AIS เปิดแผนปีหน้า เดินกลยุทธ์ Cognitive Telco พร้อมผนึกพาร์ตเนอร์เพิ่มเติม ปูทางสู่ New S-Curve

ภายหลังการประกาศดีลรวมกิจการของ 2 ผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรม Telco อย่าง TRUE และ DTAC สปอตไลต์จึงพุ่งไปยัง AIS ทันทีว่าจะเดินเกมอย่างไรต่อจากนี้ เพื่อไม่ให้ตกชั้นผู้นำในอุตสาหกรรม เพราะเราอยู่ในยุคที่ “หากไม่ก้าว ก็เท่ากับถอยหลัง” 

ล่าสุด สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอแห่ง AIS เปิดมุมมองต่อดีลใหญ่ดังกล่าวผ่านรายการ The Secret Sauce ว่า ‘ไม่เซอร์ไพรส์’ แต่ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ AIS ประกาศกลยุทธ์ Cognitive Telco เร็วขึ้น รวมถึงได้เปิดเผยแผนธุรกิจปี 2565 ว่า ยังคงเดินหน้าลงทุนโครงข่ายสัญญาณอีก 3-4 หมื่นล้านบาท และทุ่มลงทุนพัฒนาไอทีอีก 5-6 พันล้านบาท เพื่อขึ้นครองตำแหน่งองค์กรอัจฉริยะ ขณะเดียวกันปี 2565 จะได้เห็น AIS ผนึกพาร์ตเนอร์เพิ่มขึ้นด้วย หนึ่งในนั้นคือธุรกิจรีเทล ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจา 

สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ AIS แสดงความคิดเห็นต่อดีลรวมกิจการของ TRUE และ DTAC ว่า AIS ไม่ได้สนใจเรื่องของคู่แข่ง เพราะดีลนี้เป็นที่จับตาในแวดวงสื่อสารและไอทีมาโดยตลอดอยู่แล้วจึงไม่เซอร์ไพรส์ และมองว่าจากนี้ไปเป็นเรื่องของหน่วยงานกำกับที่เกี่ยวข้องว่าจะมีมุมมองอย่างไรต่อผลดีและผลเสียของผู้บริโภค 

ในส่วนของการแข่งขันนั้น ในระยะ 1-2 ปีจากนี้จะรุนแรงขึ้นจากการแย่งและรักษาฐานลูกค้า เพราะตามหลักแล้ว เมื่อเกิดการรวมกันของ 2 องค์กร จะมีช่วงเวลาของความสับสนในจุดยืนและแผนธุรกิจเป็นธรรมดา แต่ในระยะยาว การแข่งขันก็จะลดลงในที่สุด เป็นไปตามหลักทางคณิตศาสตร์ที่ผู้เล่นลดลง การแข่งขันก็ลดลงเช่นกัน จากนี้จึงขึ้นอยู่กับผู้คุมกฎของประเทศไทยว่าจะคิดเห็นอย่างไร 

อย่างไรก็ตาม สมชัยยอมรับว่า ดีลดังกล่าวทำให้ AIS ประกาศกลยุทธ์ Cognitive Telco รวดเร็วขึ้น หลังจากที่ตกผลึกกลยุทธ์นี้มาสักระยะ 

ทั้งนี้ กลยุทธ์ Cognitive Telco จะพา AIS ไปสู่เป้าหมายใหม่คือ การเป็น Digital Life Service Provider ได้สำเร็จ จากเดิมที่อยู่ในสนามของ Telecom Service Provider 

โดย Cognitive Telco จะประกอบด้วย 3 แผนงานสำคัญหลักๆ คือ

1. เพิ่มการมีส่วนร่วม (Interactive) กับลูกค้า 
2. ตอบรับกระแส Personalization ของลูกค้าได้ครอบคลุม
3. เร็วระดับ Real Time เพื่อให้เท่าทันทุกความต้องการของลูกค้า 

“เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วมากกว่าที่เราคิด การที่เราจะเป็น Digital Life Service Provider เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าให้ทันความต้องการเท่านั้นยังไม่พอ จึงเป็นที่มาของการเปลี่ยนเป็น Cognitive Telco ซึ่งในตอนนี้จะดูเหมือนเรื่องใหม่ สิ่งใหม่ แต่เชื่อว่าอีกไม่นานมันจะเป็นเรื่องที่ทุกองค์กรต้องลงมือทำ เพื่อก้าวไปสู่ความเป็นองค์กรอัจฉริยะ” สมชัยกล่าว 

เขากล่าวเพิ่มว่า ในปี 2565 AIS จะยังคงเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านโครงข่ายเช่นเดิม โดยจัดสรรงบลงทุนไว้ราว 3-4 หมื่นล้านบาทต่อปี นอกจากนี้จะมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีและไอทีเพิ่ม เช่น เทคโนโลยี AI และระบบ Data Analytic อีกราว 5-6 พันล้านบาท เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการ โดยเฉพาะด้านดิจิทัลแพลตฟอร์ม และมุ่งสู่ Cognitive Telco ได้ตามเป้าหมาย 

ปีหน้าลุยจับมือพาร์ตเนอร์ 

นอกจากนี้ปี 2565 AIS จะมีความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ที่ชัดเจนและหลากหลายขึ้น ทั้งนี้ เพื่อสร้างช่องทางรายได้ใหม่ๆ นอกเหนือจากธุรกิจด้านสื่อสาร โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา AIS ได้เป็นพาร์ตเนอร์กับธนาคารไทยพาณิชย์ไปแล้วในรูปแบบบริษัทร่วมทุน AISCB เพื่อทำธุรกิจให้สินเชื่อออนไลน์ (Digital Lending) ปัจจุบันอยู่ในช่วงทดสอบโมเดล เพื่อให้เกิดบริการที่ราบรื่นและเป็นไปตามกฎระเบียบที่หน่วยงานกำกับที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้ 

“เบื้องต้นเชื่อว่า ราวเดือนมีนาคมปีหน้า AISCB จะเริ่มเปิดให้บริการ ซึ่งเราต้องการทำให้แน่ใจว่า ธุรกิจนี้จะสามารถจัดเก็บค่าสินเชื่อได้และไม่ก่อให้เกิดหนี้เสีย เป้าหมายเบื้องต้นจะปล่อยสินเชื่อประมาณ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งหากสำเร็จตามแผน บริษัทก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นในบริษัทร่วมทุนนี้ 

จุดแข็งธุรกิจ Digital Lending ก็คือฐานลูกค้าจำนวนมากรายและครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งเป็นฐานลูกค้าของทั้ง AIS และ SCB ทำให้มี Data ของกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก ขณะเดียวกันยังสามารถช่วยกันสร้างระบบ Credit Scoring เพื่อให้เป็นไปตามที่หน่วยงานกำหนดได้ เพราะมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ 

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของการผลักดันธุรกิจ Digital Lending คือการทำการตลาดเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย สะดวก และถูกต้องตามกฎหมาย ที่ทำให้ AISCB เติบโตอย่างยั่งยืน 

อยู่ระหว่างเจรจาจับมือกับธุรกิจค้าปลีก 1 ราย 

สมชัยกล่าวเพิ่มว่า ในส่วนแผนงานร่วมมือกับพาร์ตเนอร์นั้น นอกจากพาร์ตเนอร์ที่เป็นแบงก์แล้ว AIS ยังสนใจเป็นพาร์ตเนอร์กับธุรกิจค้าปลีก (Retail) อีกด้วย เนื่องจากมองว่าคลังข้อมูลผู้บริโภคในธุรกิจ Telco Bank และ Retail จะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และทำให้ AIS สร้าง New S-Curve ได้ 

“ตอนนี้กำลังคุยกับพาร์ตเนอร์ด้านรีเทลอยู่ ปีหน้าจะเป็นปีที่เห็น AIS กับพาร์ตเนอร์ชัดขึ้น และอีกธุรกิจที่ทำกับพาร์ตเนอร์และเรามองว่าเป็นการเชื่อมต่อที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมมากก็คือธุรกิจประกัน แต่อาจจะยังไม่เน้นในระยะใกล้ๆ นี้ เพราะเราต้องการทำให้แน่ใจเรื่องกระบวนการเคลมเงินประกันที่มีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้พาร์ตเนอร์เกิดความเสียหาย และเพื่อป้องกันลูกค้าจากการต้องเจอประสบการณ์ไม่ดี” 

เร่งดัน AIS Play ติดตลาด เพิ่มรายได้ค่าโฆษณา 

อีกหนึ่งธุรกิจใหม่ที่ AIS ยังผลักดันต่อเนื่องคือ Digital Content Platform โดยมีเป้าหมายสร้าง AIS Play ให้เป็น Digital Content Platform ของคนไทย ที่สามารถสร้าง Advertising Model ขึ้นได้ เพื่อให้เกิดรายได้จากการโฆษณา อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า AIS ยังต้องพัฒนารูปแบบธุรกิจอีกมาก 

“ผลตอบรับของ AIS Play ที่นำเอาคอนเทนต์ต่างประเทศเข้ามาในแพลตฟอร์มเรา ผลตอบรับดีมากๆ แต่เราอยากพัฒนาให้วิดีโอในดิจิทัลแพลตฟอร์มของเรา อยากสร้างฟรีคอนเทนต์ของคนไทย และสร้างเป็น Advertising Model เพราะบนดิจิทัลแพลตฟอร์มเราสามารถ Customize โฆษณาได้ แต่ตอนนี้เรายังทำไม่สำเร็จ”

ศึกษา Metaverse-ออกเหรียญ แต่ไม่เร่งรีบ 

สมชัยกล่าวถึงกระแสการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีว่า ปีนี้เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมาก ซึ่ง AIS ก็ศึกษาหลายๆ โมเดล ทั้งการออกเหรียญและการสร้างโลกเสมือน แต่ยังไม่เห็นโครงสร้างพื้นฐานหรือจุดกำเนิดที่ชัดเจนในแต่ละเทรนด์เทคโนโลยีต่างๆ จึงประเมินว่า ยังไม่ต้องรีบลงทุนหรือเข้าไปมีส่วนร่วมก็ได้ 

“เรื่องการออกเหรียญ (Cion) หลายคนบอกว่า เราใหญ่โตน่าจะออกเหรียญได้ คนสนใจ แต่ส่วนตัวมองว่า หากจะทำเหรียญขึ้นมาต้องเห็นยูสเคสชัดเจน คือ 

1. ต้องทำให้คนนิยม
2. ต้องมี Ecosystem ที่ชัด 

ซึ่งตอนนี้หลายองค์กรก็กำลังพัฒนา Ecosystem อยู่ AIS จึงมองว่า ถ้า Ecosystem นี้เกิด เราเข้าไปตอนนั้นก็ไม่สาย”  

โดยปัจจุบัน AIS กำลังขยาย Point ของ AIS ซึ่งตอนนี้ Point ของ AIS เริ่มกลายเป็นเงินแล้ว หลังจากที่ไปจับมือกับพันธมิตรหลายราย ยกตัวอย่างเช่น ธนาคารกรุงไทย หรือ KTB ซึ่งปี 2565 จะมีประกาศเรื่องการมีร้านค้ากว่า 3 แสนรายเข้ามาใน Ecosystem ซึ่งจะทำให้ AIS Point มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• AIS ก้าวสู่ปีที่ 32 ย้ำจุดยืนการเป็น Digital Life Service Provider พร้อมประกาศ 5G ครอบคลุมสูงสุด และเปิดตัวโครงข่ายไฟเบอร์ความเร็ว 2 Gbps
• AIS เผยรายได้ไตรมาส 3 โต 1.6% โชว์กำไรสุทธิ 6,374 ล้านบาท คาดสิ้นปีมีผู้ใช้ 5G กว่า 2 ล้านราย

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP