×

ตัดขาด Yeezy แล้วพัง? adidas สะดุดหนัก ขาดทุนครั้งแรกในรอบ 30 ปี หุ้นร่วง แถมยอดขายในสหรัฐฯ ยังคงหดตัว

14.03.2024
  • LOADING...
adidas ยอดขาย

adidas ยักษ์ใหญ่วงการชุดกีฬาของเยอรมนี ประกาศผลประกอบการขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี แถมยังเตือนว่า ยอดขายในอเมริกาเหนือมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเหตุผลหลักมาจากการตัดสัมพันธ์กับ คานเย เวสต์

 

หลังจาก adidas ตัดสัมพันธ์กับ คานเย เวสต์ หรือ Ye อดีตแรปเปอร์ชื่อดัง เมื่อเดือนตุลาคม 2022 บริษัทต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่ เพราะ Ye เคยเป็นผู้ร่วมออกแบบรองเท้า Yeezy สินค้าสุดฮิตที่ทำกำไรมหาศาลให้กับ adidas

 

โดยผลประกอบการที่ออกมามีดังนี้

 

  • รายได้จากไลน์ Yeezy ปี 2023 อยู่ที่ 750 ล้านยูโร (ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท) กำไร 300 ล้านยูโร (1.1 หมื่นล้านบาท)

 

  • บริษัทกันเงิน 140 ล้านยูโร (5.5 พันล้านบาท) เพื่อบริจาคให้การกุศลที่ต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ

 

  • ขาดทุนสุทธิ 58 ล้านยูโร (2.3 พันล้านบาท) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1992

 

  • adidas เตรียมจ่ายเงินปันผลเท่าเดิมที่ 0.70 ยูโรต่อหุ้น

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

บียอร์น กูลเดน ซีอีโอคนใหม่ พยายามแก้เกมด้วยการกระตุ้นยอดขายรุ่นอื่นๆ เช่น Samba และ Gazelle รวมถึงสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ค้าปลีก แต่ผลลัพธ์ก็ยังไม่ดีนัก

 

ตลาดอเมริกาเหนือยังคงเป็นจุดอ่อนของ adidas โดยยังร่วงลงถึง 21% ในไตรมาส 4 ของปี 2023 และลดลง 16% ตลอดทั้งปี สาเหตุหลักมาจากความต้องการของผู้บริโภคที่ลดลงและสินค้าล้นคลัง

 

อย่างไรก็ตาม adidas ได้พยายามเคลียร์สินค้าส่วนเกินไปแล้ว 1.5 พันล้านยูโร (ประมาณ 5.8 หมื่นล้านบาท) คิดเป็น 24% ของสต็อกทั้งหมด

 

กูลเดนคาดการณ์ว่า สถานการณ์จะดีขึ้นในปี 2024 ยอดขายน่าจะโตขึ้นอย่างน้อย 10% ในช่วงครึ่งหลังของปี โดยเฉพาะรองเท้าสไตล์วินเทจที่น่าจะช่วยพยุงยอดขายในภาพรวมได้

 

สำหรับสินค้า Yeezy ที่เหลือ adidas คาดว่าจะสามารถขายได้โดยไม่ขาดทุน ทางบริษัทเพิ่งเปิดตัวรุ่นใหม่เมื่อเร็วๆ นี้ แต่ยังต้องรอดูว่าจะได้รับความนิยมมากน้อยแค่ไหน

 

adidas ยังเผชิญกับปัญหาใหญ่หลายด้าน ทั้งการขาดทุน ผลกระทบจากวิกฤตของ คานเย เวสต์ รวมไปถึงภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลจากการชำระภาษีย้อนหลัง ซึ่งคาดว่าจะไม่หนักเท่าปีนี้ในปีต่อๆ ไป

 

นอกจากนี้ adidas ยังต้องเจอกับคู่แข่งที่แข็งแกร่งในอเมริกาเหนือ แบรนด์ของสหรัฐฯ เองครองใจผู้บริโภคได้มากกว่ามาก เพื่อเป็นการแก้เกม adidas จำเป็นต้องพัฒนากลยุทธ์เพื่อสร้างความนิยมในวงการกีฬายอดฮิตอย่างเบสบอลหรือบาสเกตบอล

 

ส่วนตลาดจีนดูจะมีแสงสว่าง เนื่องจากยอดขายปีที่แล้วดีขึ้นมาก คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3.36 พันล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตแบบสองหลักในปีนี้

 

อนาคตของ adidas จะเป็นอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไปว่า บียอร์น กูลเดน จะพลิกฟื้นสถานการณ์ได้หรือไม่ ขณะเดียวกัน adidas ถือเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนถึงความไม่แน่นอนของตลาดแฟชั่นและธุรกิจที่มีความผันผวนสูง

 

ภาพ: Paco Freire / SOPA Images / LightRocket via Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising