×

เมื่อร่างกายถูกคุกคามด้วยอาหารใกล้ตัว แล้วหนทางลดความเสี่ยงด้านสุขภาพและการเงินจะเริ่มต้นที่ตรงไหน [Advertorial]

04.09.2018
  • LOADING...

สุขภาพดีเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ต้องการ เพราะความเจ็บป่วยไม่ได้โจมตีเพียงร่างกายและจิตใจเท่านั้น แต่สุขภาพที่ย่ำแย่ยังสั่นสะเทือนถึงเงินเก็บในกระเป๋าสตางค์ ไหนจะต้องเสียเวลาทำงาน เสียโอกาสในการสร้างรายได้ รบกวนคนที่ห่วงใยในครอบครัวให้ต้องมาดูแล ซึ่งแม้หลายคนจะหมั่นออกกำลังกาย นอนอย่างเต็มอิ่ม ระวังตัวเพื่อป้องกันความเจ็บป่วยขนาดไหน แต่ก็ไม่วายมีปัญหาสุขภาพเข้ามาทักทายไม่เว้น โดยหนึ่งในสาเหตุของความเจ็บป่วยที่ยากจะหลีกเลี่ยงก็คือ ‘อาหาร’ ซึ่งพวกเราส่วนใหญ่ก็กินมากกว่าวันละ 3 มื้อตามมาตรฐานเสียด้วยซ้ำ

 

นพ.ฆนัท ครุธกูล เลขานุการคณะกรรมการเครือข่ายคนไทยไร้พุง และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและโภชนาการวิทยาคลินิก โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ระบุว่า 1 ใน 3 ของสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยนั้นมาจากโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นที่น่าตกใจว่าโรคนี้มีสาเหตุหลักมาจากการกินนั่นเอง

 

หวาน เค็ม มัน เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด ทุกรสชาติความกลมกล่อมล้วนสามารถก่อให้เปิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ทั้งนั้นหากร่างกายได้รับในปริมาณที่ไม่พอเหมาะ แต่มากกว่าเรื่องรสชาติคือสารปนเปื้อนในอาหารที่ผู้บริโภคอย่างเราๆ ยากจะหลีกเลี่ยง แน่นอนว่านอกจากสารเคมีตกค้างที่มองไม่เห็น นาทีนี้ต้องยอมรับเลยว่าภัยเงียบอย่าง ‘ไขมันทรานส์’ เป็นอันตรายต่อร่างกายของเรามากจริงๆ เพราะเพียงแค่รับประทานไขมันทรานส์ในปริมาณมากเกิน 0.5 กรัมต่อหน่วยบริโภคก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ความดัน และหลอดเลือดได้แล้ว

 

จากการสำรวจของสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล พบข้อมูลที่น่าตกใจว่าที่ผ่านมาไขมันทรานส์นั้นอยู่ใกล้ชิดคนไทยเกินกว่าที่เราจะคาดคิด เพราะเจ้าไขมันทรานส์มักจะอยู่ในขนมยอดนิยมที่เรากินกันบ่อยๆ มากว่าครึ่งค่อนชีวิต โดยเมนูและวัตถุดิบที่ปนเปื้อนไขมันทรานส์มากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่

 

  1. มาการีน มีปริมาณไขมันทรานส์ 0.08-15.32 กรัมต่อ 100 กรัม
  2. โดนัททอด มีปริมาณไขมันทรานส์ 0.02-5.14 กรัมต่อ 100 กรัม
  3. พาย มีปริมาณไขมันทรานส์ 0.03-4.39 กรัมต่อ 100 กรัม
  4. พัฟและเพสทรี มีปริมาณไขมันทรานส์ 0.01-2.46 กรัมต่อ 100 กรัม
  5. เวเฟอร์ช็อกโกแลต มีปริมาณไขมันทรานส์ 0.06-6.24 กรัมต่อ 100 กรัม   

 

 

ไม่เพียงเท่านั้น ข้อมูลจากงานวิจัย ‘ประเทศไทยปลอดไขมันทรานส์’ ซึ่งทำการสำรวจในเดือนสิงหาคม-ธันวาคม 2560 พบว่าในบรรดาอาหารยอดฮิตที่เราคุ้นเคยนั้นมีปริมาณไขมันทรานส์ในระดับที่กินได้อยู่เพียงไม่กี่ยี่ห้อเท่านั้น เช่น ในโดนัท 18 ยี่ห้อ มีเพียง 3 ยี่ห้อเท่านั้นที่มีไขมันทรานส์ในระดับที่กินได้ ส่วนอีก 12 ยี่ห้ออยู่ในระดับพอประมาณ และอีก 3 ยี่ห้อมีไขมันทรานส์อยู่ในระดับที่ไม่ควรกิน ซึ่งแน่นอนว่าการสำรวจนี้ไม่ได้ระบุว่าโดนัทยี่ห้อไหนมีไขมันทรานส์อยู่ในระดับปลอดภัย และนั่นแปลว่าร่างกายของเราต้องแบกรับความเสี่ยงด้านสุขภาพจากเมนูอร่อยใกล้ตัวเหล่านี้ไว้ทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้เสียทั้งสุขภาพและเสี่ยงต่อการเงินที่ต้องจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลอย่างไม่ทันรู้ตัวอีกด้วย

 

โรคต่างๆ ที่อาจเกิดจากการรับประทานไขมันทรานส์มากเกินไป เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคเบาหวาน มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่หลักพันไปจนถึงหลักแสน ซึ่งหากต้องรับการรักษาต่อเนื่องก็ย่อมส่งผลให้ต้องเสียค่ารักษาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หรือหากโชคร้ายเกิดโรคแทรกซ้อนก็อาจทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากถึงหลักล้านก็เป็นได้

 

ในเมื่อการเลือกกินทำได้ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ การเตรียมแผนฉุกเฉินเรื่องการรักษาพยาบาลด้วยการทำประกันสุขภาพจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ ประกันสุขภาพ AIA H&S Extra ที่นอกจากจะช่วยลดภาระทางการเงินในยามที่ต้องเผชิญกับโรคภัยไข้เจ็บแล้ว ยังเป็นเหมือนผู้ช่วยที่ทำให้คุณคลายกังวลและฟื้นคืนสู่สุขภาพดี

 

 

ประกันสุขภาพ AIA H&S Extra เอ็กซ์ตร้าความคุ้มครองด้วยสิทธิ์ที่ครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน รวมทั้งกรณี Day Case และค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก รวมทั้งได้ผลประโยชน์เงินคืนพิเศษและผลประโยชน์ช่วยเหลือกรณีเสียชีวิต พร้อมรับสิทธิ์ลดหยอนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามที่กฎหมายกำหนด ช่วยให้คุณสามารถเตรียมความพร้อมให้ชีวิตแม้ต้องเผชิญกับภัยเงียบรอบตัวที่คอยคุกคามสุขภาพอย่างไม่สามารถควบคุมได้

 

สนใจแผนประกันสุขภาพ AIA H&S Extra ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ 

 

ภาพประกอบ: Nisakorn Rittapai

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

FYI
  • ไขมันทรานส์แบ่งเป็น 2 ชนิดคือ ไขมันทรานส์ธรรมชาติ พบปริมาณเล็กน้อยในสัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่น เนื้อวัว ควาย รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากสัตว์ดังกล่าว เช่น ชีส เนย นม และไขมันทรานส์จากกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partial Hydrogenation) ลงไปในน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง เพื่อให้มีคุณสมบัติเหมือนไขมันสัตว์ พบได้ในเนยเทียม เนยขาว วิปครีม ครีมเทียม รวมทั้งผลิตภัณฑ์เบเกอรี และอาหารที่ทอดโดยใช้น้ำมันทรานส์
  • องค์การอนามัยโลกแนะนำว่าควรบริโภคไขมันทรานส์ไม่เกิน 2.2 กรัมต่อวัน หรือ 0.5 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค
  • ข้อมูลเพิ่มเติม ประกันสุขภาพ AIA H&S Extra คลิก campaigns.aia.co.th/HSX
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising