×

AIS จัดเต็มแบบไม่มีกั๊ก จองซื้อ iPhone 13 สมาร์ทโฟนที่มีกล้องหลังดีที่สุด ตั้งแต่วันนี้ รับส่วนลดสูงสุด 20,000 บาท [Advertorial]

โดย THE STANDARD TEAM
02.10.2021
  • LOADING...
AIS

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • ความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดประการแรกคือ การเพิ่มความสามารถในการแสดงผลของหน้าจอแบบ Pro Motion ที่รองรับเฟรมเรตการแสดงผลสูงสุดที่ 120Hz เฉพาะรุ่น iPhone 13 Pro Max และ iPhone 13 Pro เพื่อช่วยเพิ่มความลื่นไหลเวลาที่เราใช้งานตัวเครื่อง
  • ไฮไลต์เด็ดสุดที่จะลืมพูดถึงไม่ได้เป็นอันขาดคือ การเพิ่มความสามารถในการถ่ายรูปและวิดีโอของกล้อง iPhone 13 ในทุกโมเดล จนถึงขั้นที่ในงานเปิดตัว Apple Event ทิม คุก ซีอีโอบริษัท เคลมว่า iPhone 13 และ iPhone 13 Pro นั้นมีกล้องหลัง 2 ตัว และ 3 ตัว ที่ดีที่สุดที่เคยมีมา
  • AIS พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษกับลูกค้าที่ใช้บริการหรือเปลี่ยนมาใช้บริการกับพวกเขาทุกคนและซื้อ iPhone 13 โดยให้ส่วนลดค่าเครื่องสูงสุดถึง 20,000 บาท มาพร้อมกับโปรผ่อน 0% นาน 10 เดือนเต็ม

สิ้นสุดการรอคอยเสียทีสำหรับสาวก Apple และผู้ใช้งาน iPhone ทุกคน เมื่อ Apple ได้เปิดให้ผู้ใช้งานในไทยเริ่มสั่งจอง iPhone 13 ในโมเดลที่ตัวเองต้องการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งต้องบอกเลยว่า ปีนี้ Apple ยังคงจัดเต็มเปิดตัว iPhone 13 สมาร์ทโฟนระดับแฟลกชิปของพวกเขา ออกมาพร้อมกันถึง 4 โมเดล

 

แต่ความพิเศษของ iPhone 13 ที่เปิดตัวในปีนี้มีอะไรบ้าง มีอะไรที่เปลี่ยนแปลง โดดเด่นไปจาก iPhone 12 เราขออาสาพาคุณมาทวนความจำกันแบบสรุปรวบรัดก่อนอีกสักครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะเลือก iPhone 13 ในโมเดลที่ตรงกับความต้องการ ถูกใจ และตอบโจทย์การใช้งานจริงได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด

 

iPhone 13 มาพร้อมกันให้เลือกถึง 4 โมเดล ประกอบด้วย

  1. iPhone 13 Pro Max
  2. iPhone 13 Pro 
  3. iPhone 13
  4. iPhone 13 Mini

 

AIS

 

ความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดประการแรกคือ การเพิ่มความสามารถในการแสดงผลของหน้าจอแบบ Pro Motion ที่รองรับเฟรมเรตการแสดงผลสูงสุดที่ 120Hz เฉพาะรุ่น iPhone 13 Pro Max และ iPhone 13 Pro เพื่อช่วยเพิ่มความลื่นไหลเวลาที่เราใช้งานตัวเครื่อง ช่วยให้การแสดงผลหน้าเว็บไซต์ หน้าฟีดส์โซเชียลมีเดียต่างๆ และการเล่นเกมสมูทมากที่สุด ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ Apple เพิ่มความสามารถนี้เข้ามาให้กับ iPhone

 

ชิปประมวลผลเปลี่ยนนมาใช้แบบ A15 Bionic โดยเป็นแบบ CPU แบบ 6-Core และ GPU แบบ 5-Core ใน iPhone 13 Pro Max และ iPhone 13 Pro และแบบ    CPU แบบ 6-Core และ GPU แบบ 4-Core ใน iPhone 13 และ iPhone 13 Mini เพื่อรีดศักยภาพการประมวลการทำงานของตัวเครื่อง การโหลดกราฟิกต่างๆ และการถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ ออกมาให้ทรงประสิทธิภาพมากที่สุด

 

ใครที่มีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่หมดเร็ว ไม่ครอบคลุมการใช้งานตลอดทั้งวัน Apple ก็ปรับเพิ่มความจุแบตเตอรี่ให้อึดขึ้นมากกว่าเดิมเมื่อเทียบกับโมเดลเดียวกันของ iPhone 12 โดย iPhone 13 Pro Max และ iPhone 13 สามารถใช้งานได้นานขึ้นกว่า iPhone 12 Pro Max และ iPhone 12 ที่ 2.30 ชั่วโมง 

 

ฝั่ง iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Mini สามารถใช้งานได้นานกว่า iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Mini ที่ 1.30 ชั่วโมง 

 

สำหรับความจุตัวเครื่อง คราวนี้ Apple จัดเต็มเอาให้จุใจกันไปข้าง เพราะใน iPhone 13 ทุกโมเดล ล้วนแล้วแต่มีการปรับเพิ่มขนาดความจุของตัวเครื่องทั้งหมด โดยที่ iPhone 13 Pro Max และ iPhone 13 Pro มีขนาดความจุใหม่เพิ่มขึ้นมาให้คือ 1TB ซึ่งเป็นขนาดความจุที่มากที่สุดเท่าที่ Apple เคยใส่มาให้ใน iPhone โดยที่ยังมีทางเลือกความจุอื่นๆ ให้เลือกอีก เช่น 128GB, 256GB และ 512GB

 

ส่วนใครที่ไม่ได้ชอบตัวเครื่อง iPhone ที่มีขนาดใหญ่แบบโมเดล Pro และยังชื่นชอบสีสันที่หลากหลายก็ไม่ต้องน้องใจไป เพราะ Apple ก็เพิ่มขนาดความจุใหม่มาให้ใน iPhone 13 และ iPhone 13 Mini คือ 512 GB (ที่เหลือคือ 128GB

และ 256GB) จากเดิมที่เริ่มต้นที่ 64GB และไม่มีขนาด 512GB ให้เลือก

 

แต่ไฮไลต์เด็ดสุดที่จะลืมพูดถึงไม่ได้เป็นอันขาดคือ การเพิ่มความสามารถในการถ่ายรูปและวิดีโอของกล้อง iPhone 13 ในทุกโมเดล จนถึงขั้นที่ในงานเปิดตัว Apple Event ทิม คุก ซีอีโอบริษัท เคลมว่า iPhone 13 และ iPhone 13 Pro นั้นมีกล้องหลัง 2 ตัว และ 3 ตัว ที่ดีที่สุดที่เคยมีมาตามลำดับ

 

โดยที่กล้องหลัง 3 ตัวใน iPhone 13 Pro Max และ iPhone 13 Pro มาพร้อมกับ 3 เลนส์คือ Tele (รูรับแสงขนาด ƒ/2.8), Wide (รูรับแสงขนาด ƒ/1.5) และ Ultra Wide (รูรับแสงขนาด ƒ/1.8) ที่ 12 ล้านพิกเซลเท่าๆ กัน มีรูรับแสงและเซนเซอร์ที่ใหญ่ขึ้น จึงช่วยให้สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อย ถ่ายภาพเวลากลางคืนได้คมชัดมากขึ้น ลด Noise บนภาพได้ดี แถมยังถ่ายภาพแบบโบเกห์ได้แม้ในสภาวะที่แสงจะน้อยแค่ไหนก็ตาม

 

ซึ่งเลนส์ Tele ยังช่วยให้ iPhone 13 Pro Max และ iPhone 13 Pro สามารถถ่ายภาพแบบมาโครได้ชัดที่ระดับ 2CM จากวัตถุเพื่อให้เก็บรายละเอียดต่างๆ ของวัตถุหรือส่ิงของนั้นๆ ได้ชัดเจน ใกล้ชิดกว่าเดิม (โมเดล iPhone 13 และ iPhone 13 Mini จะไม่มีเลนส์ Tele จึงไม่รอบฟีเจอร์การถ่ายแบบมาโคร)

 

ฝั่ง iPhone 13 และ iPhone 13 Mini แม้จะไม่มีเลนส์ Tele แต่ก็ยังมาพร้อมกับกล้องคู่ที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดเช่นเคย โดยมาพร้อมกับความละเอียดระดับ 12MP ทั้งเลนส์ Wide (รูรับแสงขนาด ƒ/1.6) และ Ultra Wide (รูรับแสงขนาด ƒ/2.4) จึงช่วยให้สามารถเก็บทุกโมเมนต์ในทุกๆ เวลา และทุกเหตุการณ์สำคัญได้อย่างเต็มอิ่มเช่นเคย แม้อยู่ในสภาวะแสงน้อย

 

ด้านดีไซน์เครื่อง ใน iPhone 13 และ iPhone 13 Mini จะมีให้เลือกมากถึง 5 สี คือ แดง (PRODUCT) RED, สตาร์ไลต์, มิดไนต์, น้ำเงิน และชมพู วัสดุกรอบตัวเครื่องเป็นแบบอะลูมิเนียม กระจกจอและกระจกหลัง (จอเคลือบ Ceramic Shield เพิ่มความทนทาน) ขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.1 และ 5.4 นิ้วตามลำดับ

 

ขณะที่ใน iPhone 13 Pro Max และ iPhone 13 Pro มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.7 และ 6.1 นิ้ว มีให้เลือกด้วยกันถึง 4 สี คือ ดำกราไฟต์, ทอง, เงิน, เซียร์ราบลู โดยวัสดุตัวเครื่องพรีเมียมขึ้นไปอีกขั้น เพราะใช้บอดี้ตัวเครื่องเป็นสเตนเลส กระจกจอเคลือบ Ceramic Shield เพิ่มความทนทาน และกระจกหลังธรรมดา

 

สนนราคาเริ่มต้นสำหรับ iPhone 13 Pro อยู่ที่ 38,900 บาท และ iPhone 13 Pro Max อยู่ที่ 42,900 บาท 

 

ส่วน iPhone 13 Mini อยู่ที่ 25,900 บาท และ iPhone 13 อยู่ที่ 29,900 บาท 

 

AIS

 

แต่สำหรับใครที่เป็นลูกค้า AIS หรือลูกค้าของโอเปอเรเตอร์ค่ายอื่นๆ ที่กำลังมองหาหรืออยากจะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนมาเป็น iPhone 13 ไม่ว่าจะเป็นโมเดลใดก็ตามอยู่พอดี อย่าเพิ่งรีบร้อนกดสั่งหรือด่วนตัดสินใจซื้อไปก่อน เพราะ AIS พร้อมจะมอบข้อเสนอสุดพิเศษกับลูกค้าที่ใช้บริการหรือเปลี่ยนมาใช้บริการกับพวกเขาทุกคน โดยลดค่าเครื่องสูงสุดถึง 20,000 บาท มาพร้อมกับโปรผ่อน 0% นาน 10 เดือนเต็ม แถมยังแลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 36% หรือผ่อน 0% นาน 40 เดือนได้

 

กรณีที่เป็นลูกค้าย้ายค่ายมา AIS ยังได้รับส่วนลดพิเศษด้วย 2,000 บาท (รวมอยู่ในส่วนลดสูงสุด 20,000 บาทแล้ว) รวมถึงรับสิทธิ์ดู Disney+ Hotstar ฟรี 12 เดือนเต็มแบบไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม โดยที่เมื่อ iPhone 13 รองรับการเชื่อมต่อ 5G จึงช่วยให้คุณเข้าถึงโลกการสื่อสารความเร็วสูงได้อย่างไร้ปัญหา AIS เลยใจปล้ำให้วงเงินในการซื้อแอปฯ และเกมที่คุณชื่นชอบ สูงสุด 2,400 บาท เมื่อสมัครแพ็กเกจ AIS 5G One Plan for iPhone 1,699 บาทขึ้นไป 

 

AIS

 

ไม่หยุดแค่เท่านี้ เพราะเมื่อซื้อ iPhone 13 กับ AIS วันนี้ เรายังจะได้รับสิทธิ์ส่วนลดสำหรับการใช้ซื้ออุปกรณ์เสริมจาก Apple โดยลดสูงสุด 34% (ตัวเครื่อง iPhone 13 จะไม่แถมอะแดปเตอร์ชาร์จตามนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของ Apple ถ้าได้รับสิทธิ์ซื้ออุปกรณ์เสริมก็สามารถนำมาใช้ซื้ออะแดปเตอร์ Fast Charging USB-C ได้เลย) 

 

AIS

 

และถ้าคุณตัดสินใจสั่งจอง iPhone 13 ล่วงหน้ากับ AIS พร้อมสมัครแพ็กเกจ AIS 5G One Plan for iPhone 899 บาท ก็ยังรับสิทธิ์การเป็นสมาชิกระดับ Serenade Emerald ได้ด้วย และยังได้รับบริการรับชมคอนเทนต์ AIS PLAY VR และ PLAY AR นานถึง 6 เดือนเต็ม

 

ส่วนแพ็กเกจราคา 1,199-1,699 บาท จะได้รับสิทธิ์ Serenade Gold พร้อมรับสิทธิ์ ‘Family Share’ ฟรีเบอร์เสริม ไม่เสียค่าบริการรายเดือน (ค่าโทรแชร์เบอร์หลัก) และรับชมคอนเทนต์ AIS PLAY VR และ PLAY AR นาน 12 เดือน โดยที่ตั้งแต่แพ็กเกจราคา 1,999 บาทขึ้นไป ยังได้รับสิทธิ์การเป็นสมาชิกระดับ Serenade Platinum 

 

ทั้งนี้ ในกรณีลูกค้าที่ซื้อ iPhone 13 ใหม่ทุกคนยังจะได้รับสิทธิ์ใช้บริการยอดฮิตของ Apple ไปฟรีๆ อีกมาก อาทิ ฟังเพลงผ่าน Apple Music ฟรี, รับ Apple TV+ นาน 3 เดือน, รับ iCloud นาน 3 เดือน และรับ YouTube Premium 4 เดือน 

 

AIS

 

นอกเหนือจากนี้ AIS ยังเปิดช่องทางให้คุณสามารถนำมือถือเครื่องเก่ารุ่นใดก็ได้มาแลกซื้อ iPhone 13 ใหม่ ทุกรุ่นกับ AIS SMART PAY โดยที่มีมูลค่ารับซื้อเพิ่มสูงสุด 2,350 บาท 

 

สุดท้ายนี้ ในกรณีที่เราสั่งซื้อ iPhone 13 ใหม่ ทุกรุ่นล่วงหน้า ผ่าน AIS Online Store เพียงใส่ Code ในตอนที่กดสั่งซื้อ ก็สามารถเลือกเดินทางมา Pick Up รับเครื่องด้วยมือของตัวเองแบบสดๆ ร้อนๆ ที่ Stadium One ทันทีที่ Apple และ AIS เริ่มส่งมอบสินค้า (ศึกษาขั้นตอนและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Online Store หรือเว็บไซต์ ais.th/iphone กรณีไม่สะดวกเดินทางมารับด้วยตัวเอง AIS ก็พร้อมจัดส่ง iPhone 13 ถึงมือคุณที่บ้านอย่างปลอดภัย) 

 

ภาพประกอบ: AIS / APPLE

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising