×

ACE – 2H65 คาดแนวโน้มกำไรดูไม่น่าตื่นเต้น เนื่องจากความล่าช้าในการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการใหม่

08.09.2022
  • LOADING...
บมจ.แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ (ACE)

เกิดอะไรขึ้น:

บมจ.แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ (ACE) เผยโครงการใหม่ใน Pipeline ยังมีความคืบหน้าน้อยมาก โดยส่วนใหญ่อยู่ระหว่างรอการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับ กฟภ. บริษัทได้ขอให้ศาลปกครองสั่งให้ กฟภ. คืน PPA ที่ลงนามแล้วสำหรับโรงไฟฟ้าชีวมวล VSPP 8 แห่งให้แก่ ACE ตามที่คณะอนุญาโตตุลาการระบุไว้ ผู้บริหารคาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเหล่านี้ได้ในอนาคตอันใกล้นี้ และจะเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2567 

 

สำหรับโครงการโรงไฟฟ้า SPP-Hybrid 4 โครงการ (กำลังการผลิตติดตั้ง 93MW) ก็ล่าช้าเช่นกัน เนื่องจากโรงไฟฟ้า SPP-Hybrid 2 โครงการถูก NGOs คัดค้าน แม้ว่าบริษัทได้ดำเนินการทุกขั้นตอนในการพัฒนาโครงการเหล่านี้ภายใต้กฎระเบียบและข้อบังคับของรัฐบาลแล้ว ทั้งนี้ ยังไม่มีกรอบเวลาที่แน่ชัดว่าการพัฒนาโครงการเหล่านี้จะดำเนินต่อไปได้เมื่อใด 

 

นอกจากนี้ กฟภ. ยังเลื่อนลงนาม PPA ของโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ VSPP จำนวน 18  แห่ง กำลังการผลิตติดตั้ง 59MW และกำลังการผลิตตามสัญญา 50MW ออกไปจากเดือนกรกฎาคม 2565 เป็นเดือนกันยายน 2565 ทั้งนี้ การลงนาม PPA ของโรงไฟฟ้าเหล่านี้ถูกเลื่อนออกไปหลายครั้งแล้ว นับตั้งแต่ประกาศผลการประมูลในเดือนกันยายน 2564

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น ACE ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.75%MoM สู่ระดับ 2.70 บาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.93%MoM สู่ระดับ 1,640.00 จุด 

 

นวโน้มผลประกอบการปี 2565:

SCBS มองว่าหากไม่มีกำลังการผลิตดำเนินงานเพิ่มเติม คาดว่าแนวโน้มกำไร 2H65 ของ ACE จะดูไม่น่าตื่นเต้น ซึ่งปัจจัยขับเคลื่อนกำไรเพียงอย่างเดียว คือกำไรที่จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล เนื่องจากโรงไฟฟ้าที่ซื้อมาแห่งหนึ่งกลับมาเปิดดำเนินการตามปกติใน 3Q65 หลังจากหยุดซ่อมบำรุงเพื่อเปลี่ยนอุปกรณ์ 

 

ขณะที่บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงโรงไฟฟ้าชีวมวล VSPP 3 แห่งที่เข้าซื้อมาในเดือนสิงหาคม 2563 แม้ว่าการปรับปรุงโรงไฟฟ้าที่บุรีรัมย์จะแล้วเสร็จล่าช้าจากกำหนดที่วางไว้ใน 2Q65 เป็น 3Q65 

 

ACE คาดว่าหากโรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่งดำเนินการอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพอร์ฟอร์แมนซ์จะปรับตัวดีขึ้นจาก 1H65 อย่างมาก แม้ว่าจะยังต่ำกว่าโครงการที่บริษัทพัฒนาเองมาตั้งแต่ต้นอยู่บ้าง 

 

อย่างไรก็ตาม SCBS ปรับประมาณการกำไรปี 2565 ลดลง 28% เพื่อสะท้อนความล่าช้าในการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการใหม่ ขณะที่ราคาหุ้น ACE ปรับตัวลดลง 21%YTD และ Underperform SET มาตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 เนื่องจากบริษัทยังไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ 

 

โดยก่อนหน้านี้ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะมีกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้า SPP Hybrid เพิ่มเข้ามาในปี 2565 และยอดขายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าชีวมวลที่มีอยู่จะเพิ่มขึ้น อันเป็นผลมาจากความพยายามของรัฐบาลในการจัดหาไฟฟ้าเพิ่มเติมจากโรงไฟฟ้าชีวมวล และโรงไฟฟ้า MSW ที่มีกำลังการผลิตส่วนเกิน ซึ่งความคืบหน้าช้ากว่าที่คิดไว้มาก โดยมีสาเหตุมาจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้

 

สำหรับปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม คือ 1. ความล่าช้าในการคืน PPA โรงไฟฟ้าชีวมวลของ กฟภ. และการก่อสร้าง ซึ่งจะทำให้ต้องเลื่อนการเปิดดำเนินการ และกระแสเงินสดเข้ามาล่าช้า 2. ต้นทุนวัตถุดิบของโรงไฟฟ้าชีวมวลสูงกว่าคาด และ 3. ต้นทุนการลงทุนสูงกว่าคาด     

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising