ภาคธุรกิจทั่วโลกในปัจจุบันต้องเผชิญการสร้างสมดุลระหว่างการสร้างการเติบโตธุรกิจและการบริหารธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ ทั้งในเชิงสังคมและสิ่งแวดล้อม
นั่นคือจุดเริ่มต้นสำคัญที่ SC Asset ยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ ที่เปิดตัวธุรกิจเรือธงใหม่อย่าง SCX Corporation Co., Ltd. หรือ SCX ที่จะเป็น ‘Engine 2’ ให้ธุรกิจของ SC Asset ด้วยการสร้างการเติบโตและรายได้อย่างยั่งยืนด้วย ‘Recurring Income’ โดย รชฎ นันทขว้าง กรรมการผู้จัดการ SCX Corporation Co., Ltd. จะมาเผยทุกส่วนของธุรกิจ กลยุทธ์ นโยบาย และเป้าหมายอันทะเยอทะยานกับ THE STANDARD WEALTH
จุดเริ่มต้นของ SCX
รชฎกล่าวว่า แรกเริ่ม SC Asset ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งพบความท้าทาย จนกระทั่งการแพร่ระบาดของโควิดยิ่งเป็นตัวเร่งทำให้ SC Asset ต้องดำเนินแผนที่วางไว้ในการสร้าง SCX
รชฎ นันทขว้าง กรรมการผู้จัดการ SCX Corporation Co., Ltd.
“คีย์หลักของธุรกิจของ SCX คือความยืดหยุ่นและความหลากหลาย SCX เปรียบเสมือน Engine 2 ให้กับ SC Asset ที่จะคอยขับเคลื่อนธุรกิจทั้งกลุ่มไปด้วยรายได้ที่สม่ำเสมอ” รชฎ นันทขว้าง มีเส้นทางการทำธุรกิจมามากมาย โดยรชฎสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิต และปริญญาโทบริหารธุรกิจ สาขาการเงิน จากมหาวิทยาลัยโอคลาโฮมา ก่อนจะทำงานกับบริษัทชั้นนำมากมายในด้านการเงินและการบริหาร รชฎได้รับหน้าที่หัวหน้าฝ่ายการลงทุนของ SC Asset มาตั้งแต่ปี 2022
“สิ่งที่ SCX และผมมีเหมือนกันคือวิสัยทัศน์ด้านความยืดหยุ่น โลกธุรกิจในปัจจุบันจะเติบโตและอยู่รอดได้ไม่ใช่คนที่ฉลาดหรือเก่ง แต่เป็นคนที่ปรับตัวได้ดีที่สุด” รชฎกล่าว
การสร้างธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนต้องมีความยืดหยุ่นในเชิงการดำเนินธุรกิจ และธุรกิจต้องมีความหลากหลาย จึงจะสามารถสร้างความยั่งยืนแบบเติบโตได้ นั่นทำให้ SCX เจาะลึกลงไปใน 3 เสาหลักธุรกิจนี้ คือ SCX Logistic Solutions, SCX Hospitality Solutions และ SCX Working Solutions
SCX Logistics Solutions คลังสินค้าพร้อมเทคโนโลยีและทำเลคุณภาพ
โมเดิร์นโลจิสติกส์กำลังเติบโตอย่างมาก จากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซของประเทศไทย โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของโควิดเป็นต้นมา นั่นทำให้ SCX กล้าที่จะเข้าตลาดนี้
การดำเนินธุรกิจในเสาหลักนี้ รชฎกล่าวว่า SCX โดดเด่นจากตลาดด้วยเทคโนโลยี ด้วยสเปกของโมเดิร์นแวร์เฮาส์ เทคโนโลยีเกตทางเข้าแวร์เฮาส์ ระบบติดตามการขนส่งที่ช่วยให้ขนส่งได้รวดเร็ว และยังได้ใช้แอปพลิเคชัน ‘รู้ใจ (RueJai)’ ที่เคยใช้กับลูกบ้านของ SC Asset ก็นำมาปรับใช้ในการดูแลด้านโลจิสติกส์ พร้อมด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านโลจิสติกส์มากว่า 15 ปี
SCX มีกลยุทธ์เลือกทำเลที่ตั้งตามอินไซต์ นั่นก็คือการติดตามดีมานด์ในพื้นที่ SCX มีโรงงานและโกดังสินค้า 5 ทำเล พื้นที่ราว 2 แสนตารางเมตร บนทำเลบางพลีและพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ส่วนของบางพลีจะอยู่ที่บางนา กม.20 และ กม.23 ซึ่งเป็นเส้นทางเข้า-ออกสินค้าจากภาคใต้และภาคตะวันออก ในส่วน EEC เป็นพื้นที่ที่มีโอกาสมากมาย เพื่อรองรับธุรกิจภายในและนอกประเทศ
พื้นที่โกดังสินค้าบางนา กม.20
“SCX ต่อจากนี้กำลังขยายไปในเขตพื้นที่สีม่วง หรือเขตพื้นที่อุตสาหกรรม เรามีความแข็งแกร่งจากการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่แข็งแรงได้” รชฎยังตั้งเป้าหมายในการมีพื้นที่โรงงานรวม 7 แสนตารางเมตร ภายในปี 2029
SCX Hospitality Solutions โซลูชันนักเดินทางตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
โปรดักต์ที่สำคัญของ SCX คือโรงแรมย่าน ราชวัตร (YANH Ratchawat) ที่แม้จะเปิดได้เพียงหนึ่งปี แต่กลับมียอดการจองกว่า 80-90% อย่างสม่ำเสมอ จุดเด่นของ ‘ย่าน’ คือการเป็น ‘ไลฟ์สไตล์โฮเทล’ ที่ไม่ได้มีเพียงการเข้าพัก แต่ยังมีพื้นที่ในการทำงาน หรือพบปะผู้คนในส่วนของ Co-working Space
โรงแรมย่าน เป็นการเจาะกลุ่ม Nomad ในการเข้ามาดรอปสัมภาระแล้วเดินทางท่องเที่ยวต่อ ซึ่งโรงแรมย่าน ตั้งอยู่ในเขตราชวัตร ซึ่งเป็นทั้งเขตราชการและเป็นเขตท่องเที่ยวให้กับชาวต่างชาติ
โรงแรม KROMO ภายใต้แบรนด์ Curio Collection by Hilton
นอกจากโรงแรมไลฟ์สไตล์ที่เชี่ยวชาญแล้ว SCX ยังร่วมพันธมิตรกับผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในด้าน Hospitality เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา SCX ได้ประกาศจับมือ Daiwa House ยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์จากญี่ปุ่น ร่วมทุนพัฒนาโครงการโรงแรม KROMO ภายใต้แบรนด์ Curio Collection by Hilton ซึ่งอยู่ที่สุขุมวิท 29 ตรงข้ามกับศูนย์กลางการท่องเที่ยวอย่าง EMSPHERE พร้อมเปิดให้บริการในไตรมาสแรกของปี 2025 นอกจากนี้ยังมีโรงแรม The Standard Pattaya Jomtien ที่พัฒนาร่วมกับ Syntec Construction ผู้นำด้านธุรกิจก่อสร้างจากประเทศไทย โดยมีพันธมิตรระดับโลกอย่าง The Standard เป็นผู้บริหารโรงแรม ที่พร้อมเปิดให้บริการในไตรมาสสองปี 2025
The Standard Pattaya Jomtien
“ในส่วนของ Hospitality เราเน้นพื้นที่หลักไปที่กรุงเทพฯ พัทยา สมุย และภูเก็ต เพราะเป็นทำเลการท่องเที่ยวที่มีดีมานด์ ซึ่งภายในปี 2029 เราก็มุ่งมั่นที่จะเปิดห้องพักในเครือของเราให้ได้ 2,500 ห้อง”
SCX Working Solutions มาตรฐานระดับโลก
ปัจจุบัน Asset Portfolio ของ SCX กว่า 80-90% มาจากธุรกิจอาคารสำนักงาน หรือ ธุรกิจ Working Solutions จากการคาดการณ์ของ SCX ในปี 2025 EBITDA ของธุรกิจราว 1,000 ล้านบาท กว่า 90% จะมาจากเสาหลักธุรกิจอาคารสำนักงาน
ความสำเร็จเสาหลักนี้มาจากความเชี่ยวชาญของบริษัทแม่อย่าง SC Asset ที่มีประสบการณ์ด้านการทำตึกอาคารแนวสูงมามากมาย ทำให้มีอินไซต์กับทีมที่มีประสบการณ์สูงในการดูแล ปัจจุบัน 6 ตึกสำนักงาน พื้นที่รวมกว่า 1.2 แสนตารางเมตร มีอัตราการเช่ามากกว่า 90%
อาคารชินวัตร ทาวเวอร์ 3 ถือเป็นผลงานในการเป็นอาคารสำนักงานไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์การทำงานสมัยใหม่แบบไฮบริด โดยมีพื้นที่กว่า 5.3 หมื่นตารางเมตร บนตึกสูง 38 ชั้น เป็นอาคารที่รองรับมาตรฐาน WELL Health-Safety Rating โดย WELL Building Institute ซึ่งธุรกิจอาคารสำนักของ SCX ยังการันตีด้วยรางวัลในปี 2023 ด้านอนุรักษ์พลังงาน ประเภทอาคารเขียว ในงาน Thailand Energy Awards 2023 สะท้อนความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายใต้พันธกิจด้านความยั่งยืน
รชฎบนพื้นที่สำนักงานอาคารชินวัตร ทาวเวอร์ 3
กลยุทธ์เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน
รชฎกล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ถึงความโดดเด่นของ SCX ที่ทำให้มีความแตกต่างจากตลาดในอุตสาหกรรม
“SCX มีความโดดเด่นจากการมีสินค้าและบริการที่คุณภาพสูง ทีมของเราเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละหน่วยธุรกิจ เรื่องของเงินทุนก็สามารถเข้าถึงจากบริษัทแม่ที่มีการเงินแข็งแกร่ง อีกทั้งเรายังมีพาร์ตเนอร์ที่ร่วมมือกับเรา”
พาร์ตเนอร์ของ SCX แข็งแกร่งและมีหลากหลาย ในส่วนของโลจิสติกส์ก็มีการร่วมมือกับ i-Store และ Flash Express ด้านธุรกิจโรงแรมก็ร่วมมือกับยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง Daiwa House, Tokyo Tatemono หรือจะเป็น Syntec การหาพาร์ตเนอร์นอกจากด้านเงินทุนแล้วยังมีการแบ่งปันโนว์ฮาวของธุรกิจเพื่อมอบโปรดักต์คุณภาพสูงให้ลูกค้า
ทีมงานอันแข็งแกร่งของ SCX
“โลกปัจจุบันมีความไม่แน่นอนสูง เราจึงให้ความสำคัญกับ 3 เรื่องที่เรียกกันว่า 3P คือ People, Planet และ Profit ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา” รชฎกล่าวว่า 3P คือหลักการสร้างคนในองค์กรที่แข็งแกร่ง มีความหลากหลาย และมีความยืดหยุ่น เพื่อดำเนินธุรกิจที่โอบรับทั้งสองเสาหลัก คือ Planet ในการทำธุรกิจอย่างรับผิดชอบและส่งต่อให้รุ่นต่อไป และ Profit คือการสร้างธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับโลกใบนี้
นอกจากนี้ SCX ยังมี SCero Mission ซึ่งเป็นแผนการดำเนินงานในด้าน Zero Carbon Emission Program ในทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาอาคารสีเขียว (Green Building) การติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาอาคาร รวมถึงการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อตอกย้ำถึงความใส่ใจและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
โรดแมป 5 ปี พร้อมลงทุน 2 หมื่นล้านบาท
การเดินทางใน 5 ปีข้างหน้าต่อจากนี้ รชฎกล่าวถึงโรดแมปภายในปี 2025-2029 ว่า SCX จะลงทุนใน 5 ปีข้างหน้าราว 2 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2029 ตั้งเป้าสร้างกำไรจากกลุ่มธุรกิจ Recurring Income สัดส่วนมากกว่า 25% ของกำไรรวมทุกกลุ่มทุกธุรกิจของ SC Asset และ SCX จะมีมูลค่า Assets Portfolio รวมสูงถึง 4 หมื่นล้านบาท โดย EBITDA ภายในปี 2029 จะอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท และมีกำไรจาก 3 กลุ่มธุรกิจเท่าๆ กัน รชฎยังกล่าวว่า หาก SCX เดินทางไปตามเป้าหมาย การเข้าสู่ตลาดหุ้นภายในปี 2028-2029 ก็มีความเป็นไปได้
โรดแมป 5 ปีของ SCX
ในปี 2025 จะมี Asset Portfolio ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท และเริ่มลงทุนที่ 5,000 ล้านบาท ตั้งเป้าสร้างรายได้ 2,000 ล้านบาทต่อปี และตั้ง EBITDA ปี 2025 ไว้ที่ 1,000 ล้านบาทต่อปี
“เรามีความเชื่อว่าเราลงทุนในสิ่งใดเราพร้อมจะไปถึงภายใต้วิสัยทัศน์ Prospering Expedition ที่จะเป็นการเดินทางธุรกิจอันรุ่งโรจน์จากการสร้างธุรกิจที่ยืดหยุ่นและมีความหลากหลาย เราเป็นธุรกิจที่เป็น Lifestyle Solution Provider ที่มีสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ เราจึงมีพันธกิจ The Way Forward ที่พร้อมหาและเข้าสู่ธุรกิจใหม่ๆ เสมอ เหมือนกับตัว X ใน SCX ที่เหมือนกับนกกระเรียนที่บินหาน่านน้ำใหม่อยู่เสมอ” รชฎกล่าวปิดท้าย