×

แอมเนสตี้ออกแถลงการณ์ หลังเกิดรัฐประหารในเมียนมา ชี้เป็นช่วงเวลาเลวร้ายสำหรับประชาชน

โดย THE STANDARD TEAM
01.02.2021
  • LOADING...
แอมเนสตี้ออกแถลงการณ์ หลังเกิดรัฐประหารในเมียนมา ชี้เป็นช่วงเวลาเลวร้ายสำหรับประชาชน

สืบเนื่องจากการจับกุม ออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ และบุคคลอื่นๆ ทางการเมืองหลายท่าน ท่ามกลางรายงานข่าวว่ามีการทำรัฐประหารในเมียนมา  

 

มิงยู ฮาห์ รองผู้อำนวยการภูมิภาคฝ่ายรณรงค์ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า การจับกุม ออง ซาน ซูจี, เจ้าหน้าที่ระดับสูง และนักการเมืองคนอื่นๆ เป็นเรื่องน่าตกใจอย่างยิ่ง ซึ่งหากไม่มีการตั้งข้อหาต่อผู้ถูกควบคุมตัวตามความผิดอาญาอันเป็นที่ยอมรับในกฎหมายระหว่างประเทศ จะต้องปล่อยตัวบุคคลเหล่านั้นโดยทันที  

 

“กองทัพเมียนมาต้องชี้แจงว่ามีการใช้ข้อกฎหมายใดในการควบคุมตัวพวกเขา ทั้งยังต้องประกันให้มีการเคารพสิทธิของผู้ถูกจับกุมอย่างเต็มที่ รวมทั้งไม่ให้มีการปฏิบัติที่โหดร้าย ให้พวกเขาสามารถติดต่อครอบครัวและเข้าถึงทนายความที่ตนเลือกได้ ต้องสามารถยืนยันว่าอยู่ในที่ใด และต้องได้รับการรักษาพยาบาล  

 

นับเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายสำหรับประชาชนในเมียนมา และจะยิ่งทำให้การปราบปรามและการลอยนวลพ้นผิดของกองทัพเลวร้ายยิ่งขึ้น การจับกุมนักกิจกรรมทางการเมืองและนักปกป้องสิทธิมนุษยชนพร้อมกันหลายๆ คน ส่งสัญญาณที่น่ากลัวว่ากองทัพจะไม่ยอมให้บุคคลแสดงความเห็นต่าง ท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในวันนี้   

 

การทำรัฐประหารและการปราบปรามครั้งก่อนในเมียนมาส่งผลให้เกิดความรุนแรงในวงกว้าง และการสังหารนอกกระบวนการยุติธรรมโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เราจึงขอเรียกร้องให้กองทัพใช้ความยับยั้งชั่งใจ ปฏิบัติตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมายโดยเร็วสุดเท่าที่จะเป็นไปได้   

 

อีกทั้งมีรายงานว่ามีการสั่งปิดกั้นการสื่อสาร ซึ่งการกระทำดังกล่าวยิ่งเป็นภัยคุกคามมากขึ้นต่อประชาชนในช่วงเวลาที่อ่อนไหว โดยเฉพาะในระหว่างการต่อสู้กับโรคระบาดในเมียนมา และในขณะที่ยังมีการทำสงครามในประเทศกับกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงต่อพลเรือนในทุกส่วนของประเทศ ดังนั้น ทางการจำเป็นต้องมีการเปิดให้บริการโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มที่อีกครั้งโดยทันที”

 

สำหรับ ออง ซาน ซูจี ผู้นำของรัฐในทางพฤตินัยของเมียนมา และเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนจากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ที่เป็นพรรครัฐบาล รวมทั้งผู้นำรัฐบาลระดับภูมิภาค ต่างถูกจับกุมตอนเช้าตรู่ในวันนี้ ทั้งยังมีรายงานการจับกุมแกนนำพรรคการเมืองกลุ่มชาติพันธุ์ และนักศึกษา รวมทั้งนักกิจกรรมและนักปกป้องสิทธิมนุษยชนคนสำคัญอีกด้วย   

 

ในช่วงสาย สถานีโทรทัศน์ของกองทัพระบุว่า มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 1 ปี โดยให้อยู่ภายใต้อำนาจการปกครองของ พล.อ.อาวุโส มินอ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด 

 

ก่อนหน้านี้มีรายงานความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่ของพรรค NLD กับตัวแทนของกองทัพ ก่อนการประชุมเป็นครั้งแรกของสมาชิกรัฐสภาที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งเข้ามาในวันนี้   

 

กองทัพและพรรคที่เป็นพันธมิตรด้วยกันอย่างพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (USDP) กล่าวหาว่ามีการทุจริตและประพฤติมิชอบของคณะกรรมการการเลือกตั้งในระหว่างการจัดเลือกตั้งวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งส่งผลให้พรรค NLD ได้รับที่นั่งมากขึ้นและเป็นเสียงส่วนใหญ่ในสภา ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 คณะกรรมการการเลือกตั้งออกมารับรองชัยชนะของ ออง ซาน ซูจี และพรรค NLD ในการเลือกตั้งทั่วไป โดยได้จำนวน ส.ส. 396 จากทั้งหมด 498 ที่นั่ง ในการเลือกตั้งทั้งสองสภา   

 

ระหว่างการจับกุมตอนเช้าตรู่ มีรายงานว่าทางการได้สั่งงดให้บริการอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ในหลายพื้นที่ของประเทศ รวมทั้งกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของประเทศ, นครย่างกุ้งที่เป็นเมืองใหญ่สุด รวมทั้งในรัฐฉานและคะฉิ่น และเขตมัณฑะเลย์และเขตสะกาย 

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising