต้องใช้ระบบการประชุมทางไกล ซึ่งถึงแม้จะสามารถบรรลุเป้าหมาย สามารถออกวิสัยทัศน์ ‘ปุตราจายา 2040’ และแผนปฏิบัติการ ‘เอาทีรัว’ ได้ แต่สิ่งที่ทั่วโลกจับตามองมากกว่าการประชุมใน Plenary Session นั่นก็คือ Sideline Meetings ที่ผู้นำจะได้พบปะกันเป็นกลุ่มย่อยๆ เพื่อสร้างความร่วมมือ ความสัมพันธ์ที่เป็นพิเศษมากกว่าการประชุมหลัก รวมทั้งการพบปะสังสรรค์ แลกเปลี่ยนกันระหว่างผู้นำกับผู้นำ ระหว่างผู้นำประเทศกับผู้บริหารระดับสูงของภาคธุรกิจ ปรากฏการณ์เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างน้อยก็ 3 ปีแล้ว

 

ดังนั้นการประชุมที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี 2022 และการประชุมสุดยอดผู้นำที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2022 จึงเป็นการประชุมแบบพบปะ ถกแถลง เสวนาแบบเจอตัวเป็นครั้งแรกในรอบหลายๆ ปี ท่ามกลางระเบียบโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง ทั่วทั้งโลกกำลังต้องการความร่วมมือทางเศรษฐกิจยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา เพื่อฟื้นฟูห่วงโซ่มูลค่าระดับนานาชาติหลังการระบาดของโควิด ท่ามกลางปัญหาวิกฤตการณ์อาหาร วิกฤตการณ์พลังงาน สงครามการค้า สงครามเทคโนโลยี และความพยายามของบางชาติที่ต้องการใช้เครื่องมือทางเศรษฐกิจเป็นอาวุธในการกดดันประหัตประหารบางเขตเศรษฐกิจ

 

APEC การประชุมที่เกิดขึ้นในขณะที่ทั่วโลกกำลังต้องการความร่วมมือทางเศรษฐกิจในระดับสูงสุด

 

สถานการณ์ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ทำให้โลกต้องการความร่วมมือทางเศรษฐกิจในระดับสูงที่สุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพก็ได้เตรียมความพร้อม จัดการวาระการประชุม และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างเพียบพร้อมมาตั้งแต่ 2 ปีก่อนหน้า เพื่อให้การประชุมครั้งสำคัญนี้บรรลุผลดังที่ทุกคนต้องการ นั่นคือ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่มีความรับผิดชอบเพื่อให้เศรษฐกิจของทั้ง 21 เขต และของทั้งโลกพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น สร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างรับผิดชอบ สร้างสรรค์และยั่งยืน โดยมีการเตรียมการผลักดันเป้าหมายกรุงเทพฯ หรือ Bangkok’s Goals อันประกอบไปด้วย 4 เป้าหมาย ได้แก่ 

 

  1. ร่วมกันสร้างระบบการค้าและการลงทุนที่ยั่งยืน (Sustainable Trade and Investment) 
  2. ร่วมกันบริหารจัดการทรัพยากรและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน 
  3. ร่วมกันรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นเขตเศรษฐกิจผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ และ 
  4. ร่วมกันบริหารจัดการของเสียและขยะอย่างยั่งยืน 

 

ดังนั้นผู้นำที่ไม่มาเข้าร่วม หรือมาเข้าร่วมแต่กลับมาสร้างความแตกแยก แทนที่จะเดินหน้าสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรเรือนหลายพันล้านคน จึงเป็นผู้นำที่คนทั่วทั้งโลกคงต้องทบทวนพิจารณา 

 

และสำหรับทุกภาคส่วนที่ช่วยกันสนับสนุน ตั้งแต่ระดับนิสิตนักศึกษาที่มาช่วยงาน คนไทยทุกคนที่ร่วมเป็นเจ้าภาพ เจ้าหน้าที่และพนักงานในระดับต่างๆ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ไปจนกระทั่ง คณะทำงาน เจ้าหน้าที่ระดับสูง รัฐมนตรี และผู้นำเขตเศรษฐกิจ ทุกคนสมควรได้รับการยกย่องขอบคุณ ที่ทำให้ประเทศไทย และเศรษฐกิจของทั้งโลกอยู่ในสถานะที่ดีขึ้น ยั่งยืนขึ้น

 

ภาพ: Peerapon Boonyakiat / SOPA Images / LightRocket via Getty Images

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising