×

ราชกิจจาฯ ประกาศขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ มีผล 1 ม.ค. ภูเก็ตสูงสุด 370 บาท 3 จังหวัดชายแดนใต้ต่ำสุด 330 บาท

โดย THE STANDARD TEAM
31.12.2023
  • LOADING...

เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ 12) มี ไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ประธานกรรมการค่าจ้าง เป็นผู้ลงนาม ความว่า ด้วยคณะกรรมการค่าจ้างได้มีการประชุมศึกษาและพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับอยู่ ประกอบกับข้อเท็จจริงอื่นตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2566 และมีมติเห็นชอบให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพื่อใช้บังคับแก่นายจ้างและลูกจ้างทุกคน 

 

ทั้งนี้ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 79 (3) และมาตรา 88 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2551 คณะกรรมการค่าจ้างจึงออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้

 

  1. ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ 11) ลงวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2565

 

  1. ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 370 บาท ในท้องที่จังหวัดภูเก็ต

 

  1. ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 363 บาท ในท้องที่กรุงเทพมหานคร, จังหวัดนครปฐม, นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ และสมุทรสาคร

 

  1. ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 361 บาท ในท้องที่จังหวัดชลบุรี และระยอง

 

  1. ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 352 บาท ในท้องที่จังหวัด นครราชสีมา

 

  1. ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 351 บาท ในท้องที่จังหวัด สมุทรสงคราม

 

  1. ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 350 บาท ในท้องที่จังหวัดขอนแก่น, ฉะเชิงเทรา, เชียงใหม่, ปราจีนบุรี, พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี

 

  1. ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 349 บาท ในท้องที่จังหวัดลพบุรี

 

  1. ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 348 บาท ในท้องที่จังหวัดนครนายก สุพรรณบุรี และหนองคาย

 

  1. ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 347 บาท ในท้องที่จังหวัดกระบี่ และตราด

 

  1. ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 345 บาท ในท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี, จันทบุรี, เชียงราย, ตาก, นครพนม, บุรีรัมย์, ประจวบคีรีขันธ์, พังงา, พิษณุโลก, มุกดาหาร, สกลนคร, สงขลา, สระแก้ว, สุราษฎร์ธานี และอุบลราชธานี

 

  1. ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 344 บาท ในท้องที่จังหวัดชุมพร เพชรบุรี และสุรินทร์

 

  1. ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 343 บาท ในท้องที่จังหวัด นครสวรรค์ ยโสธร และลำพูน

 

  1. ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 342 บาท ในท้องที่จังหวัดกาฬสินธุ์, นครศรีธรรมราช, บึงกาฬ, เพชรบูรณ์ และร้อยเอ็ด

 

  1. ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 341 บาท ในท้องที่จังหวัดชัยนาท, ชัยภูมิ, พัทลุง, สิงห์บุรี และอ่างทอง

 

  1. ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 340 บาท ในท้องที่จังหวัดกำแพงเพชร, พิจิตร, มหาสารคาม, แม่ฮ่องสอน, ระนอง, ราชบุรี, ลำปาง, เลย, ศรีสะเกษ, สตูล, สุโขทัย, หนองบัวลำภู, อำนาจเจริญ, อุดรธานี, อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี

 

  1. ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 338 บาท ในท้องที่จังหวัดตรัง, น่าน, พะเยา และแพร่

 

  1. ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 330 บาท ในท้องที่จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และยะลา

 

  1. เพื่อประโยชน์ตามข้อ 2 ถึงข้อ 18 คำว่า ‘วัน’ หมายถึง เวลาทำงานปกติของลูกจ้าง ซึ่งไม่เกินชั่วโมงทำงานดังต่อไปนี้ แม้นายจ้างจะให้ลูกจ้างทำงานน้อยกว่าเวลาทำงานปกติเพียงใดก็ตาม

 

  • 7 ชั่วโมง สำหรับงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้าง ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541
  • 8 ชั่วโมง สำหรับงานอื่นซึ่งไม่ใช่งานตาม (1)
  • ห้ามมิให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างเป็นเงินแก่ลูกจ้างน้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ

 

ทั้งนี้ การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำปีใหม่ 2567 ได้ปรับขึ้นวันละ 2-16 บาท และทำให้ค่าจ้างขั้นต่ำของประเทศไทยมีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 330 บาท ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นราธิวาส ปัตตานี และยะลา ไล่ขึ้นไปจนถึงมากที่สุดเป็นวันละ 370 บาท ที่จังหวัดภูเก็ต และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป

 

นายกฯ ​หนักใจขึ้นค่าแรงน้อย ไม่แฮปปี้

 

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวตอนหนึ่งถึงค่าแรงขั้นต่ำ ขณะพบสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลว่า ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา เรื่องค่าแรงขั้นต่ำเป็นเรื่องที่บั่นทอนจิตใจมากที่สุด 

 

 “เอาตรงๆ เลยนะ…เรื่องที่สะเทือนใจที่สุดคือเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ เป็นเรื่องของไตรภาคี ผมไม่ได้เสียใจที่มีคนกล่าวหาว่านายกฯ ทำอะไรไม่ได้ พวกคุณจบมาย้อนหลังไป 10 ปี ถ้าเงินเดือนคุณ 15,000 บาท นั่นหมายความว่าเงินเดือนคุณจะขึ้นเป็น 17,000 บาท ตลอดระยะเวลากว่า 9 ปี เพราะขึ้นแค่ 12% ทุกคนแฮปปี้หรือไม่”

 

ส่วนเหตุใดที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงปรับขึ้นค่าแรงได้นั้น นายกฯ กล่าวว่า สมัยก่อนกับสมัยนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไป ซึ่งไม่แน่ใจว่า 9 ปีที่แล้วไตรภาคีมีอำนาจกับการปรับขึ้นค่าแรงหรือไม่ แม้ว่าตนเองไม่สามารถทำอะไรได้ก็จะผลักดันต่อไป 

 

เศรษฐากล่าวอีกว่า เราอาจคุยในแต่ละสาขาอาชีพและให้แก้ไขกฎหมายหรือไม่ ซึ่งเรื่องแก้ไขกฎหมายเป็นวิธีคิดซึ่งสามารถคิดได้ พร้อมย้ำว่าการขึ้นค่าแรงอยากให้นึกถึงใจเขาใจเรา เช่น เรียนจบมา 9 ปี ได้เงินเดือนมา 30,000 บาท มาถึงตอนนี้ได้เงินเดือนแค่ 33,700 บาท พอใจหรือไม่

 

กระทรวงแรงงานเตรียมตั้งอนุกรรมการไตรภาคี ศึกษาเชิงลึกเกณฑ์ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 

 

ขณะที่ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ภายหลังถึงการนำเรื่องค่าแรงขั้นต่ำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้งว่า ตนได้มีการหารือและขออนุญาตนายกรัฐมนตรีว่า ในวันที่ 17 มกราคม 2567 คณะกรรมการไตรภาคีจะมีการประชุมอีกครั้ง พร้อมตั้งคณะอนุกรรมการไตรภาคีขึ้นมา เพื่อศึกษาลงไปในรายละเอียดถึงรายวิชาชีพ ระดับอำเภอ เทศบาล เนื่องจากหากมีการประกาศค่าแรงขั้นต่ำเป็นรายจังหวัด จะเป็นการสะท้อนภาพความจริงส่วนหนึ่ง และไม่เป็นจริงอีกหลายส่วน 

 

เช่น กรณีทั้งจังหวัด เขตเทศบาล บางอำเภอ มีสภาวะเศรษฐกิจที่ดี แต่เมื่อออกนอกพื้นที่อำเภอหรือเทศบาลเมืองจะเข้าสู่สังคมชนบท ซึ่งเศรษฐกิจอาจไม่ได้ดีเหมือนที่เราเห็นในตัวจังหวัด ฉะนั้น จะมีการตั้งอนุกรรมการลงศึกษาในรายละเอียด ซึ่งจะสามารถสะท้อนพื้นที่และสาขาวิชาชีพได้สูงกว่าปัจจุบันนี้เป็นรายจังหวัด 

 

ทั้งยังขอนายกรัฐมนตรีว่าจะมีการขอข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย, สภาพัฒน์, กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อนำมาเป็นองค์ประกอบในการพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งหลังจากที่คณะอนุกรรมการมีการประชุมพิจารณาแล้วเสร็จ จะนำเรื่องนี้เข้าสู่คณะกรรมการไตรภาคีชุดใหญ่ภายในเดือนมีนาคม 2567 เพื่อประกาศเป็นของขวัญวันปีใหม่ไทย ซึ่งก็คือในช่วงเทศกาลสงกรานต์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising