การตัดไม้ทำลายป่าในแอมะซอนเพิ่มขึ้นเกือบ 30% เลวร้ายสุดในรอบทศวรรษ

วานนี้ (18 พฤศจิกายน) รายงานจากสถาบันวิจัยอวกาศแห่งชาติบราซิล เปิดเผยว่า การตัดไม้ทำลายป่าในป่าแอมะซอนตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2018 ถึงเดือนกรกฎาคม ปี 2019 ครอบคลุมพื้นท่ีราว 9,762 ตารางกิโลเมตร หรือเพิ่มขึ้น 29.5% ในรอบ 12 เดือน ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในรอบทศวรรษ นับตั้งแต่ปี 2008

ฌาอีร์ โบลโซนารู ประธานาธิบดีบราซิล ตั้งคำถามถึงความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าว โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เขาเคยกล่าวหาว่า รายงานการตัดไม้ทำลายป่าของรัฐบาลฉบับก่อนหน้านี้ไม่เป็นความจริง จนเป็นเหตุให้ ริการ์โด กัลเบา อดีตผู้อำนวยการสถาบันวิจัยอวกาศแห่งชาติบราซิล จำใจลาออกจากตำแหน่ง

โบลโซนารูยังระบุว่า ภายหลังเบื้องหลังเหตุการณ์ไฟป่าทั้งหมดอาจเป็นฝีมือของกลุ่มเอ็นจีโอที่ต้องการดิสเครดิตการทำงานของรัฐบาลบราซิลภายใต้การนำของเขา

อย่างไรก็ตาม ริการ์โด ซาเยส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม จะเข้าพบผู้ว่าการภูมิภาคแอมะซอนในวันพฤหัสบดีนี้ (21 พฤศจิกายน) เพื่อหารือเกี่ยวกับการป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า พร้อมกับระบุว่า สาเหตุที่นำไปสู่การตัดไม้ทำลายป่ามาจากการลักลอบทำเหมืองผิดกฎหมาย การลักลอบค้าไม่ซุง และการบุกรุกยึดแย่งที่ดิน

ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ต่างแสดงความกังวลถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับป่าแอมะซอน ตั้งแต่โบลโซนารูเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีบราซิลในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เนื่องจากเขาสนับสนุนการผ่อนปรนกฎหมายเกี่ยวกับการอนุรักษ์ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ

นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมและเอ็นจีโอต่างมองว่า การผ่อนปรนกฎหมายดังกล่าวจะทำให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่าเพิ่มมากขึ้นอีกในท้ายที่สุด

ภาพ: Cassandra Cury / Shutterstock

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง: