Bloomberg รายงานว่า ผลประกอบการล่าสุดของกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีกำลังกระตุ้นให้เกิดความกังวลว่ากระแสปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เป็นตัวผลักดันดัชนีตลาดให้เพิ่มสูงขึ้นตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาอาจถูกให้ค่าเกินความเป็นจริงมากไป
ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.3% และ Nasdaq 100 ร่วงลงเกือบ 4%
หุ้น Alphabet Inc. บริษัทแม่ของ Google ร่วง 5% แม้ว่าจะสามารถกอบโกยรายได้มากถึง 84,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเหนือกว่าที่เหล่านักวิเคราะห์ Wall Street คาดการณ์ไว้ แต่เนื่องจากค่าใช้จ่าย 13,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ทุ่มไปกับการพัฒนาเทคโนโลยี AI สูงกว่าที่คาดการณ์ บวกกับปัจจัยที่ยังคงตั้งคำถามกับเทคโนโลยีว่าจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกได้มากแค่ไหน และจะคุ้มค่ากับเงินที่ต้องใช้แลกมาหรือเปล่า ข้อสงสัยเหล่านี้จึงทำให้เกิดการเทขายบางส่วน
Peter Boockvar หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนจาก Bleakly Advisory Group กล่าวว่า “ในที่สุดนักลงทุนก็เจอกับความจริงที่ว่าตอนนี้การใช้จ่ายลงทุนพัฒนา AI ทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันคือ ‘ต้นทุน’ มากกว่า ‘ตัวสร้างรายได้’”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
การรายงานผลประกอบการล่าสุดของ Google ยิ่งทำให้ความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากยังมีผลประกอบการของบริษัทบิ๊กเทคอีกหลายรายที่รอจะออกในสัปดาห์หน้าอย่าง Microsoft Corp., Meta Platforms Inc., Amazon.com Inc. และ Apple Inc. จึงเป็นประเด็นที่ตลาดจับตาในสัปดาห์หน้าว่าคำมั่นสัญญาของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จะคุ้มค่าตามที่บิ๊กเทคพยายามพูดมาตลอด 2 ปีหรือไม่
“เห็นได้ชัดว่าตลาดค่อนข้างไม่ถูกใจกับรายงานผลประกอบการของหุ้นบิ๊กเทค ฉันคิดว่าบริษัทเหล่านี้ยังไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพและศักยภาพการทำกำไรของ AI” Kathleen Brooks ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ XTB กล่าว
นอกจากนี้สถานการณ์ตลาดยังมองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) น่าจะถึงคราวที่ได้เริ่มลดดอกเบี้ยนโยบายเต็มทีแล้ว เป็นตัวกระตุ้นหุ้นกลุ่มบริษัทเล็ก (Small Caps) ให้เติบโตแซงหุ้นบริษัทใหญ่ เนื่องจากภาวะดอกเบี้ยสูงนานราว 2 ปี เป็นตัวกดดันให้ Small Caps โตได้ยากเพราะต้นทุนการเงินสูง
หากมองจากมุมนักกลยุทธ์ ดูเหมือนว่าแนวโน้มความคาดหวังของนักลงทุนในประเด็น AI กำลังเปลี่ยนจากการสร้างประโยชน์เล็กๆ กลายมาเป็นการสร้างกำไรผ่านการใช้เทคโนโลยีให้เกิดขึ้นจริง “เรากำลังอยู่ที่จุดที่เกิดการตั้งคำถามถึงการสร้างรายได้จาก AI ซึ่งยังมีให้เห็นน้อยอยู่”
หลังจากที่หุ้นเทครับบทตัวแบกดัชนีมาเกือบตลอดทั้งปี 2024 ตอนนี้บรรยากาศการลงทุนกำลังเปลี่ยนจากที่นักลงทุนเริ่มหันไปสนใจหุ้นเล็กมากขึ้น ด้วยความหวังการลดดอกเบี้ยและคำถามคาใจว่าต้นทุนพัฒนา AI จะคุ้มค่ากับประโยชน์หรือเปล่า
อ้างอิง: