×

คุณมีผิวผสมหรือเปล่า? ไขข้อข้องใจในการดูแลผิว พร้อมอัปเดตสกินแคร์กลุ่มใหม่เพื่อผิวผสมของ Aesop

20.03.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 Mins read
  • ผิวผสมเป็นผิวที่ค่อนข้างพบมากในภูมิภาคเอเชีย และคนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าตัวเองเป็นคนผิวมันทั้งๆ ที่เป็นผิวผสม ขณะที่คนผิวแห้งมักเข้าใจผิดเรื่องผิวขาดน้ำ ซึ่งผิวสองแบบเกิดจากสาเหตุที่ไม่เหมือนกัน
  • รู้จักกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ In Two Minds เกิดจากการที่แบรนด์ Aesop ชื่นชอบ หลงใหล ทั้งงานดีไซน์ ศิลปะ และวรรณกรรม กระทั่งนำมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผิวผสมได้สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่แบรนด์เคยผลิตมา
  • Aesop In Two Minds Facial Cleanser, Aesop In Two Minds Facial Toner และ Aesop In Two Minds Facial Hydrator คือ 3 ชิ้นเด็ดที่คนไทยผิวผสมควรได้ลองใช้ แนะนำโดย วิน-เติมผล โศภณ กูรูเรื่องผิวผู้ที่เข้าใจผลิตภัณฑ์ของ Aesop ดีที่สุดคนหนึ่งในวงการสกินแคร์

ผิวผสมเป็นผิวที่ค่อนข้างพบมากในภูมิภาคเอเชีย ปัญหาคือการจะหาสมดุลในการเข้าไปจัดการกับปัญหาผิวเหล่านั้นอย่างไรให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ด้วยวิธีที่ง่ายไม่ซับซ้อน มีจริงหรือ?

 

 

THE STANDARD มีโอกาสได้พบผู้เชี่ยวชาญเรื่องผิวอย่าง วิน-เติมผล โศภณ Training and Operation Manager Aesop Thailand และ เชอร์รี เชง (Cherry Cheng) Retail Training and Performance Manager, Singapore and Malaysia เราพบว่า ได้คำตอบที่ไขข้อข้องใจเรื่องการดูแลผิวผสมแบบเบ็ดเสร็จที่น่าสนใจ และเขายังพูดถึงโปรดักต์ดูแลผิวกลุ่มใหม่ของแบรนด์ Aesop ภายใต้ชื่อ In Two Minds Facial อีกด้วย

 

 

‘ผิวผสม’ สำหรับ Aesop เป็นอย่างไร

เชอร์รี: มีคนจำนวนมากที่มีผิวผสม ซึ่งผิวผสมมี 2 ลักษณะรวมกัน เช่น มีความมันบริเวณทีโซนมากกว่าปกติ แต่มีผิวบริเวณข้างแก้มค่อนข้างแห้ง และมีแนวโน้มระคายเคืองง่าย หรือเป็นจ้ำแดง ซึ่งนี่คือลักษณะพื้นฐานของคนที่มีผิวผสม


คนส่วนใหญ่รู้ไหมว่าตัวเองเป็นผิวผสม

เชอร์รี: จากประสบการณ์การดูแลลูกค้าเพื่อนบ้านของไทยอย่างสิงคโปร์พบว่า ส่วนใหญ่ลูกค้าที่เป็นผิวผสมจะไม่ทราบว่าตัวเองเป็นผิวผสม แต่จะเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองเป็นคนผิวมัน ดังนั้นพอคิดว่าตัวเองผิวมันก็จะข้ามขั้นตอนการลงครีมบำรุงเพื่อคงความชุ่มชื่นให้ผิว เพราะกลัวว่าจะทำให้หน้ามันมากกว่าเดิม ซึ่งการบำรุงผิวเป็นขั้นตอนที่จำเป็น ไม่ว่าคุณจะมีสภาพผิวแบบไหน หากละเลยขั้นตอนนี้ ปัญหาผิวจะเกิดขึ้นมากมาย และเมื่อเข้าใจผิดว่าตัวเองเป็นคนผิวมัน ก็มักจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มันรุนแรงต่อผิวมากเกินไป จนพรากเอาความชุ่มชื่นที่จำเป็นของผิวออกไปด้วย ทำให้ผิวสูญเสียสิ่งที่เรียกว่าปราการปกป้องผิว ผิวจึงเกิดริ้วรอยได้ และมีปัญหาอื่นตามมาได้ง่าย

 

แล้วคนผิวแห้งล่ะ?

เชอร์รี: อีกเคสหนึ่งที่เราเจอกันบ่อยไม่แพ้เรื่องผิวผสม ก็คือลูกค้าเกิดความสับสนระหว่างผิวแห้งกับผิวขาดน้ำ ซึ่งผิวสองแบบนี้ไม่เหมือนกัน ผิวขาดน้ำไม่ใช่ผิวที่แห้ง ความแตกต่างของผิวสองประเภทนี้คือ ผิวแห้งเกิดจากการที่ต่อมไขมันเราผลิตน้ำมันออกมาไม่เพียงพอ ในขณะที่ผิวขาดน้ำคือการที่ผิวเราสูญเสียความชุ่มชื่นผิวภายใน

 

 

วิน-เติมผล โศภณ Training and Operation Manager Aesop Thailand อธิบายเสริมว่า

ถ้าถามว่าผิวขาดน้ำเกิดจากอะไร สมมติเวลาที่เราอยู่ในห้องแอร์ ผิวของเราสูญเสียน้ำไปตลอดเวลา ไม่เพียงเท่านี้นะครับ เพราะความเครียดจากการทำงาน ผลจากการนอนดึก ทุกอย่างล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาผิวขาดน้ำภายในได้ทั้งนั้นเลย ซึ่งคนที่เป็นผิวผสมอาจจะมีภาวะของผิวขาดน้ำแทรกเข้ามาด้วยก็ได้

 

อะไรทำให้แบรนด์ Aesop ตัดสินใจออกผลิตภัณฑ์ใหม่พร้อมกันหลายชิ้น ทั้งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน?
วิน: จริงๆ แล้ว Aesop เรามีผลิตภัณฑ์สำหรับทุกภาพผิวเลยครับ แต่ด้วยสภาพอากาศในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงไลฟ์สไตล์ชีวิตของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน วุ่นวายขึ้น มีเรื่องเครียดมากขึ้น เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้คนผิวผสมมีจำนวนมากขึ้นกว่าเดิมมาก แบรนด์ Aesop จึงคิดว่าคงถึงเวลาแล้วที่จะสร้างผลิตภัณฑ์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อตอบโจทย์สำหรับการดูแลผิวผสมนี้โดยเฉพาะ

 

 

ทำไมผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ถึงมีชื่อว่า In Two Minds
เชอร์รี: Aesop เป็นแบรนด์ที่หลงใหลในงานดีไซน์ ชื่นชอบศิลปะและวรรณกรรมสังเกตได้จากคำคมต่างๆ ที่เราใช้ประกอบไปกับการทำงานของเรา แม้แต่ชื่อ In Two Minds ซึ่งเป็นชื่อของผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ครั้งนี้ ทั้งยังสอดคล้องกับการแสดงของผิวที่มีความแตกต่างกัน 2 อย่างควบคู่กันไป นั่นหมายความว่าคุณต้องดูแล 2 ส่วนนี้ไปพร้อมๆ กัน จะละทิ้งอย่างใดอย่างหนึ่งไปไม่ได้ นั่นคือคอนเซปต์ของเรา ซึ่งกลายเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ 3 ชิ้นที่เราคิดมาให้แล้วว่าใช้สำหรับ 3 ขั้นตอนในการดูแลผิวที่มีอารมณ์ซับซ้อน แบบผิวผสมโดยเฉพาะ

 

ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้น่าสนใจอย่างไร

วิน: จริงๆ แล้วโทนเนอร์ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ หรือตัวบำรุงต่างๆ จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ถ้าไม่ได้ผ่านการล้างหน้าอย่างถูกต้อง ถ้าล้างหน้าไม่สะอาด ลงครีมบำรุงไปก็จะไม่เห็นผลเท่าที่ควร แบรนด์เราให้ความสำคัญกับขั้นตอนการล้างหน้ามาก แม้จะเป็นขั้นตอนแรกก็สำคัญ เพราะส่งผลกระทบไปยังขั้นตอนอื่นๆ ด้วย

 

 

ตัวช่วยสำหรับผิวผสมที่น่าลองพร้อมเหตุผลจากคุณวินมีดังนี้

 

 

Aesop In Two Minds Facial Cleanser

Cleanser ตัวนี้ทำให้ผิวรู้สึกสะอาดหมดจดโดยที่ไม่ผิวไม่ระคายเคือง ไม่แห้งตึง เพราะไม่มีการใช้ซัลเฟตที่เป็นตัวชะล้าง (ส่วนใหญ่พบได้ในผลิตภัณฑ์ล้างหน้าทั่วไปตามท้องตลาด) และยังมีส่วนผสมของซาลิไซลิก แอซิด มีคุณสมบัติในการผลัดผิวไปในตัวอย่างอ่อนโยน เวลาใช้จะไม่แนะนำให้ล้างออกทันที แต่ควรจะถูวนเบาๆ บนผิวแล้วทิ้งไว้ 1-2 นาทีแล้วค่อยล้างออก ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวสะอาดและดูกระจ่างใส โดยที่สิ่งสกปรกจะไม่ตกค้างบนผิวด้วย

 

 


Aesop In Two Minds Facial Toner

คำถามที่พบบ่อยคือ “โทนเนอร์จำเป็นเหรอ?” โทนเนอร์เป็นสิ่งจำเป็นครับ เพราะโทนเนอร์จะจบกระบวนการล้างหน้าอย่างสมบูรณ์ เพื่อเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการลงตัวบำรุงจริงๆ บางคนลงครีมบำรุงแล้วไม่ค่อยเห็นผล อาจเป็นเพราะว่าไม่ได้ผ่านการเตรียมผิวด้วยการใช้โทนเนอร์ก่อน ข้อดีของโทนเนอร์สูตรใหม่ที่เพิ่งออกมาคือทำหน้าที่ 2 อย่างคู่กัน คือควบคุมความมันส่วนเกินและดูแลป้องกันแบคทีเรียไม่ให้ผิวเกิดสิวได้ง่าย ขณะเดียวกันผิวบริเวณทีโซนที่ต้องการความชุ่มชื้น ก็มีส่วนผสมพิเศษคือ ไนอะซินาไมด์ (เรารู้จักกันในนามวิตามิน B3) เติมความชุ่มชื้นบริเวณทีโซนได้อย่างดีเยี่ยม

 

 

Aesop In Two Minds Facial Hydrator

ส่วนตัวผมชอบตัวนี้ แบรนด์ Aesop เชื่อว่าผิวสวยต้องมาจากผิวที่มีการล้างหน้าอย่างถูกต้อง และคงความชุ่มชื่นของผิวไว้ได้อย่างเหมาะสมที่สุด และเฟเชียลไฮเดรเตอร์ตัวนี้เหมาะกับคนผิวผสมที่สุด เพราะธรรมชาติของคนที่มีผิวผสมคือไม่เหมาะกับอะไรที่เหนอะหนะเกินไป เพราะผิวมีความมันส่วนเกินอยู่ สิ่งที่ตรงกับความต้องการผิวแบบนี้คืออะไรก็ตามที่สามารถคงความชุ่มชื่น แต่ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิวหน้า ซึ่งเฟเชียลไฮเดรเตอร์ตัวนี้ตอบโจทย์ได้อย่างดี

 

ส่วนใครที่อยากรู้ว่าการล้างหน้าดีมีชัยไปกว่าครึ่งจริงไหม ลองสำรวจกันดูเสียหน่อยว่าคุณล้างหน้าถูกต้องแล้วหรือยังได้ที่นี่

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising