×

ออกแบบ ชุติมณฑน์ ตั้งใจจนถึงที่สุด จนกว่าจะหยุด ณ จุดสูงสุดของตัวเอง

19.12.2019
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

7 Mins. Read
  • ออกแบบรับบทเป็น จีน หญิงสาวที่ต้องการเคลียร์ของใส่ถุงดำ ทำบ้านใหม่ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า แต่แทนที่สิ่งของจะหายไป จีนกลับได้ความทรงจำระหว่างเธอกับคนรักเก่ากลับคืนมา ในหนังเรื่อง ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ 
  • ออกแบบเปลี่ยนตัวเองจนกลายเป็นจีนแบบสมบูรณ์ เพื่อการถ่ายทำ จนติดคาแรกเตอร์ของจีนกลับมาใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งที่ถ่ายทำจบไปแล้วหลายเดือน ซึ่งอาการนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วตั้งแต่ตอนที่เธอรับบทเป็น ลิน ในเรื่อง ฉลาดเกมส์โกง 
  • ออกแบบมักจะกดดันตัวเอง เพื่อแสดงออกมาให้ดีที่สุด จนเรามักจะเห็นภาพเธอร้องไห้ในกองถ่ายอยู่หลายครั้ง และใน ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไม่ให้เหลือเธอ เธอทำสถิติไว้มากถึง 8 ครั้ง 
  • ออกแบบเชื่อว่า การแสดงคือเครื่องมือพัฒนาและพาตัวเองออกไปจากคอมฟอร์ตโซน ที่เหมือนการปีนขึ้นตึกสูง เพื่อค้นหาตึกที่สูงกว่า เพื่อฝ่าฝันและปีนข้ามไปเรื่อยๆ 

“ถ้ามาคุยกันก่อนหน้านี้ พี่อาจจะได้คุยกับจีนมากกว่าออกแบบก็ได้นะ” 

 

ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง ทักทายเราด้วยคำพูดติดตลก ที่เราแอบสัมผัสได้ถึงความหนักหนาที่ซ่อนอยู่ใน ‘จีน’ ตัวละครล่าสุดของเธอในหนังเรื่อง ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ ที่กำลังจะเข้าฉายในวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2562 

 

ตลอดเวลาที่ THE STANDARD POP มีนัดพูดคุยกับออกแบบ ก่อนที่ ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ ผลงานล่าสุดของเธอกำลังจะเข้าฉายในวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เรามักจะได้ยินเสียงหัวเราะส่งผ่านมาจากมุมหนึ่ง ที่มีออกแบบเป็นส่วนหนึ่งในวงสนทนา ในอิริยาบถสบายๆ ไม่มีกล้องและไฟส่องไปถึง 

 

เมื่อได้อยู่ในระยะที่ใกล้ชิดกันมากขึ้น เราถึงสังเกตเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความจริงจัง ทัศนคติที่ต้องการทำทุกอย่างออกมาดีที่สุด ความเปราะบาง อ่อนไหว และน้ำตาที่พร้อมจะเอ่อออกมาเมื่อพูดถึงความผิดหวังที่ตัวเองไม่สามารถแสดงได้อย่างใจ 

 

เป็นบทสนทนาความยาว 1 ชั่วโมง ที่ทำให้เราเกิดความรู้สึกหลายอย่างปะปนกัน ทั้งชื่นชมในความเข้มแข็งของจิตใจ, เป็นห่วงความรู้สึกกดดันที่ทำให้เธอบอบช้ำขึ้นเรื่อยๆ และเอาใจช่วยให้ก้าวไปสู่จุดสูงสุดได้อย่างที่ตั้งใจ 

 

แต่ที่ชัดเจนที่สุดคือ ความรู้สึกเราเชื่อว่า ต่อให้เป็นบทที่ยากและท้าทายมากขนาดไหน เธอก็จะใช้ความทุ่มเทขั้นสูงสุด จนแสดงออกมาได้จริงๆ 

 

ออกแบบ ชุติมณฑน์

 

อะไรในตัวละคร จีน และหนังเรื่อง ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ ที่ทำให้รู้สึกว่าน่าสนใจและตกลงรับเล่นเรื่องนี้ 

ตอนแรกออกแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลย (หัวเราะ) ตอนที่แคสต์เรื่องนี้ พี่เต๋อ (นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ผู้กำกับ) มาเรียกไปเล่าเรื่องคร่าวๆ กับตัวละครจีนให้ฟังว่ามีนิสัยประมาณไหน แล้วก็บอกว่า ขอแคสต์ไว้ก่อนนะ ผมไม่รู้ว่าผมจะเอาใครดี เราก็ได้ค่ะพี่ แคสต์ก็แคสต์ (หัวเราะ) 

 

จนตอนที่ได้อ่านบทจริงๆ และเริ่มเวิร์กช็อปก่อนถ่ายทำ ก็รู้สึกว่าตัวละครนี้มีมิติมาก มีหลากหลายอารมณ์มากๆ ในคนเดียว ถ้าอ่านเผินๆ จะรู้สึกว่าเล่นง่าย แต่จริงๆ แล้วไม่ง่ายเลย จีนเป็นคนเก็บอะไรหลายอย่างไว้กับตัวเอง ทำให้ต้องเล่นกับความรู้สึกข้างในเยอะมากๆ 

 

เคยได้ยินมาว่าตัวจริงของออกแบบก็เป็นคนที่ชอบเก็บอะไรไว้กับตัวเองเหมือนกัน 

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เป็นแบบนั้นเลย น่าจะประมาณปี 2 ตอนนั้นรู้สึกว่า การพูดออกไปไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ก็อยากคลี่คลายด้วยตัวเอง อยากจัดการด้วยความคิดตัวเอง เพราะคิดว่าเคลียร์มากกว่าไปพูดกับคนอื่น 

 

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม อาจเพราะออกแบบไม่อยากให้คนรอบตัวรู้สึกว่าเราเป็นอะไร ก็เลยทำตัวให้ปกติที่สุด แล้วค่อยๆ ให้มันหายไปเอง ซึ่งมันก็จะหายไปเมื่อเราคลี่คลายได้ด้วยตัวเองจริงๆ แต่ก็จะมีอีกหลายเรื่องที่คลี่คลายไม่ได้ เราก็จะเก็บมันเอาไว้ แล้วมันก็อยู่กับเราต่อไป 

 

อย่างเช่น สมมติมีปัญหากับเพื่อน เราไม่พูดนะ แต่รู้สึกมากๆ แล้วก็คิดทุกคำพูดเลย โดยที่คนคนนั้นที่พูดกับเราเขายังไม่ทันคิดอะไรด้วยซ้ำ เขาจบไปแล้ว มีแต่เราที่กลับไปคิดแล้วคิดอีก จนต้องไปปรึกษาเพื่อนอีกคนหนึ่ง แล้วเพื่อนบอกว่า มันไม่ได้คิดอะไร ไม่ต้องคิดแทน ไม่ต้องคิดมาก ใจเย็นๆ เราก็ลองทำดู แล้ววันหนึ่งไปเปิดใจคุยกันตรงๆ กับเพื่อน ก็โอเค เพื่อนไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ (หัวเราะ) เป็นเราที่คิดมากไปเอง 

 

ตอนนี้เริ่มปลดล็อกได้มากขึ้น ออกแบบจะพยายามคุยตรงๆ กับคนที่รู้สึกว่า มีปัญหา เคลียร์กันไปเลยว่าคิดแบบนี้ใช่ไหม เราคิดอย่างนี้ มีอะไรที่สามารถบาลานซ์กันได้ไหม ส่วนมากก็เคลียร์ได้นะ ไม่ต้องเก็บอะไรไว้กับตัวทั้งหมด 

 

ออกแบบ ชุติมณฑน์ ออกแบบ ชุติมณฑน์

 

ได้ยินมาว่า ออกแบบติดตัวละคร จีน อยู่นานพอสมควร ทั้งที่ถ่ายทำจบไปนานแล้ว 

ออกแบบเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ตอนเล่น ฉลาดเกมส์โกง แล้ว ออกแบบก็ติดตัวละคร ลิน มา 4-5 เดือนเลยนะ ยิ่งช่วงที่อยู่กับพวกนักแสดงด้วยกัน อย่างอุ้ม (อิษยา ฮอสุวรรณ) เจมส์ (ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ) ไปต่างประเทศ ไปสัมภาษณ์ด้วยกัน เรื่องที่คุยก็มีเรื่องหนัง ทำอะไรแบบเดิม อยู่กับคนเดิม เราก็ยังเป็น รินลดา นิลเทพ ทั้งที่เรื่องมันจบไปแล้ว 

 

อุ้มก็จะบอกตลอดว่า ทำไมถึงยังไม่ออกจากตัวละคร แกยังเหมือนลินอยู่เลย หยุดพูดเหมือนลินเดี๋ยวนี้นะ (หัวเราะ) ซึ่งเราไม่รู้ตัวเลย แต่พอผ่านช่วงนั้นสักระยะ ได้ใช้ชีวิตของตัวเอง ได้ออกไปเที่ยวกับครอบครัว หรือได้ออกไปซ่ากับเพื่อน ก็กลับมาเป็นตัวเองได้ 

 

ล่าสุดคือการเป็น จีน ใน ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ ก็ติดตัวละครถึงขั้นที่ผู้จัดการของออกแบบต้องบอกว่า “ไปเอาตัวละครออกเดี๋ยวนี้ ไม่มีความรู้สึกว่าเป็นน้องเลย” ซึ่งพี่เขาอายุ 32 ปีแล้ว การที่เขาบอกว่า ออกแบบเหมือนเพื่อน คือ ฮ้าาา (ลากเสียง) มาก แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเอาออกได้อย่างไร เพราะตอนนั้นคิดอะไร ทำอะไร ไม่ว่าทุกคนจะแฮปปี้ มีความสุขแค่ไหน เราก็ยังเป็นจีนอยู่ 

 

หลังจากนั้นก็ได้ทำงานอื่นๆ ได้อ่านหนังสือ ก็ดีขึ้นนิดหนึ่ง แต่ยังไม่ทั้งหมด จนเพิ่งได้ไปทริปกับเพื่อนที่เกาหลี อยู่แค่กับเพื่อน ไม่ได้คิดเรื่องงาน ไม่ต้องคิดอะไรเลย ก็กลับมาเป็นตัวเองได้ตามปกติ ไม่อย่างนั้นวันนี้อาจจะเป็นจีนมาสัมภาษณ์แทนออกแบบก็ได้ แล้วออกแบบติดตัวละครตลอดเวลา ไม่ว่าจะเล่นเรื่องอะไรก็ตาม 

 

ออกแบบ ชุติมณฑน์ ออกแบบ ชุติมณฑน์

 

เหมือนเป็นปัญหาที่นักแสดงหลายคนที่ใช้ Method Acting เป็นเหมือนกันคือ เข้าไปในตัวละครลึกเกินไป จนออกมาไม่ได้ 

ตอนเล่นเป็น จีน ใน ฮาวทูทิ้งฯ ออกแบบไม่ได้ใช้ Method Acting แต่ใช้ระสะ (Rasa) เป็นอีกศาสตร์การแสดงหนึ่งที่ออกแบบไปเรียนเสริมมา เพราะว่าตอนเวิร์กช็อปเราไม่มีแอ็กติ้งโค้ช ก็เลยบอกพี่เต๋อว่า ออกแบบขอเอาระสะมาทำกับตัวละคร จีน นะ 

 

พี่เต๋อก็บอกว่า “ถ้าไปทำแล้วมันจะไม่พังใช่ไหมคุณ” (หัวเราะ) เขากลัวว่าทำแล้วตัวละครจะเพี้ยนไปหรือเปล่า แต่ขอลองทำก่อน เชื่อว่าเรากลับมาได้ แล้วก็ลองไปเข้าคลาสที่เป็นกลุ่ม ลองดูระดับอารมณ์ ระดับความคิดหลายๆ อย่าง แต่เอาจริงๆ ก็ไม่ได้เอาตัวละคร จีน ไปทำใช้ในคลาสขนาดนั้นนะ 

 

เป็นการกลับมาคุยกับพี่เต๋อตอนเวิร์กช็อปมากกว่าว่าแก่นความคิดตัวละครควรเป็นแบบไหน อย่างนี้ใช่หรือเปล่า บางอย่างออกแบบไม่เคยไปถึงจุดนั้น แชร์ประสบการณ์ได้ไหม น้องไม่เข้าใจจริงๆ 

 

พี่เต๋อก็จะละเอียดมาก “เออคุณ ถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้มันควรจะเป็น 1 2 3 4 แบบนี้นะ” แล้วเราเวิร์กช็อปกับพี่เต๋อแทบทุกวันตลอด 1 เดือนก่อนเปิดกล้อง แล้วก็ต้องเวิร์กช็อปกับนักแสดงคนอื่นอีก พอเปิดกล้องวันแรก ก็เป็นตัวละครไปเลย  

 

เริ่มกลายเป็น จีน จนเอาตัวเองออกมาไม่ได้ตั้งแต่ตอนนั้นเลยหรือเปล่า 

ไม่แน่ใจเวลาจริงๆ ว่าเป็นตั้งแต่ตอนไหน แต่พอทำไปทุกวัน เราค่อยๆ เรียนรู้คนหนึ่งใหม่ โดยที่เราไม่ได้พยายามเป็นเขานะ แต่เหมือนมันค่อยๆ ปรับความคิดเรา พอเราคิดเป็นเขา เราก็กลายเป็นเขาไปเลย แปลกดี 

 

แล้วเราก็จะอยู่แบบนั้นไปตลอด ไม่ออกจากตัวละครเลยนะ ไม่ว่าจะตอนถ่ายหรือตอนไหน เพราะตอนถ่ายทำเราเข้มข้นกันมาก ถ่ายเสร็จตีสอง ตีสาม พรุ่งนี้ตื่นมาถ่ายอีกแล้ว เลยรู้สึกว่าไม่ต้องคัดออกหรอก นอนพร้อมกันไปเลย แล้วก็ตื่นมาถ่าย 

 

เวลาออกจากตัวละครได้แล้ว ยังมีความคิดหรืออะไรบางอย่างในตัวละครทั้งหมดที่เล่นมาหลงเหลือติดอยู่ในตัวเราบ้างไหม 

มีมายด์เซตบางอย่างของตัวละครที่รู้สึกว่าดี และน่าเอามาใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ตัวละครลินที่มีการจัดระเบียบความแบบ 1 2 3 4 เราก็เอาความคิดนั้นมาใช้ในการจัดระเบียบบการทำงานหรือใช้ชีวิตของตัวเอง พรุ่งนี้ต้องทำอะไรบ้าง แต่จะไม่ได้ฟิกซ์ขนาดนั้น เพื่อไม่ให้กดดันตัวเองเกินไป 

 

ส่วนจีนก็มีความรู้สึกว่า สิ่งที่เป็นอยู่ไม่โอเค และอยากมีชีวิตใหม่ ก็พยายามรื้อทุกอย่างแล้วทำใหม่ตามความคิดของตัวเองโดยที่ไม่สนใจอะไรเลย แต่ในสถานการณ์นั้นของจีน จะมีเหตุการณ์ สภาพแวดล้อมต่างๆ ในตัวเขา ตั้งแต่แบ็กกราวด์ถึงปัจจุบันที่ต้องไปดูในหนัง เราสามารถเอาความคิดที่ดีตรงนั้นมาใช้ต่อได้

 

ออกแบบ ชุติมณฑน์ ออกแบบ ชุติมณฑน์

 

เวลาดูเบื้องหลังการถ่ายทำจะเห็นว่าออกแบบเป็นคนที่เครียด กดดัน และมักจะร้องไห้กลางกองถ่ายอยู่ตลอด 

ออกแบบเป็นคนจริงจังและกดดันตัวเองมากๆ เวลาทำงาน อย่างเรื่องนี้ พี่เต๋อจะชอบบอกว่า ออกแบบต้องการทุกเทกที่ดีที่สุด ซึ่งเราก็หวังให้เป็นอย่างนั้น เพราะไม่อยากเป็นตัวถ่วงกอง อยากให้ทุกอย่างออกมาดีจริงๆ สมกับการที่ทุกคนรอคอยหนังเรื่องที่ 2 ของออกแบบในไทย 

 

แล้วก็ด้วยความที่ทุกคนทำงานด้วยแพสชัน คนทั้งกองถ่ายนี้ พี่ๆ ทุกคนดูแล ดีมากๆ ไม่ว่าใครก็ตาม รวมไปถึงพี่ๆ ช่างไฟเลย ทุกคนตั้งใจทำงานมากๆ มากจริงๆ มากจนไม่รู้จะมากอย่างไรแล้ว ก็เลยยิ่งอยากทุ่มเทให้ทุกอย่างออกมาดี แล้วพอรู้สึกว่าเทกไหนที่ตัวเองสามารถทำได้มากกว่านี้อีก แต่ร่างกายเราไม่ไปด้วยมันก็เสียใจ

 

พอยิ่งหวังก็ยิ่งเสียใจ และพอเสียใจเราก็ยิ่งแสดงไม่ได้ ความตลกของนักแสดงอยู่ตรงนี้ ยิ่งกดดันตัวเองมากๆ แต่ถ้าร่างกายไม่พร้อม ณ วันถ่ายทำมันก็ไม่ได้ เช่น ตัวละครต้องร้องไห้ แต่เมื่อคืนนอนไม่พอ หรือดื่มน้ำไม่พอ ร่างกายมันตัดเลยนะ ไม่สามารถร้องได้จำนวนมากเท่าที่ต้องการ ต่อให้เรารู้สึกมากขนาดไหนก็ตาม

 

ออกแบบ ชุติมณฑน์ ออกแบบ ชุติมณฑน์

 

มีซีนไหนที่รู้สึกว่าไม่ว่าจะพยายามเท่าไร ก็ไม่สามารถทำได้จริงๆ บ้างไหม 

มี (ตอบทันที) พังมากเลยวันนั้น เป็นซีนที่เดินกลับออกมาจากบ้านพี่ซันนี่ (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ รับบทเป็น เอ็ม คนรักเก่าที่จีนต้องเอาของไปคืน) ในการเจอกันครั้งแรก โห ทุกคนต้องรอดูซีนนี้กันแน่เลย (หัวเราะ) 

 

ทำเท่าไรก็ไม่ได้ พอถ่ายไปเรื่อยๆ ไม่ไหว ต้องบอกพี่ซีดี (โปรดิวเซอร์) ว่าช่วยหน่อย ไม่ไหวแล้ว พี่ซีดีต้องเดินพาไปหลังตึกไกลๆ ตอนนั้นพี่ซันนี่ก็บอกว่า เนี่ย ร้องไห้ พี่เต๋อยังบอกว่า บ้า ร้องไห้ทำไม ไม่จริง อยู่เลย (หัวเราะ) 

 

พอเดินไปไกลๆ พี่ซีดีก็บอกว่า เขาโอเคนะ ถ้าออกแบบอยากเทกซีนนี้ต่อ อยากเล่นต่อ อยากถ่ายทั้งวันก็ได้ ไม่ต้องคิดมาก เขาให้เวลา ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องกดดัน แต่เราก็เสียใจว่า ทำไมถึงเล่นไม่ได้สักที มันน่าเศร้ามากๆ คิดตอนนี้ยังเศร้าอยู่เลย  

 

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ทั้งที่รู้ตัวเองด้วยนะว่ามีเทกแรกที่ถ่าย เป็นเทกเดียวที่ทำได้ดีที่สุดแล้ว พี่เต๋อก็เห็นด้วยว่ามันดีที่สุด จนเขาปล่อยผ่าน เป็นออกแบบเองที่คิดต่อว่า พี่เต๋อแน่ใจว่ามันดีแล้วจริงๆ ใช่ไหม เราเฮิร์ตมากๆ กับการที่เราทำให้คุณไม่ได้ 

 

พี่เต๋อก็ต้องย้ำว่า จริงๆ มันดีแล้ว ถ้าไม่ดีเขาไม่ปล่อยผ่านแน่ๆ เป็นเราเองนี่แหละที่ยังไม่ผ่านจุดที่คิดว่าเราทำไม่ได้สักที 

 

หลังจากนั้นกอบกู้ความรู้สึกที่พังมากๆ เมื่อไม่สามารถแสดงได้อย่างที่ใจต้องการได้อย่างไร 

จากพี่ๆ เลยค่ะ พี่เต๋อก็ย้ำว่า “ผมได้แล้วล่ะ จริงๆ ได้ตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว แค่อยากเผื่อไว้ แต่สุดท้ายคุณเชื่อผมสิว่า คุณทำให้ดีทุกเทกยังไง ผมก็เอาไปตัดไม่ได้อยู่ดี เหมือนซีนหนึ่งที่ดีทุกเทกเลย ผมแม่งไม่รู้ว่าจะเอาเทกไหนมาตัดดีโว้ย (หัวเราะ)” บางทีพี่ซีดีก็ต้องมาช่วยเบรกว่าพอได้แล้ว ถ้าดีแล้วก็ไปต่อ จะอยู่กับที่ทำไม 

 

ออกแบบ ชุติมณฑน์

 

ถ้าไม่นับเรื่องการแสดง ออกแบบเป็นคนกดดันตัวเองกับการใช้ชีวิตหรือการทำงานอื่นๆ แบบนี้ด้วยหรือเปล่า 

ไม่ขนาดนี้นะคะ ชีวิตส่วนตัวก็จะไม่ค่อยให้ที่บ้านเป็นห่วงมากเท่าไร จะเก็บแล้วก็เอามาบ่นๆ กับเพื่อนมากกว่า เพราะอยากให้เขารู้สึกว่า ถ้าเขาไม่อยู่ เราดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องเป็นห่วง  

 

ถ้าเป็นเรื่องงานก็จะซีเรียสขึ้นมา แต่ไม่กดดันขนาดนั้น อย่างเดินแบบก็ไม่เหมือนกัน เพราะทำได้เทกเดียว ครั้งเดียว เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ได้กดดัน แต่ตื่นเต้น ลุ้น ขนาดเดินมา 8 ปี ก็ยังต้องไหว้พระขอเจ้าที่เจ้าทางตลอดว่า อย่าให้เกิดอะไรขึ้นนะคะ (หัวเราะ) 

 

เท่าที่คุยกันมาจะเห็นว่า การแสดงเป็นงานที่ทำให้ออกแบบเครียด กดดัน ร้องไห้หลายครั้ง เจอปัญหามากมาย แต่ก็ยังรู้สึกได้ว่า ทุกครั้งที่พูดถึงการแสดง ออกแบบจะพูดด้วยความสุขอยู่เสมอ 

สำหรับออกแบบบไม่ใช่แค่ความสุขด้วยนะ การแสดงคือการได้พัฒนาตัวเอง ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพราะทุกตัวละครไม่เหมือนกันเลย ทำให้เราได้เรียนรู้ผู้คนอย่างจริงจังจากแก่นความคิดของเขา ทุกครั้งที่รับบทใหม่ เราจะได้แนวคิดของตัวละครในการคิด ในการตัดสินใจ ในการแก้ปัญหา เป็นทางเลือกเพิ่มให้เรามากขึ้นเรื่อยๆ กับทุกตัวละครที่เราเล่นมา 

 

แล้วก็ไม่ใช่แค่จากตัวละครที่เราเล่น เรายังเรียนรู้จากตัวละครของคนอื่นได้ด้วย เช่น ตัวละคร เอ็ม ของพี่ซันนี่ ก็ทำให้เราได้เรียนรู้คนคนหนึ่งใหม่เลยว่า การที่เขาคิดแบบนี้ แล้วเราคิดแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องผิด เพียงแต่เราต้องเคารพความคิดของเขา เพราะเราไม่สามารถตัดสินใครได้ อยู่ที่ว่าจะจัดการความคิดอย่างไรให้บาลานซ์ที่สุด สามารถพูดคุย เคลียร์ปัญหาร่วมกันไปให้ได้ 

 

ออกแบบ ชุติมณฑน์

 

นอกจากความสุข การพัฒนาตัวเอง มีอะไรอีกบ้างที่ทำให้ออกแบบรู้สึกคุ้มค่าที่เอาตัวเองเข้ามาเป็นนักแสดง 

การได้ก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนของตัวเองเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ได้รับบทใหม่ จะมีกำแพงอันหนึ่งเป็นขีดจำกัด หรืออะไรบางอย่างกั้นขึ้นมาก่อน แล้วถ้าเราสามารถพุ่งชนแล้วทำให้กำแพงแตกออกได้ มันจะพาเราไปสู่พื้นที่ใหม่ ที่สักพักมันจะเป็นคอมฟอร์ตโซน พาเราไปเจอกำแพงอันใหม่ให้เราทำลายต่อไปเรื่อยๆ เหมือนการปีนข้ามตึกสูงหนึ่งตึก ที่เราอยากปีนขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะอยากรู้ว่าวิว ณ จุดสูงสุดมันจะสวยแค่ไหน 

 

กลัวไหมว่า สุดท้ายแล้วเราจะไม่มีวันค้นพบจุดสูงสุด เพราะเมื่อไรก็ตามที่เราไปถึงยอดตึก เราจะพบว่า มันมีตึกที่สูงกว่าให้เราปีนขึ้นไปไม่มีวันจบสิ้น 

ไม่กลัวค่ะ เพราะอย่างน้อยเราได้ปีนไปถึงจุดที่สูงสุดของเราแล้ว จุดนั้นไม่ต้องสูงที่สุดในโลก หรือสูงที่สุดของวงการก็ได้ เพราะสุดท้ายไม่ว่าเราจะหยุดที่ตรงไหน มันจะเป็นจุดที่สูงสุดของเราเสมอ ถ้าเราตั้งใจทำมันมากพอ 

 

ขอบคุณเสื้อผ้าจาก Chanel และสถานที่ บ้านวันชาติ โฮสเทล 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล 

FYI
  • บทบาทที่ออกแบบอยากเล่นมากที่สุดคือ บทในภาพยนตร์เรื่อง Split ที่ เจมส์ แม็กอะวอย ต้องเล่นเป็นคนที่มี 23 บุคลิกในคนเดียว 
  • การตัดผมสั้นเพื่อรับบท จีน ในเรื่อง ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ คือการตัดผมสั้นครั้งแรกในรอบ 7 ปีของออกแบบ 
  • ใน ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ ออกแบบถูกสั่งเทกมากที่สุดประมาณ 20 ครั้ง เป็นฉากที่ทะเลาะกับแม่ (อุ๋ม-อาภาศิริ นิติพน) 
  • ออกแบบต้องออกไปร้องไห้ในกองถ่ายมากถึง 8 ครั้ง จากคิวถ่ายของออกแบบทั้งหมด 12 คิว 
  • ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ เข้าฉายวันที่ 26 ธันวาคม 2562 
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising