วันนี้ (12 พฤษภาคม) ที่อาคารรัฐสภา สมชัย ศรีสุทธิยากร โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง (ฉบับที่…) พ.ศ. … รัฐสภา แถลงข่าวถึงผลการประชุมของคณะกรรมาธิการว่า ในสัปดาห์หน้าจะเป็นการประชุมนัดสุดท้าย โดยวันพุธที่ 18 พฤษภาคม จะมีการเชิญผู้แปรญัตติเข้ามา ส่วนวันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม จะเป็นการสรุปสุดท้ายก่อนส่งให้ ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา บรรจุเข้าระเบียบวาระ 2-3 ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นช่วงต้นเดือนมิถุนายน
ทั้งนี้ กรรมาธิการได้หารือเกี่ยวกับการนับคะแนนการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ได้ข้อสรุปว่า ให้เปิดช่องกระทรวงการต่างประเทศร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สามารถนับคะแนนนอกราชอาณาจักรได้ในประเทศที่มีความพร้อม และส่งเพียงแค่ผลนับคะแนนกลับมาที่ไทย ส่วนหลักฐานอื่นๆ สามารถส่งตามหลังมาได้ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาบัตรเลือกตั้งที่นำกลับมานับคะแนนที่ไทยไม่ทัน เหมือนอย่างการเลือกตั้งปี 2562 บัตรเลือกตั้งจากประเทศนิวซีแลนด์มาไม่ทัน ทำให้กลายเป็นบัตรเสีย
สมชัยยังกล่าวด้วยว่า ขณะที่ปัญหาการนับคะแนนที่มีวิธีปฏิบัติแตกต่างกันของกรรมการแต่ละหน่วย เช่น บางครั้งไม่อนุญาตให้ประชาชนที่มาสังเกตการณ์การนับคะแนนถ่ายภาพ ถ่ายคลิป หรือไลฟ์ กมธ. จึงเห็นว่า เพื่อความโปร่งใสจึงให้ประชาชนสามารถถ่ายภาพ ถ่ายคลิป หรือไลฟ์ขณะการนับคะแนน แต่ต้องไม่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการประจำหน่วย โดยได้เขียนเพิ่มเติมไว้ในกฎหมายให้เกิดความชัดเจน อยู่ในสายตาประชาชน และลดการโต้เถียงกัน นอกจากนี้ยังแก้ไขในกรณีเมื่อแต่ละหน่วยได้ผลคะแนนแล้วกำหนดให้ กกต. ประจำเขต นำผลคะแนนของรายหน่วยประกาศขึ้นเว็บไซต์ กกต.จังหวัด ภายใน 72 ชั่วโมงหลังปิดหีบ เพื่อให้ตรวจสอบได้ว่าได้คะแนนเท่าไร เพราะที่ผ่านมาเกิดปัญหาการหาคะแนนรายหน่วยยากมาก มีการโยนกันไปมาระหว่าง กกต.ส่วนกลาง กับ กกต.จังหวัด จึงถือว่าเป็นการออกแบบใหม่
นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีการลงมติในประเด็นที่สำคัญกรณีวิธีการคำนวณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ โดยเสียงส่วนใหญ่ของ กมธ. เห็นด้วยกับสูตร 100 หาร เห็นด้วย 32 เสียง ไม่เห็นด้วย 11 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อสิ้นสุดกระบวนการวาระ 3 ของรัฐสภาแล้ว จะไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้พิจารณาว่ากฎหมายลูกทั้งสองฉบับขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ สมชัยกล่าวว่าคงไม่ร้อง เพราะหากร้องก็จะทำให้กระบวนการล่าช้าออกไปอีกประมาณ 1 เดือน – 1 เดือนครึ่ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับท่าทีของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จะร้องศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ สมชัยกล่าวว่า ท่าทีของ ส.ว. ไม่ชัดเจน แต่น่าจะกังวลในเรื่องเทคนิคทางกฎหมาย เช่น มาตรา 93 และ 94 ที่เกี่ยวกับ ส.ส. พึงมี ยังคงอยู่
นอกจากนี้สมชัยยังชี้แจงกรณีลงมติไม่เห็นด้วยกับสูตรที่นำจำนวน 100 หาร ว่า ตนมาในนามของพรรคเสรีรวมไทย ซึ่งที่ผ่านมา ส.ส. ของพรรคคือ พล.ต.ท. วิษณุ ม่วงแพรศรี ส.ส. บัญชีรายชื่อ ได้ยื่นแปรญัตติให้สูตรคำนวณใช้แบบ 500 หาร ดังนั้นเมื่อตนมาในนามของพรรคนี้ก็ต้องยืนตามคำแปรญัตติ
ทั้งนี้ สำหรับมติไม่เห็นด้วย 11 เสียง ประกอบด้วย พรรคการเมือง 2 เสียง คือ สมชัย จากสัดส่วนพรรคเสรีรวมไทย และ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ส่วนที่เหลืออีก 9 เสียง เป็น ส.ว. ทั้งหมด ได้แก่ พล.ร.อ. พัลลภ ตมิศานนท์, กาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์, พล.อ. ยอดยุทธ บุญญาธิการ, สุวรรณี ศิริเวชชะพันธ์, วรารัตน์ อติแพทย์, ปิยฉัฏฐ์ วันเฉลิม, พล.อ. อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์, กิตติ วะสีนนท์ และ พล.อ.ต. เฉลิมชัย เครืองาม ส่วนงดออกเสียง 2 เสียง ได้แก่ สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธาน กมธ. และ ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ส.ว.