ฟุตบอลโลกเป็นมหกรรมการแข่งขันกีฬาที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุก 4 ปี แต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่ทุกทีมจะได้รับการการันตีว่าจะได้ผ่านเข้ามาโชว์ฝีเท้าในรอบสุดท้าย
โดยเฉพาะกับชาติเล็กๆ ที่ไม่ได้เป็นมหาอำนาจทางลูกหนัง บางครั้งพวกเขาต้องรอคอยกันนานหลายสิบปี หรือบางทีรอกันเป็นชั่วอายุคนก็มี
เปรูเป็นหนึ่งในชาติที่เข้าข่ายเช่นนี้ เพราะครั้งสุดท้ายที่พวกเขาได้ผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายคือปี 1982 ในฟุตบอลโลกที่ประเทศสเปน หรือกว่า 36 ปีผ่านมาแล้ว
ดังนั้นฟุตบอลโลกครั้งนี้จึงเป็นฟุตบอลโลกที่มีความหมายอย่างยิ่งสำหรับชาวเปรูทั้งประเทศ และทำให้แฟนบอลชาว ‘เปรูเวียน’ ต้องการที่จะติดตามมาเพื่อเชียร์ทีมรักของพวกเขาให้ได้
ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม!
และนั่นนำมาสู่เรื่องราวการผจญภัยที่น่าเหลือเชื่อของเหล่าแฟนๆ ‘Los Incas’ (สมญานามของทีมเปรู)
ระยะทางไม่อาจขวางกั้น
สำหรับชายวัย 80 ปี ปกติอายุปูนนี้แล้วมักจะใช้เวลาอยู่บ้านเลี้ยงดูลูกหลานไปตามเรื่อง
แต่ไม่ใช่สำหรับ มานูเอลิโต ขรัวเฒ่าวัย 80 ปีที่หัวใจเหมือนคนอายุ 18 ซึ่งตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะต้องตามไปเชียร์เปรูในฟุตบอลโลกที่รัสเซียให้ได้
เพราะมันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขาแล้ว
ดังนั้นถึงจะต้องเดินทางอย่างหฤโหดด้วยการบินถึง 3 ไฟลต์ และนั่งรถไฟรอบดึกอีก 10 ชั่วโมงเพื่อจะมาให้ถึงเมืองซารันสค์ แต่มานูเอลิโต, เอ็ดการ์ และเพื่อนร่วมทางอีกหลายคนยินดีเหนื่อยเพื่อที่จะมาให้กำลังใจทีมรักให้ได้
“การเดินทางมันอาจจะโหดร้ายสำหรับผมสักหน่อย แต่ผมจะพลาดมันได้อย่างไร” มานูเอลิโตกล่าว
“พวกเรารอคอยมันมาอย่างยาวนาน ตัวผมเองก็รอคอยมายาวนานที่จะได้ร้องเพลงของเราบนแผ่นดินประเทศอื่นอีกครั้ง”
น่าเสียดายที่ในเกมแรกของการกลับมาในรอบ 32 ปี ทีมของพวกเขาจะต้องพลาดท่าพ่ายต่อเดนมาร์กในเกมแรกแบบน่าเสียดาย
“เขาน่าจะใจเย็นกว่านี้อีกหน่อย” เอ็ดการ์กล่าวถึงจังหวะที่คริสเตียน เกวา มีโอกาสได้หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ แต่กลับซัดพลาดไปอย่างน่าเสียดาย “แต่มันก็เป็นแค่เหตุการณ์หนึ่งซึ่งไม่สำคัญหรอก เรายังเหลืออีกสองแมตช์ และเราจะเอาชนะให้ได้”
น้ำเสียงหนักแน่นแบบนี้เป็นน้ำเสียงของแฟนเปรูที่แท้จริงซึ่งยกทัพตามมาเชียร์ถึงรัสเซีย และสามารถสร้างสีสันให้กับการแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ได้อย่างน่าประทับใจ
แต่ใต้สีสันที่สวยงามมันแฝงไว้ด้วยความเจ็บปวดบางอย่าง
เพราะรักจึงยอมทุกอย่าง
เปโดร หรือที่เขาอยากให้เรียกตัวเองว่าเปร์ริโต ตัดสินใจลาออกจากงานที่ปานามาเพื่อจะเดินทางมารัสเซีย โดยเขาได้พบกับเพื่อนใหม่ อเล็กซิส ซึ่งก็ดันอยากเรียกแทนตัวเองว่าเปร์ริโตอีกเหมือนกัน! ที่ตัดสินใจทุบกระปุกออมสินเอาเงินที่มีทั้งหมดมาเพื่อใช้ในการเดินทางไกลที่กินระยะเวลายาวนานกว่า 2 เดือน
พวกเขาไม่ได้มั่งมีมาจากไหน ดังนั้นเพื่อจะไล่ตามความฝัน พวกเขาพร้อมจะเลือกวิธีการเดินทางที่ยากลำบาก ขอแค่สองอย่างเท่านั้นคือ ราคาถูก และถึงที่หมาย
กว่าจะมาถึงรัสเซีย เปร์ริโตทั้งสองต้องขึ้นเครื่องบินมาลงที่กรุงมาดริด ก่อนที่จะต้องใช้ชีวิตแบบระหกระเหิน นอนบนโซฟาบ้าง แชร์รถกับคนอื่นบ้าง เนียนโดดขึ้นเรือที่ฟินแลนด์ก็ทำมาแล้ว เพราะพวกเขาไม่มีเงินมากพอที่จะนั่งเครื่องบินมาให้ถึงปลายทางที่รัสเซียได้
และการเดินทางนั้นไม่ได้มีแต่ขาไป เพราะยังมีขากลับด้วย ซึ่งทั้งเปโดรและอเล็กซิสบอกว่าพวกเขาอาจจะต้องใช้เวลาในการเดินทางร่วม 2 เดือนเพื่อกลับไปในที่ที่จากมา แต่มันไม่ใช่เหตุผลหรือข้ออ้างใดๆ ที่พวกเขาจะไม่มาปรากฏตัวที่นี่
อเล็กซิสยังเล่าว่าเขาเจอแฟนบอลเปรูคนหนึ่งที่ ‘ปั่นจักรยาน’ มาจากอิตาลี
และน่าจะมีอีกหลายเรื่องราวการเดินทางที่น่าเหลือเชื่อของแฟนเปรู
บางคนถึงขั้นขายรถ บางคนเอาบ้านไปจำนองกับแบงก์ บ้างก็ไม่สามารถจะลาหยุดเป็นระยะเวลายาวๆ ได้ จึงตัดสินใจลาออกจากงานในต่างประเทศและเตรียมกลับไปใช้ชีวิตในบ้านเกิดเลยทีเดียว
“มันเป็นเพราะความรัก” อเล็กซิสพูดแทนความรู้สึกในของคนเปรูทุกคน
และความรักที่ชาวเปรูมีต่อทีมชาติของพวกเขาได้สร้างความประทับใจให้เกิดขึ้นกลางอกของเจ้าบ้านอย่างรัสเซีย
“พวกเขามหัศจรรย์มาก เป็นแฟนๆ ที่ดูมีความสุขมาก” นีนา หนึ่งในอาสาสมัครชาวรัสเซียที่ได้เห็นแฟนเปรูตลอดหลายวันที่ผ่านมา “หลังจบเกมพวกเขาอาจจะเศร้า เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมมันน่าเจ็บปวดมาก แต่ทุกคนยังดูมีพลังและทำให้รู้สึกอบอุ่นตลอดเวลา มันเป็นอะไรที่พิเศษมาก สำหรับฉันพวกเขาพิเศษมากจริงๆ”
ระหว่างที่นีนาพูด เปโดรได้เดินเข้ามาหาอาสาสมัครอีกคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ พร้อมกับติดเข็มกลัดที่ทำจากผ้าแถบสีแดงและขาวที่สายสะพายของอาสาสมัครคนนั้น
“มันเป็นการแสดงออกเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ได้ใช้เงินอะไรมากมาย แต่มันมีความหมายมหาศาล”
โทนี และทิฟฟานี สองสามีภรรยาชาวเดนมาร์กที่ติดตามมาเชียร์ทีม ‘โคนม’ ด้วยยังอดรู้สึกชื่นชมไปด้วยไม่ได้
“แฟนๆ เปรูพวกนี้ได้แสดงให้เราทุกคนได้เห็นว่าความหมายที่แท้จริงของเกมฟุตบอลนั้นคืออะไร”
คืนนี้พวกเขาจะลงสนามเกมที่ 2 พบกับฝรั่งเศสที่เมืองเยคาเตรินเบิร์ก ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของซารันสค์ ก่อนจะต้องเดินทางลงไปใต้สุดเพื่อให้กำลังใจทีมในเกมสุดท้ายที่จะพบกับออสเตรเลียที่เมืองโซชิ
ไม่ว่าจะต้องเดินทางให้ไกลถึงไหนกัน เปรูจะมีกันและกันเสมอ
อ้างอิง: